ข่าว

ย้อนคดี 'ป๋าเหลิม ไวไวควิก' อดีตสว. ซื้อบริการเด็ก คุก 36 ปี

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ย้อนคดี 22 ปี 'เฉลิม พรหมเลิศ' เจ้าของฉายา 'ป๋าเหลิม ไวไวควิก' อดีตสว. ซื้อบริการเด็ก คุก 36 ปี สู่คดีฉาวอีกครั้ง อดีตสว.-ผอ.สำนักพุทธฯ ซื้อบริการเด็ก 15 ปี

 

15 ก.ย. 2566 คดีฉาวสะะเทือนข้าราชการ เกิดขึ้นอีกแล้วเมื่อ อดีต สว., อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ และอดีตข้าราชการ อีกหลายคน ซื้อบริการเด็กอายุ 15 ปี 

 

ตำรวจสภ.บ้านหมอ จ.สระบุรี  ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมด 5 ราย คือ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน อ.บ้านหมอ, ผู้รับเหมาในเขต จ.ลพบุรี, อดีตผอ.สำนักพุทธฯ จ.สระบุรี, เซลล์แมน  และ อดีต สว. ผู้สมัคร และ สส.พรรคการเมืองใหญ่

 

โดยแจ้งข้อกล่าวหากับกลุ่มคนเหล่านี้ "พรากผู้เยาว์ นำไปเพื่อการอนาจาร" ผู้ต้องหาบางคนให้การรับสารภาพ แต่บางคนแบ่งรับแบ่งสู้ และทุกคนได้ขอประกันตัวไปหมดแล้ว

 

 

 

คดีนี้ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่หลายรายซื้อบริการทางเพศเด็กอายุ 15 ปี ซึ่งเป็นคดีที่คล้ายกับเมื่อ 12 ปี ที่แล้วโด่งดังไปทั่วประเทศ เมื่อหลายคนพูดกันติดปากว่า "ป๋าเหลิม ไวไวคลิก"

 

 

 

ย้อนไปเมื่อวันที่ 3 ม.ค. 2544 ผู้ปกครองเด็กหญิงอายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ว่าลูกสาวไปเรียนหนังสือตามปกติ แต่กลับหายตัวไปอย่างลึกลับ

 

 

 

อีก 2 วันต่อมาผู้ปกครองพร้อมเด็กหญิง 14 ปี เดินทางเข้าพบตำรวจ แจ้งว่าเจอตัวลูกแล้ว โดยคำสารภาพของเด็กที่หายไปคือกลัวพ่อทำโทษเรื่องที่ไปค้าประเวณี

 

 

 

ตำรวจสภ.คลองหลวง ต้องเรียกประชุมด่วน เพราะกรณีเด็กค้าประเวณี ได้รับการร้องเรียนจากผู้ปกครอง และครูในย่านนั้นว่ามีเด็กนักเรียนมัธยมวัยอายุ 13-14 ปี นิยมค้าประเวณีกันมากเพื่อหาเงินมาเที่ยว หรือซื้อของแบรนด์เนม

 

 

 

เมื่อตำรวจสอบปากคำเด็กสาวสารภาพว่า เพื่อนนักเรียนรุ่นพี่ ชักชวนให้ไปหลับนอนกับผู้ชายสูงอายุคนหนึ่ง ชายคนนั้นเรียกตัวเองว่า "ป๋าเลิศ"

 

 

 

ครั้งแรกที่มาซื้อบริการคือวันที่ 22 ธ.ค. 2543 เด็กสาวให้การว่าถูกป๋าเลิศ เปิดซิงภายในห้องพักโรงแรมแห่งหนึ่ง ย่าน จ.ปทุมธานี โดยใช้เวลาเพียง 3 นาที นอกจากเธอแล้วยังมีเพื่อนนักเรียนอีก 4 คน ร่วมหลับนอนกับ ป๋าเลิศ ในคราวเดียวกันด้วย แต่ละคนจะใช้เวลาอยู่กับป๋าเลิศ เพียง 3-4 นาทีเท่านั้น

 

 

 

กระทั่งวันที่เด็กสาวเกิดเรื่อง ป๋าเลิศ ให้เอเยนต์จัดเด็กสาวกลุ่มเดิมมาอีก แต่กว่าจะไปก็ค่ำ เพราะทุกคนต้องรอเลิกเรียนก่อน จนทำให้เสร็จงานดึก จึงกลัวพ่อแม่ดุด่า ตัดสินใจไปนอนค้างบ้านเพื่อน จนกลายเป็นเรื่องขึ้นมาที่แม่ต้องไปแจ้งความกับตำรวจ

 

 

 

เมื่อตำรวจสอบสวนเรื่องนี้ความจริงกระจ่างขึ้นมาแทบช็อก เนื่องจาก ป๋าเลิศ ที่เด็กเรียกนั่นคือ นายเฉลิม พรหมเลิศ ขณะนั้นเป็นสว. ชุดที่มาจากการเลือกตั้งครั้งแรก และยังดำรงตำแหน่งถึง รองประธานสว. คนที่ 1

 

 

 

ช่วงเป็นคดีความผู้ปกครองเด็ก ที่เข้าร้องเรียนว่าถูกบุคคลลึกลับ ทั้งข่มขู่ด้วยกำลัง และพยายามปลอบด้วยเงินเพื่อให้ยุติเรื่องที่เกิดขึ้น

 

 

 

แต่ "ครูหยุย" นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สว.กรุงเทพฯ และ "ครูยุ่น" นายมนตรี สินทวิชัย สว.สมุทรสงคราม ในขณะนั้น เข้ามามีบทบาทช่วยเหลือและดูแลความปลอดภัย ตามที่ผู้ปกครองเด็กร้องเรียน

 

 

 

ส่วนของฝ่ายตำรวจ โดย พล.ต.อ.พรศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ ผบ.ตร. (ในขณะนั้น)  รวมทั้ง พล.ต.ท.พิชิต ควรเดชะคุปต์ ผบช.ภาค 1 (ในขณะนั้น) เข้ามาดูแลคดีนี้ด้วยตัวเอง ในที่สุดตำรวจก็รวบรวมพยานหลักฐานแจ้งดำเนินคดีกับ นายเฉลิม 

 

 

 

แม้พยานหลักฐานจะแน่นหนา แต่ตำรวจก็ไม่ได้ทำงานง่ายๆ เพราะมีเพื่อนสว.กลุ่มหนึ่ง ออกมาปกป้องพยายามช่วยเหลือนายเฉลิม ทุกวิถีทาง เริ่มตั้งแต่พยายามลากให้เป็นเรื่องการเมือง ทำนองว่าเป็นการแบล็กเมล์ มีการกลั่นแกล้งกัน เพื่อชิงตำแหน่งรองประธานสว.

 

 

 

เมื่อกระแสสังคมกดดันอย่างหนักกลุ่มสว. ได้พลิกเกมร่วมกันกดดันจน นายเฉลิม ต้องลาออกจากสว. ทำให้ไม่มีอภิสิทธิ์คุ้มครอง จนต่อมาตำรวจเดินหน้าทำคดีต่อจนสามารถสรุปสำนวนส่งให้อัยการสั่งฟ้องได้เมื่อวันที่ 21 มี.ค. 2544

 

 

 

โดย วันที่ 31 ก.ย. 2545 ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษ นายเฉลิม เฉพาะคดีกระทำชำเรารวม 4 กระทง ให้จำคุก 16 ปี ก่อนที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 จะเพิ่มโทษในคดีพรากผู้เยาว์ เพื่อการอนาจารอีก 4 กระทง 20 ปี รวมโทษจำคุกทั้งสิ้น 36 ปี

 

 

 

ขณะที่ ศาลฎีกา พิจารณาพยานหลักฐานต่างๆ แล้ว มีความเห็นพ้องกับศาลอุทธรณ์ ยืนโทษจำคุก นายเฉลิม เป็นเวลา 36 ปี 

 

 

 

กระทั่งปี 2556 นายประเสริฐ อยู่สุภาพ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางคลองเปรม (ในขณะนั้น)  ออกมาเปิดเผยว่า มีการพักโทษ นายเฉลิม เนื่องจากมีอายุเกินกว่า 70 ปี ขึ้นไป  

 

 

 

นายเฉลิม จำคุกมาแล้วประมาณ 4 ปี จึงเสนอให้ได้รับพิจารณาพักโทษ และรายงานตัวคุมประพฤติต่อศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี หลังพักโทษไปแล้ว โทษที่เหลือของนายเฉลิม ถือว่าพ้นโทษแล้ว

 

 

 

นี่เป็นอีกบทเรียนข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ที่หลายคน นิยมซื้อบริการทางเพศเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี สุดท้ายแล้วหนีไม่พ้นกฎหมาย ต้องถูกดำเนินคดีติดคุกหลังวัยเกษียณ

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ