จับครบแล้วแก๊ง 'ปืนออนไลน์' ขายให้เยาวชน 14 หลังศาลออกหมายจับ 3 ราย
จับครบแล้ว 3 ผู้ต้องหาขาย "ปืนออนไลน์" ให้เยาวชน 14 พบเส้นทางการเงินเชื่อมโยงซื้อขายจริง ค้นบ้าน ใน จ.ยะลา พบกระสุนแบลงค์กันกว่า 200 นัด และท่อเหล็กอุปกรณ์ดัดแปลง พบเปิดขายปืนมา 5 เดือน ก่อนปิดเพจหนีหลังเกิดเหตุ
5 ต.ค. 2566 จากการขยายผลกวาดล้างอาวุธปืนเถื่อนที่มีการขายกันอย่างแพร่หลายในโลกออนไลน์ นำไปสู่การขอหมายจับ โดยพนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา รวบรวมพยานหลักฐานยื่นศาลอาญากรุงเทพใต้ ขออนุมัติหมายจับ 3 ผู้ต้องหาที่มีความเกี่ยวข้องกับกรณีเยาวชน 14 ปี นำอาวุธปืนไปก่อเหตุยิงภายในห้างสรรพสินค้า สยามพารากอน จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บ เมื่อวันที่ 3 ต.ค. 2566 ภายหลังเยาวชน 14 ปี ผู้ก่อเหตุให้การว่าซื้ออาวุธปืนแบลงค์กันมาจากทางเพจเฟซบุ๊กรายหนึ่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่าบุคคลทั้ง 3 ราย เป็นผู้ที่จำหน่ายอาวุธปืนแบลงค์กันให้
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถจับกุมได้แล้ว 2 รายคือ นายสุวรรณหงษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี และนายอัครวิชญ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี โดยจับกุมได้ที่บ้านหลังหนึ่ง ใน ต.สะเตง อ.เมืองยะลา จ.ยะลา พร้อมของกลาง หลายรายการ อาทิ กระสุนแบลงค์กัน 209 นัด , ปลอกกระสุนใช้แล้วทิ้ง 33 ปลอก , หัวกระสุนขนาด 9 มม. 1 หัว , ท่อเหล็กสำหรับดัดแปลงปืนเส้นผ่าศูนย์กลาง 15 ม.ม. จำนวน 33 แท่ง รวมถึงสลิปกดเงินของธนาคารจำนวนหนึ่ง
จากแนวทางการสืบสวนพบว่าเยาวชน 14 ปี ได้ซื้อปืนแบลงค์กัน ผ่านช่องทางออนไลน์ เป็นปืนยี่ห้อ กล็อก 19 ซึ่งเป็นอาวุธชนิดเดียวกับที่ใช้ก่อเหตุ จากนายสุวรรณหงษ์ (สงวนนามสกุล) และมีการโอนเงินซื้อขายกันจริง ในวงเงิน 16,000 บาท โดยนายสุวรรณหงษ์ ได้มีการกดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม จากปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.ยะลา ด้วยตัวเอง
และเจ้าหน้าที่ยังพบว่ามีผู้เกี่ยวข้องอีกหนึ่งรายคือนายอัครวิชญ์ (สงวนนามสกุล) ซึ่งอยู่ในพื้นที่ จ.ยะลา เช่นเดียวกัน โดยเจ้าหน้าที่พบ นายอัครวิชญ์ เป็นเจ้าของเพจเฟซบุ๊ก "กุนซือ ยาบี" ซึ่งเป็นช่องทางในการขายอาวุธปืนแบลงค์กัน เปิดมาแล้วประมาณ 5 เดือน ก่อนที่จะปิดลงไปเมื่อวันที่ 5 ต.ค. 2566 ที่ผ่านมา
จากการสอบปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้ง 3 รายยังคงให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่จึงทำบันทึกจับกุมที่สภ.เมืองยะลา ก่อนควบคุมตัวทั้งคู่มาสอบปากคำเพิ่มเติมและดำเนินคดีที่ สน.ยานนาวา
ส่วนผู้ต้องหาตามหมายจับอีกรายคือ นายปิยะบุตร (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี สามารถจับกุมได้ที่กรุงเทพฯ โดยทั้งหมดจะถูกดำเนินคดีในข้อหา "ร่วมกันมีอาวุธและเครื่องกระสุนปืน โดยไม่ได้รับอนุญาต , ร่วมกันจำหน่ายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต"