'ตร.ไซเบอร์' ล่า 'ราชาคริปโต' EP5 รวบ 2 ผัวเมียจีน ยึดทรัพย์เพียบ

12  ก.ย. 2566 พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ รอง ผบช.สอท. นำกำลังเปิด ยุทธการTrust No One ล่าข้ามโลก ราชาคริปโต ตัดวงจรทุนคริปโต EP : 5 ปิดล้อม 25 จุด ในพื้นที่ กทม.

 

โดยจุดที่น่าสนใจคือการเข้าตรวจค้นห้องพักย่านพระรามเก้า  เป็นห้องพักชั้น 4 และชั้น 5 ภายในโรงแรมหรู เบื้องต้นคุมตัวนายจาง ฮั่น หลิน (zhang han lin) อายุ 54 ปี และน.ส.โจวหลู่ (Zhou lu) อายุ 29 ปี สามีภรรยาชาวจีน พร้อมของกลาง เงินสดกว่า 4 ล้านบาท หนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุดคอนโดหรู 3 ห้องมูลค่ากว่า 44 ล้าน รถยนต์หรู 3 คัน ประกอบไปด้วย รถปอร์เช่ คาเยนน์ , รถเบนซ์ สีขาว และรถยนต์มินิคูเปอร์ทะเบียนป้ายแดง ,สมุดบัญชีธนาคาร , ไอแพด,กระเป๋าแบรนด์เนม กระเป๋ากระสอบสีรุ้งกว่า 100 ใบ และหนังสือเดินทางจำนวนมาก มีทั้งประเทศจีน กัมพูชา และวานูอาตู เป็นต้น

 

 

 

 

จุดที่สอง ห้องพักในซอยสุขุมวิท 101 เบื้องต้นตรวจคุมตัว น.ส.หลิว เจียหยู (Liu jiayu) ตรวจยึดเอกสารสำคัญจำนวนมาก

 

 

 

 

พล.ต.ท.วรวัฒน์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากทาง บช.สอท.ได้เปิดปฎิบัติการ Trust No One ล่าข้ามโลก ราชาคริปโต Ep1 โดยครั้งนั้น ได้เข้าตรวจค้น 6 จุด ในย่านศรีนครินทร์ และจับกุมผู้ต้องหาชาวจีน ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันฟอกเงิน หลังก่อเหตุใช้โปรไฟล์ปลอมตีสนิทผู้เสียหายผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย  ก่อนจะชวนลงทุนในแพลตฟอร์มปลอมสําหรับเทรดเงินสกุลดิจิทัล ในลักษณะหลอกลงทุนไฮบริดสแกม ซึ่งมีผู้เสียหายในทั่วโลกกว่า 1 หมื่นล้านบาท

 

เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่ามีความเชื่อมโยง กับกลุ่มผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้า โดยกลุ่มนี้จะทำหน้าที่นำเงินที่ได้จากการกระทำผิด ที่ถูกแปรสภาพเป็นเหรียญดิจิทัล มาแลกเปลี่ยนเป็นเงินสด คล้ายกับการฟอกเงิน และกินส่วนต่างค่าดำเนินการ ก่อนที่จะส่งเงินให้กับตัวการใหญ่ ซึ่งทางชุดสืบสวนมีหลักฐานมัดแน่น ว่ามีการนำเงินใส่กระเป๋ากระสอบจำนวนมาก
 

 

 

 

และจากการเข้าตรวจค้นที่ห้องพักย่านพระราม 9 และคุมตัว 2 สามีภรรยา ชาวจีน แต่ถือหนังสือเดินทางกัมพูชาและจากการตรวจสอบประวัติพบว่า นายจาง ฮั่น หลิน มีหมายจับจากทางการจีน จึงถือว่าเป็นคนจีนที่มีหมายจับในประเทศจีน แต่ใช้หนังสือเดินทางประเทศอื่นเข้ามากบดานในไทยเพื่อหลบหนีความผิด

 

 

 

 

และจากการกวาดล้างจับกุมและยึดทรัพย์ขบวนการดังกล่าว  สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน อยู่ในระหว่างขั้นตอนเตรียมประกาศคุ้มครองสิทธิให้กับผู้เสียหายในคดีโดยการยื่นคำร้องขอคุ้มครองสิทธิเพื่อเฉลี่ยทรัพย์ที่ตรวจยึดคืนแก่ผู้เสียหาย ในลอตมูลค่ากว่า 600 ล้านบาท

 

 

 

 

ทั้งนี้ จะนำทรัพย์สินที่อายัดได้ทั้งหมด ส่งให้ ป.ป.ง. ตรวจสอบ และทำการเฉลี่ยทรัพย์คืนผู้เสียหาย การเฉลี่ยทรัพย์คืนในรายละเอียดจากการประสานข้อมูลกันทาง ป.ป.ง. เพื่อให้ผู้เสียหายมายื่นขอเฉลี่ยทรัพย์คืนได้ในวันที่ 15 ก.ย. 2566 และ ในวันที่ 18 ก.ย. 2566  จะแถลงผลการปฎิบัติร่วมกันและคืนเงินให้ผู้เสียหายในส่วนทรัพย์ที่สามารถยึด และเฉลี่ยทรัพย์คืนได้

 

อย่างไรก็ตามในส่วนทรัพย์สินที่เจ้าของโดนยึดมาและยังไม่สิ้นสุดคดี เนื่องจากเจ้าของทรัพย์มายื่นคัดค้านในส่วนนี้ทางปปง.ก็ทำการตรวจสอบทรัพย์สินการได้มา ตามขั้นตอนต่อไป