ข่าว

'ผบ.ตร.' ลงนามสั่งให้ข้าราชการตำรวจ 'รักษาราชการแทน'

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'บิ๊กต่อ' ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงนามสั่งให้ข้าราชการ ในหน่วยงานที่ ผู้ ผบช. ผบก. เกษียณอายุราชการ ให้ รอง ผบช. หรือ ผู้การ หรือ ตำรวจผู้มีอาวุโสสูงสุด 'รักษาราชการแทน' เหตุตำรวจลาออกจากราชการตาม โครงการเออรี่ ส่งผลให้มีตำแหน่งต่างๆ ว่างลง

1 ต.ค.2566 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ลงนามในหนังสือถึง ผู้บัญชาการ กองบัญชาการ ที่ผู้บัญชาการหรือ ผู้การฯเกษียณอายุ​ราชการ​ มีคำสั่ง ให้ รองผู้บัญชาการหรือผู้การฯรักษาราชการแทน ไปก่อน โดยระบุว่า 

 

 

 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)

ด้วยสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ.2566 มีข้าราชการตำรวจพ้นจากราชการเพราะเกษียณอายุและอนุญาตให้ข้าราชการตำรวจลาออกจากราชการตามโครงการปรับเปลี่ยนกำลังพล ส่งผลให้มีตำแหน่งต่างๆ ว่างลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการ ซึ่งต้องทำหน้าที่บริหารหน่วยงานตามอำนาจหน้าที่ 

 

 

ผบ.ตร. สั่งการให้ รักษาราชการแทน

 

 

เพื่อให้การปฏิบัติราชการและการบริหารราชการในภาพรวมของ ตร. เป็นไปด้วยความเรียบร้อยในแนวทางเดียวกัน ในกรณีที่ผู้มีอำนาจสั่งรักษาราชการแทนไม่สั่งให้ข้าราชการตำรวจผู้ใดรักษาราชการแทนในตำแหน่งต่างๆ ให้ข้าราชการตำรวจผู้มีอาวุโสสูงสุดตามระเบียบ ก.ตร. ว่าด้วยการกำหนดลำดับอาวุโสของข้าราชการตำรวจในการรักษาราชการแทน พ.ศ. 2557 เป็นผู้รักษาราชการแทนในตำแหน่งนั้น ตามความในมาตรา 105 วรรคสอง ประกอบมาตรา  179 แห่ง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 

 

 

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 28 ก.ย. 2566 ที่ผ่าน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งอนุญาตให้ข้าราชการตำรวจลาระดั บ ดาบตำรวจ ถึง พล.ต.ท. ออกจากราชการ ตามหลักเกณฑ์ของโครงการปรับเปลี่ยนกำลังพล รุ่นที่ 24  จำนวนถึง 1,407 นาย

 

โดยทุกปีจะมีตำรวจ ยื่นขอเข้าโครงการปรับเปลี่ยนกำลังพล หรือ เออรี่  ซึ่งในปี 2566 มีตำรวจขอเออรี่ มากสุด  จากสถิติย้อนหลัง 5 ปี โดย ปี 2562 จำนวน  933 นาย ปี 2563 จำนวน 849 นาย ปี 2564 จำนวน 975 นาย ปี 2565 จำนวน 1,275 นาย  ปี 2566 จำนวน 1,407 นาย


 

โดยเหตุผลที่ ตำรวจเข้าร่วมโครงการสับเปลี่ยนกำลังพล หรือ เออรี่ มีทั้งรู้สึกเบื่อกับระบบในการทำงาน และ  รู้สึกหมดหวังสูญสิ้นศรัทธาในระบบข้าราชการตำรวจ


 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ