กรมการปกครอง สั่งควบคุม 'กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน' ปฏิบัติตามระเบียบ

จากกรณีสะเทือนขวัญคดีประวัติศาสตร์ กำนันนก ผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ต.ตาก้อง จ.นครปฐม มีส่วนเกี่ยวข้องต่อการเสียชีวิตของ พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หรือสารวัตรแบงค์ และขยายวงกว้างเข้าไปพัวพันเกี่ยวกับตำรวจ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีนี้ ล่าสุด นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ได้ออกหนังสือด่วนที่สุด ที่ มท.0310.2/26209 เรื่องมาตรการควบคุม กำกับดูแล การปฏิบัติหน้าที่ของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ โดยเรียนถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด 

ตามที่กรมการปกครอง แจ้งกำชับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ ในการประพฤติตนและการใช้อาวุธปืนในการปฏิบัติหน้าที่ และเน้นย้ำการปฏิบัติหน้าที่ของ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ ในการรักษาความสงบเรียบร้อยโดยมุ่งประสงค์ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ดีมีเกียรติและศักดิ์ศรีความเป็นกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ ยึดมั่นและยืนยันในสิ่งที่ถูกต้อ งมีความซื่อสัตย์สุจริตและความรับผิดชอบ ต้องรักษาชื่อเสียงของตนและรักษาเกียรติศักดิ์ของตำแหน่งหน้าที่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ มิให้เสื่อมเสียเป็นแบบอย่างที่ดีของเจ้าหน้าที่รัฐและบุคลากรภาครัฐ ที่ปฏิบัติราชการในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
 

แต่ปัจจุบันยังปรากฏข่าวทางสื่อมวลชนหรือสื่อสังคมออนไลน์ เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติตนของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ ที่ไม่ถูกต้องเหมาะสมไม่เป็นไปตามระเบียบกฎหมาย นโยบายของรัฐบาล กระทำตนเป็นผู้มีอิทธิพล อย่างเช่น กำนันต.ตาก้อง อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม ถูกจับกุมในคดีอาญาในความผิดฐานเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่น กระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพยายามฆ่าผู้อื่น อันเป็นคดีอาชญากรรมสะเทือนขวัญ และอยู่ในความสนใจของประชาชน 

จากสาเหตุดังกล่าวจึงทำให้เสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของตำแหน่งหน้าที่ต่อสถาบันกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯภาพลักษณ์ของกระทรวงมหาดไทย กรมการปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้งสร้างความไม่ไว้วางใจจากประชาชน และประเทศชาตินั้น 

กรมการปกครอง พิจารณาแล้วเห็นว่า กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ บ้านในฐานะผู้ปกครองท้องที่ระดับตำบลหมู่บ้านซึ่งมีบทบาทสำคัญ ในการดูแลทุกข์สุขของราษฎรในท้องที่ ดังนั้นเพื่อให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯเกิดภาพลักษณ์ที่ดี เป็นที่พึ่งของประชาชน และเป็นแบบอย่างที่ดี จึงขอให้จังหวัดแจ้งอำเภอกำชับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ ในการประพฤติตนและการใช้อาวุธปืนในการปฏิบัติหน้าที่ตามหนังสือโครงการปกครองด่วนที่สุดที่มท. 0310.2/ว12572 ลงวันที่ 24 พฤษภาคม 2565 และหนังสือที่มท. 0310.2/ว 8940 ลงวันที่ 8 เมษายน 2565 เน้นย้ำเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของกำนันผู้ใหญ่บ้านในการรักษาความสงบเรียบร้อยและหากปรากฏว่ากำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ ประพฤติตนประพฤติปฏิบัติตนไม่ถูกต้องเหมาะสม ไม่เป็นไปตามระเบียบกฎหมาย นโยบายของรัฐบาล หรือกระทำตนเป็นผู้มีอิทธิพล ตามที่ปรากฏข่าว ให้นายอำเภอพิจารณาตามมาตรการทางปกครองและวินัยดังนี้ 

1.ให้อำเภอแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงหากพบว่ากำนันผู้ใหญ่บ้านละเลยการปฏิบัติหน้าที่แต่ยังไม่เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงนายอำเภอสามารถสั่งลงโทษวินัยอย่างไม่ร้ายแรงได้แก่ภาคทัณฑ์ตัดค่าตอบแทนและลดอัตราเงินเดือนไม่เกินหนึ่งอันดับ

 2.หากกรณีดังกล่าวเกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงให้นายอำเภอรายงานผู้ว่าราชการจังหวัดมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนมิได้อย่างไรแรงหากผลสอบสวนมีมูลความผิดจริงสามารถลงโทษปลดออกหรือไล่ออกจากตำแหน่งตามพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่พ.ศ 2457 มาตรา 61 ทวิ อนึ่ง เมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณาแล้ว มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนมิได้อย่างร้ายแรง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ แล้วในอำเภอสามารถใช้ดุลยพินิจสั่งพักหน้าที่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ เพื่อรอผลการสอบสวนทางวินัย 
3.หากนายอำเภอพิจารณาแล้วเห็นว่าพฤติการณ์ของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ เป็นการบกพร่องในหน้าที่หรือประพฤติตนไม่เหมาะสมกับตำแหน่ง ให้นายอำเภอแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อสอบสวนให้เห็นได้ว่าให้ได้ความว่า กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ มีพฤติกรรมบกพร่องในหน้าที่หรือประพฤติตนไม่เหมาะสมกับตำแหน่ง แล้วรายงานผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อมีคำสั่งให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯพ้นจากตำแหน่งตามพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่พ.ศ 2457 มาตรา 14 หากพบว่ากรณียังไม่มีมูลให้ดำเนินการทางวินัยให้นายอำเภอว่ากล่าวตักเตือนให้ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้เกิดผลดีต่อราชการ
และ 5.กรณีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ ผู้ใดประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดีเอาใจใส่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็งให้จังหวัดดำเนินการยกย่องชมเชยให้ปรากฏเป็นแบบอย่างแก่ผู้อื่นแล้วรายงานให้กรมการปกครองทราบจึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาและแจ้งอำเภอดำเนินการต่อไป