ข่าว

ทนายกระดูกเหล็ก 'อนันต์ชัย' ยันเดินหน้าบิ๊กเซอร์ไพร์ส ยัน 2 บิ๊กไร้ปัญหากัน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ทนายกระดูกเหล็ก "อนันต์ชัย" ยัน เดินหน้าบิ๊กเซอร์ไพร์สต่อไม่ล้มเลิก แต่ขอเลื่อนวัน เหตุเอกสารยังไม่ครบ สั่ง "บิ๊กโจ๊ก" งดให้สัมภาษณ์สื่อเรื่องคดี เกรงทำให้คนอื่นเดือดร้อน ย้ำ "บิ๊กต่อ-บิ๊กโจ๊ก" ไม่ได้ทะเลาะกันปม

29 ก.ย. 2566 นายอนันต์ชัย ไชยเดช ในฐานะทนายความ ทำคดีให้กับพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล  หรือ บิ๊กโจ๊ก รองผบ.ตร. และตำรวจอีก 8 นาย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุข้อความว่า 

 

ธนู เมื่อขึ้นสายแล้ว ต้องยิงให้เต็มเหนี่ยวและตรงตรงเป้าหมาย !
         

ขณะที่แม่ทัพออกรบอยู่บนหลังม้า ได้เล็งและยิงลูกธนูออกไปยังศัตรูฝ่ายตรงข้าม ทุกดอกที่ยิงออกไปถูกศัตรูอย่างแม่นยำ จนศัตรูถึงแก่ความตาย และกำลังเล็งจะยิงอีก 1 ดอก ไปยังแม่ทัพของศัตรู ซึ่งหากยิงธนูดอกนี้ไปการรบครั้งนี้จะชนะทันที 
         

แต่ในขณะที่แม่ทัพกำลังจะยิงธนูนั้น มีพระราชโองการจากฮ่องเต้ว่า ให้ถอยทัพเพราะศัตรูขอเจรจา แม่ทัพจะทำอย่างไร ???
         

ถ้าถามผม ผมจะตอบว่า “ เกาทัณฑ์ เมื่อขึ้นสายแล้ว ก็ต้องยิงให้เต็มเหนี่ยว และตรงเป้าหมาย “ ถ้าผมเป็นแม่ทัพ ผมยิง แม้จะขัดราชโองการและแม้จะกลับมาถูกตัดหัวก็ตาม เพราะแม่ทัพจะชนะศึกครั้งนี้ทันที ศัตรูจะเกรงกลัวไม่กล้าต่อกรอีกต่อไป 
       

 #ในสนามรบแม่ทัพย่อมใหญ่กว่าฮ่องเต้ แล้วถ้าท่านเป็นแม่ทัพ ท่านจะตัดสินใจอย่างไร  ????
                       

นายอนันต์ชัย ทนายความ โพสต์เฟซบุ๊ก

 

 

ผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถามไปยัง นายอนันต์ชัย ทนายความ กรณีบิ๊กเซอร์ไพร์สที่ให้สัมภาษณ์ไว้ก่อนหน้านี้จะยังเกิดขึ้นหรือไม่  นายอนันต์ชัย ระบุว่า "ผมเป็นแม่ทัพ ฮ่องเต้สั่งให้หยุด ผมก็ไม่หยุด แม้จะโดนประหารก็ตาม"

 

เมื่อถามว่ามีใบสั่งหรือมีอุปสรรคอะไรในตอนนี้หรือไม่ นายอนันต์ชัย ระบุว่า "มีนิดหน่อย แต่อย่าไปพูดถึงเลย" พร้อมยืนยันว่ายังมีบิ๊กเซอร์ไพร์สเช่นเดิม แต่ขอเปลี่ยนจากวันอังคารที่ 3 ต.ค.เป็นวันพฤหัสที่ 5 ต.ค.  เนื่องจากยังขาดเอกสารอยู่ 2-3 ฉบับ รวมถึงยังต้องเดินทางไปต่างจังหวัดและว่าความที่ศาลฯด้วย แต่ยืนยันแน่นอนว่ายังมีบิ๊กเซอร์ไพร์สในสัปดาห์หน้าอย่างแน่นอน ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เนื่องจากว่าทุกอย่างพร้อมแล้ว

 

 

นายอนันตชัย ทนายความ เดินหน้า บิ๊กเซอร์ไพร์ส

 

 

ในส่วนการพูดคุยกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หรือบิ๊กโจ๊ก ในการเดินหน้าฟ้องร้องคดีต่างๆ นั้น นายอนันตไชย บอกว่า ก็คุยกันประจำอยู่แล้ว ซึ่งก็ได้กำชับบิ๊กโจ๊กว่า "ถ้าจะให้ตัวเองเป็นทนายความ ต้องหยุดการให้สัมภาษณ์นักข่าว และต้องให้ตนเองเป็นผู้ให้สัมภาษณ์ได้คนเดียว" เพราะเวลาพูดไปแล้ว จะทำให้คนอื่นเดือดร้อน อย่างเช่นนักข่าวที่ได้รับความเดือดร้อนไปด้วย

 

ทนายอนันต์ชัย เชื่อมินนี่ ให้สัมภาษณ์ เป็นประโยชน์ต่อคดี

 

 

ส่วนประเด็นของมินนี่ที่จะมีการพูดคุยกันนั้น นายอนันต์ชัย ระบุว่า ตนเองก็อยากพูดคุยกับมินนี่ เช่นกันในประเด็นที่มินนี่ให้สัมภาษณ์ไว้เมื่อวานนี้ แต่ก็ยังไม่ได้พูดคุยกัน โดยเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีมาก จึงพยายามนัดหมายให้มาเจออยู่ แต่เนื่องจากตนเองก็ติดไปต่างจังหวัด และตัวมินนี่ก็จะบินกลับไปสิงคโปร์ด้วย

 

จึงอยากบอกให้ทุกคนฟังว่า คนที่เขาไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่ไปยืนยันการันตีว่าผิดคือผิด คุณไปการันตีอะไรได้ขนาดนี้น แล้วคุณไปเกี่ยวข้องอะไร ไม่ได้เป็นผู้พิพากษา คุณพูดแทนหมดเลย ไม่เหฌนใจเขาบ้างเหรอเขาเป็นผู้หญิง และต่อให้เขาผิด คุณก็ไม่มีสิทธิไปประจานเขา

 

ส่วนกรณีภาพที่ปรากฎระหว่างพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ บิ๊กโจ๊ก และพล.ต.อ.ต่อศักดิ์   บิ๊กต่อ ในฐานะว่าที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาตินั้น ตนเองมองว่าจริงๆ เขาไม่ได้ทะเลาะกัน จึงอยากให้ทุกคนเข้าใจว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มีอายุราชการอีกหลายปี อย่าดึงท่านเข้าไปเกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

 

 

ทนายอนันต์ชัย ยืนยัน บิ๊กต่อ และ บิ๊กโจ๊ก ไม่มีปัญหากัน

 

 

ถึงแม้ว่าท่านจะมีคุณสมบัติครบถ้วนก็ตาม แต่ท่านก็ไม่ได้สนใจเรื่องนี้ และการชิงตำแหน่งในครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับพล.ต.อ.สุรเชษฐ์เลย เพราะคนอื่นอายุราชการน้อยเหลือแค่ปีเดียว แต่นักข่าวไปประโคมข่าวกันเองว่า ท่าน 2 คนทะเลาะกัน ซึ่งจริงๆ ไม่ใช่

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ