ข่าว

พยานเพียบ วินาทียิง 'สารวัตรแบงค์' อยู่ระหว่างพิจารณาหลักฐาน-คำให้การ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รองผู้บังคับการกองปราบปราม ย้ำ มีพยานหลายปากให้การวินาทียิง 'สารวัตรแบงค์' ชัด อยู่ระหว่างพิจารณาหลักฐาน-คำให้การ ก่อนแจ้งข้อหาละเว้นปฏิบัติหน้าที่เพิ่ม

พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม เดินทางเข้ามาประชุมที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 โดยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า วันนี้ทีมของกองปราบฯ เข้ามาทำการสอบสวนพยานที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม เนื่องตอนนี้ส่วนของทางคดีในเรื่องของสำนวนทางพลตำรวจเอกดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ลงนามโอนสำนวนทั้ง 2 เรื่อง คือ เรื่องคดี 'กำนันนก' สั่งการให้ยิง 'สารวัตรแบงค์' และเรื่องคดีทุจริตตำรวจทั้ง 6 นาย ไปที่กองปราบฯ แล้ว

 

 

โดยหลังจากรับโอนสำนวนมา ขั้นตอนหลังจากนี้ ก็จะต้องมาตรวจสอบข้อเท็จจริงในสำนวนว่า สำนวนเดิมดำเนินการครบถ้วนสมบูรณ์หรือไม่ ถ้าครบถ้วนถูกต้องแล้ว ก็ไม่ต้องดำเนินการอะไรเพิ่มเติม แต่หากยังไม่ครบถ้วนถูกต้อง เราก็จะต้องทำให้ครบถ้วนสมบูรณ์

 

 

ในส่วนของประเด็นตำรวจที่อยู่ในที่เกิดเหตุ จะถูกแจ้งข้อกล่าวหาหรือไม่นั้น พันตำรวจเอกเอนก ระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณา ประกอบกับต้องดูพยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิด และดูพฤติการณ์ต่างๆ ว่า แต่ละคนได้ดำเนินการอย่างไรบ้าง ซึ่งต้องนำข้อเท็จจริงมาพิจารณากัน

 

 

ส่วนเรื่องตำรวจให้การไม่ตรงกันนั้น ส่วนนี้จะจริงหรือให้การเท็จ ต้องดูว่าในการสอบสวนครั้งแรกที่ทางตำรวจแต่ละนายให้การไว้นั้น ได้ให้การไว้ครบถ้วนหรือไม่ เพราะบางกรณีอาจจะให้การไว้ในมุมที่เขารับรู้ แต่ว่าภายหลังที่ได้สอบกันเพิ่มเติม เขาอาจให้การเพิ่มเติมขึ้นมา อย่างนี้เรียกว่า "ไม่ได้ให้ข้อมูลเท็จ" แต่ในบางรายก็มีให้การว่า "ไม่รู้ ไม่เห็นเลย" แต่ภายหลังบอกว่า "รู้เห็น" ขึ้นมา ซึ่งก็ต้องดูไปในแต่ละเรื่องและอยู่ระหว่างพิจารณาว่าเข้าข่ายให้การเท็จหรือไม่

 

 

พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม

 

นอกจากนี้ในกรณีของ 'ผู้กำกับเบิ้ม' ที่เสียชีวิตไปแล้ว เข้าข่ายถูกดำเนินคดีข้อหา "ละเว้นการปฎิบัติหน้าที่" หรือไม่ / เรื่องนี้ทาง 'ผู้กำกับเบิ้ม' ได้ให้การกับพนักงานสอบสวนที่ สภ.เมืองนครปฐม ไปแล้ว ซึ่งประเด็นการแจ้งข้อกล่าวหา ยังไม่มีข้อยุติว่าใครละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ เพราะขณะนี้ยังต้องดูข้อมูลอย่างละเอียด ทั้งภาพจากกล้องวงจรปิด และพฤติการณ์ของพยานที่เกี่ยวข้องรู้เห็น ซึ่งอยู่ระหว่างพิจารณาว่าใครเข้าข่ายข้อหาละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ (157)

 

 

โดยทั้งหมดต้องขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง และจะต้องแบ่งตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วย ทั้งตำรวจที่เสียชีวิตและบาดเจ็บ 2 นายนี้ ถือเป็นผู้เสียหายในทางคดี กับอีกส่วนหนึ่ง คือ ตำรวจที่ช่วยเหลือผู้ต้องหา ซึ่งได้ถูกดำเนินคดีไปแล้ว 6 นาย และอีกส่วนที่เหลือ ก็ต้องดูว่าพฤติการณ์เป็นอย่างไร ซึ่งขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงที่ปรากฏตามกล้องวงจรปิดหรือจากคำให้การพยานอื่นที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย

 

 

ส่วน 'ผู้กำกับพญาไท' ก็ต้องดูข้อมูลอย่างละเอียดด้วยเช่นกัน เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่ยืนยันว่า ทีมพนักงานสอบสวน ทำงานอย่างละเอียด และพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ 

 

 

ขณะเดียวกันมีข้อมูลคำให้การของ 'ผู้กำกับพญาไท' อ้างว่าในช่วงเกิดเหตุ เป็นคนสั่งให้ลูกน้องให้การช่วยเหลือ 'สารวัตรแบงค์' และ 'รองผู้กำกับวศิน' นั้น / เรื่องนี้ก็ต้องดูว่าคนที่เกี่ยวข้องมีข้อมูลยืนยันในเรื่องนี้หรือไม่ เพราะในสิ่งที่แต่ละคนให้การไม่ว่าจะจริงหรือเท็จต้อง ต้องอยู่ในเรื่องของพยานวัตถุกล้องวงจรปิดด้วยเช่นกัน ว่าให้การไปแล้ว สามารถรับฟังได้หรือไม่ แต่เบื้องต้นจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดเรื่องนี้นั้น ไม่สามารถบอกรายละเอียดได้ เพราะอยู่ในสำนวน จึงขอสงวนไว้ 

 

 

เมื่อถามว่า 'ผู้กำกับพญาไท' เรียกว่าแถซ้ำซากหรือไม่ พันตำรวจเอนก ระบุว่า ยังเรียกอย่างนั้นไม่ได้ เพราะถือว่าเขาให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีมาตั้งแต่วันแรก ตั้งแต่ที่ สภ.เมืองนครปฐม และในขั้นตอนที่กองปราบฯ ได้ทำการสอบสวน ซึ่งไม่ได้บิดพริ้วหรือให้การว่าไม่รู้ไม่เห็น

 

 

ทั้งนี้ในส่วนคดียิง 'สารวัตรแบงค์' พ.ต.อ.เอนก ยืนยันว่า มีพยานหลายปากเห็นในวินาทียิง ทั้ง 2 ส่วน ทั้งในส่วนโต๊ะของกำนันนกที่นั่งอยู่ หรือโต๊ะวีไอพีก็ตาม ซึ่งมีความชัดเจนในส่วนของคดียิงแล้ว  

 

 

สำหรับการดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ยิง 'สารวัตรแบงค์' เสียชีวิต ที่ตำรวจแจ้งข้อหาไปแล้ว จะแบ่งเป็น คดีที่เกี่ยวกับการฆ่า ดำเนินคดีทั้งหมด 7 คน

  • นายธนัญชัย หมั่นมาก หรือ หน่อง มือปินที่ยิงสารวัตรแบงค์ ถูกวิสามัญเสียชีวิต
  • นายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ 'กำนันนก' ถูกดำเนินคดีใน 5 ข้อหา ได้แก่ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา , พยายามฆ่าผู้อื่น , มีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต และยิงปืนในเมืองหรือที่ชุมชน 
  • นายสนทยา หรือ เก่ง คนงานบ้านกำนันนกที่นำปืนไปฝัง 
  • นายฐิตินันท์ หรือ โบ๊ท เจ้าหน้าที่เรือนจำกลางราชบุรี แจ้งข้อหาทำลายพยานหลักฐาน เพราะเป็นคนนำเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดไปทิ้ง
  • แม่บ้าน 3 คน โดนแจ้งข้อหา ฐานทำลายพยานหลักฐาน เนื่องจากช่วยกันล้างความสะอาดที่เกิดเหตุ

 

 

ส่วนคดีที่เกี่ยวข้องกับการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ถูกดำเนินคดีไปแล้ว 6 นาย ใน 3 ข้อหา คือ เป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อช่วยไม่ให้ผู้อื่นได้รับโทษ, ร่วมกันทำลาย ซ่อนเร้น, ร่วมกันช่วยเหลือผู้กระทำความผิด ประกอบด้วย 

  • พ.ต.ต.เกียรติศักดิ์ สมสุข ตำแหน่ง สว.สส.สภ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร 
  • ร.ต.ท.ประสาร รอดผล ตำแหน่ง รองสว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. 
  • ร.ต.ต.นิมิตร สลิดกุล ตำแหน่ง รอง สว.จร.สภ.เมืองนครปฐม 
  • ร.ต.อ.ณรงค์ศักดิ์ แตงอำไพ ตำแหน่ง รอง สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. 
  • ร.ต.อ.ณัฏฐพล นาคกร ตำแหน่ง รองสว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. 
  • ร.ต.ต.สรรเสริญ ศรีสวัสดิ์ ตำแหน่ง รอง สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. 

 

 

ส่วนคดีที่เกี่ยวกับอาวุธปืน ดำเนินคดี 3 ราย ประกอบด้วย

  • นายประสงค์ ไทรไกรกระ รปภ.และญาติกำนันนก
  • นายชัชวาล ไทรไกรกระ หรือ เด้ง หลานกำนันนก
  • นายชัชวาลย์ ก้องภัคดีสุข หรือ ต๋อง

 

 

ทั้งสามคนถูกดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ