เปิดตัว 'ทนายอนันต์ชัย' ทนาย 'บิ๊กโจ๊ก' เปิดฉายาใหม่ ไม่ใช่ โจ๊กหวานเจี๊ยบ

ความคืบหน้าคดีสะเทือนวงการสีกากี หลังการบุกค้นบ้านของ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และจับกุมตำรวจลูกน้องคนสนิท 8 นาย ถูกตั้งข้อกล่าวหาพัวพันเว็บพนัน ล่าสุด บิ๊กโจ๊ก แต่งตั้งทีมทนายความ โดยมี “ทนายอนันต์ชัย” เป็นหนึ่งในทีมทนายความ

นายอนันต์ชัย ไชยเดช พร้อมทีมทนายความ เดินทางมาที่สโมสรตำรวจ เพื่อเข้าหารือกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หลังได้รับการแต่งตั้งทนายอนันตชัย กล่าวว่า เมื่อคืนได้รับการติดต่อจาก “บิ๊กโจ๊ก” ให้ดูแลใน 2 ส่วน โดยส่วนแรกดูแลเรื่องกรณีมีบุคคลไม่หวังดีกลั่นแกล้ง รวมไปถึงเรื่องของการค้นบ้าน ส่วนที่ 2 คือเรื่องของผู้ใต้บังคับบัญชา ที่โดนออกหมายจับ 8 คน ซึ่งจะต้องมาดูกันว่าส่วนไหนมีข้อพิรุธ แต่ถ้าหากตรวจสอบแล้วพบว่ามีความผิด ก็ว่าไปตามผิด จะไม่ปกป้องคนทำผิดอย่างเเน่นอน

 

   

ทนายอนันต์ชัย กล่าวอีกว่า ตนเคยเป็นทนายความของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวช อดีตผู้บัญชาการตำรวจเเห่งชาติมาก่อน ซึ่งเหตุการณ์ในลักษณะนี้ ก็เคยเกิดขึ้นในสมัยของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ แต่ครั้งนั้นมองว่าหนักกว่าของบิ๊กโจ๊ก จึงรู้สึกไม่หนักใจ และเบื้องต้นก็ได้พูดคุยกันในทีมทนายเเล้วว่า หลังจากนี้การให้สัมภาษณ์ใดๆ ก็ตาม จะต้องผ่านทีมทนายความเท่านั้น เพื่อรักษาภาพลักษณ์ เเล้วไปสู้กันในศาล

ทั้งนี้ ตนเองตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใด เหตุการณ์นี้ต้องมาเกิดก่อนที่จะมีการเลือกผู้บัญชาการตำรวจเเห่งชาติคนใหม่ ตนเชื่อว่าประชาชนหรือแม้กระทั่งเด็กอนุบาลก็น่าจะมองออกว่า ปฏิบัติการค้นบ้านมีเจตนาอะไร และการออกหมายค้น ก็มองว่าไม่ปกติ เพราะท่านมีตำแหน่งเป็นถึงรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นอกจากนี้ การเอาหน่วยคอมมานโดบุกไปที่บ้าน เป็นเรื่องที่ไม่สมควร

 

 

“ผมไม่เชื่อว่าตำรวจที่ไปค้นบ้าน จะไม่รู้ว่าเป็นบ้านของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ดังนั้น การกระทำนี้ว่าเป็นการกลั่นเเกล้ง ดิสเครดิตอย่างเเน่นอน หน้าที่ของผมคือจะต้องทำความจริงให้ปรากฏ ถ้าอึมครึมอยู่แบบนี้ ชื่อเสียงเกียรติยศป่นปี้หมด” ทนายอนันต์ชัยกล่าว

ส่วนเรื่องที่มีภาพของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ปรากฎร่วมกับ “มินนี่” เจ้าของเว็บพนันออนไลน์ แล้วถูกนำมาโยงกันนั้น ทนายอนันต์ชัย กล่าวว่า การเป็นบุคคลสาธารณะ เวลาจะเดินทางไปที่ไหน ย่อมมีคนมาขอถ่ายรูปเป็นปกติอยู่แล้ว ซึ่งคนที่มาขอถ่ายรูป หรือร่วมเฟรมภาพ อาจจะมีทั้งคนดี รวมไปถึงคนที่ทำผิดกฎหมายปะปนกันไป ดังนั้น การที่ถ่ายรูปกับคนที่กระทำผิดกฎหมายก็ไม่ได้หมายความว่า บุคคลผู้นั้นจะมีความผิดไปด้วย

 

 

อีกทั้ง การที่ผู้ใต้บังคับบัญชาทำผิด ไม่ได้หมายความว่า ผู้บังคับบัญชาจะทำผิดด้วย เพราะเรื่องเส้นทางการเงินทั้งหมดนั้นตนทราบหมดแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม และต่อจากนี้ จะไม่ให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์พูดอีกแล้ว ทนายความจะเป็นผู้พูดแทนทั้งหมด

 

“ไม่ต้องกลัว งานนี้ผมเอาอยู่ และจะขอเปลี่ยนฉายาให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ใหม่ จาก “โจ๊กหวานเจี๊ยบ” เป็น “โจ๊กอัคนี” สื่อถึงเปลวเพลิงที่เผาทุกสิ่งทุกอย่าง เเละมีความเเข็งเเกร่ง” ทนายอนันต์ชัย ย้ำความมั่นใจ

 

   

ส่วนกรณีการเช็คบิล ทนายอนันต์ชัย กล่าวว่า จะมีการตั้งวอลรูม ทีมทนายความขึ้นมา และดูการให้สัมภาษณ์ของแต่ละบุคคลผ่านสื่อ รวมถึงสื่อมวลชนด้วย รวมถึงดูประเด็นต่างๆ ทั้งระบบ ใครออกเอกสารอะไรเปิดเผยมา ใครหมิ่นประมาท จะไล่เช็คบิลทั้งหมด และหากพบว่าใครที่พาดพิง ก็จะมาพิจารณาว่าจะฟ้องร้องดำเนินคดีหรือไม่