ข่าว

สรุปคดี 'ผกก.เบิ้ม' ผบ.ตร. ไขข้อสงสัยไม่พบเงื่อนงำ เชื่อปลิดชีพตัวเอง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สรุปคดี 'ผกก.เบิ้ม' ผบ.ตร. ไขข้อสงสัยไม่พบเงื่อนงำ ตรวจสอบแล้วสอดคล้องตรงกัน เชื่อว่าเป็นการปลิดชีพตัวเอง

วันนี้ 12 ก.ย. 2566 พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า จากที่ พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ ผกก.2 บก.ทล. หรือ "ผกก.เบิ้ม" เสียชีวิตภายในบ้านพักตนเอง ย่านคูคต จ.ปทุมธานี 

 

ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ควบคุมการสืบสวนสอบสวนด้วยตนเอง เน้นการนำหลักนิติวิทยาศาสตร์มาใช้ในการทำงาน ทำคดีตรงไปตรงมา ให้ปรากฎข้อเท็จจริง

 

ผู้กำกับเบิ้ม

 

ผบช.ภ.1 ได้รายงานผลคดี มีผลการตรวจที่เกิดเหตุ การสอบสวนปากคำพยาน การตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ ภาพจากกล้องวงจรปิด และผลการชันสูตรพลิกศพ โดยมีไทม์ไลน์ที่เกี่ยวข้องทางคดีมีดังนี้ 

 

ก่อนเกิดเหตุวันที่ 10 ก.ย. 2566 เวลา 18.00 น. "ผกก.เบิ้ม" ได้ร่วมรับประทานอาหารกับเพื่อนที่ร้านแห่งหนึ่ง ย่านเมืองทองธานี ก่อนที่เวลาประมาณ 22.00 น. จะขอตัวกลับไปพักที่โรงแรมไอบริส จากการสอบปากคำเพื่อนที่ร่วมรับประทานอาหาร  

 

ในระหว่างที่รับประทานอาหาร "ผกก.เบิ้ม" ได้พูดคุยว่าเครียดในสิ่งที่เกิดขึ้น บ่นตลอดเวลา เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับรุ่นน้องสารวัตรตำรวจทางหลวงที่เสียชีวิต และไม่ค่อยทานข้าว

 

ผู้กำกับเบิ้ม

 

ต่อมาเวลาประมาณ 04.23 น.ของวันที่ 11 ก.ย. 2566 ภาพวงจรปิด พบ "ผกก.เบิ้ม" เดินออกจากโรงแรม แล้วเดินไปตามถนนป๊อปปูล่า ซอย 2 แล้วขึ้นรถแท็กซี่ โตโยต้า สีชมพู หมายเลขทะเบียน ทฬ 806 กทม 

 

ผู้กำกับเบิ้ม

 

จากการสอบปากคำ นายสุจิต ผู้ขับรถแท็กซี่ ให้การว่าไปรับ "ผกก.เบิ้ม" จากจุดดังกล่าว มาส่งที่หมู่บ้านกรีนพาร์ค อ.คูคต จ.ปทุมธานี โดยส่งถึงบ้าน เวลาประมาณ 04.50 น. ระหว่างเดินทางไม่ได้คุยอะไรนอกจากบอกเส้นทาง  

 

เมื่อ "ผกก.เบิ้ม" เดินทางมาถึงบ้าน ได้ทำการปีนรั้วบ้านเข้าไปยังบ้านของตนเอง เนื่องจากไม่มีกุญแจรั้วบ้าน จากการสอบปากคำตำรวจซึ่งเป็นพลขับของ "ผกก.เบิ้ม" ทราบว่า กุญแจรั้วบ้าน เป็นกุญแจรีโมท ซึ่งอยู่ภายในรถประจำตำแหน่งของ "ผกก.เบิ้ม" จึงต้องปีนรั้วเข้าไปภายในบ้านและกดรหัสประตูดิจิทัล 

 

ผู้กำกับเบิ้ม

 

ต่อเวลาเวลาประมาณ 04.55 น. หลังจากที่ "ผกก.เบิ้ม" เข้าบ้านไปประมาณ 5 นาที มีภาพและเสียงจากกล้องวงจรปิดของเพื่อนบ้านข้างๆ มีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด คาดว่าเป็นช่วงที่ "ผกก.เบิ้ม" ใช้อาวุธปืนยิงตัวตาย ซึ่งตรงกับผลการชันสูตรของแพทย์ที่ระบุว่า ผู้ตายเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 8-12 ชม.

 

ผู้กำกับเบิ้ม

 

ผลการตรวจที่เกิดเหตุของกองพิสูจน์หลักฐาน พบผู้ตายนอนเสียชีวิตอยู่ห้องนั่งเล่นชั้นล่าง พบอาวุธปืนที่ตกในที่เกิดเหตุ เป็นอาวุธปืนกึ่งอัตโนมัติ ยี่ห้อกล็อก หมายเลขทะเบียน นฐ.03/4500091 ตรวจสอบแล้ว ผู้ครอบครอง คือ "ผกก.เบิ้ม" ผู้เสียชีวิต  

 

การตรวจสอบบ้านที่เกิดเหตุ ไม่มีร่องรอยการงัดแงะทั้งหน้าบ้านและหลังบ้าน โดยพยานที่มาพบคนแรก ซึ่งเป็นตำรวจเพื่อนสนิทผู้ตาย สามารถเข้าไปยังภายในบ้านได้ เนื่องจากได้โทรสอบถามรหัสกับ ภรรยา ของ "ผกก.เบิ้ม" เมื่อกดรหัสผ่าน เข้าไปภายในบ้านพบร่างของ อยู่บริเวณห้องนั่งเล่น 

 

ผู้กำกับเบิ้ม

 

ผลการชันสูตรพบรอยกระสุนเข้าทางศีรษะ ด้านขวาทะลุศีรษะด้านซ้าย แนวเฉียงขึ้น บริเวณรอบๆ ผลการตรวจเขม่าดินปืน พบเขม่าดินปืนที่มือซ้ายและขวา จึงจำลองสถานการณ์ได้ว่า ท่ายิงก่อนเสียชีวิต "ผกก.เบิ้ม" น่าจะนั่งชันเข่า จากนั้นถืออาวุธปืนด้วยมือขวาแล้วจ่อที่ขมับข้างขวา 

 

เมื่อยิงเสร็จทำให้ตัวผู้ตายหงายหลังกระสุนทะลุและตกอยู่ที่ด้านซ้ายของผู้ตาย (พบหัวกระสุนในเครื่องโรบอททำความสะอาดสถานที่เกิดเหตุ) พบเศษเนื้อสมองกระเด็นติดที่ผนังบ้านฝั่งซ้าย ขณะชันสูตรสภาพศพแข็งตัวตั้วตั้งแต่ช่วงลำตัวจนสุดด้านล่าง แพทย์สันนิษฐานว่าเสียชีวิตมาแล้วระหว่าง 8-12 ชม.

 

ผู้กำกับเบิ้ม

 

โฆษก ตร.กล่าวว่า "จากผลดังกล่าวข้างต้น ทั้งการตรวจพิสูจน์ที่เกิดเหตุ พยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ผลการสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้อง ข้อมูลจากกล้องวงจรปิด และผลการตรวจชันสูตรพลิกศพ สอดคล้องตรงกัน น่าเชื่อได้ว่า "ผกก.เบิ้ม" ใช้อาวุธปืนยิงตัวตาย ส่วนประเด็นสาเหตุคงต้องรอผลการสอบสวนปากคำพยานเพิ่มเติม"

 

 

 

 


 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ