ข่าว

แกะปม 'กำนันนก' สั่งตาย 'สารวัตรศิว' คดีไม่จบ แต่มีศพเพิ่ม

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สรุปไทม์ไลน์ แกะปม 'กำนันนก' สั่งตาย 'สารวัตรศิว' คดียังไม่จบ แต่มีศพเพิ่ม เมื่อ ผู้กำกับเบิ้ม 'พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์' ปลิดชีพตัวเอง ใครจะเป็นรายต่อไป

เสียงปืนลั่น 3-4 นัด คืนวันที่ 6 ก.ย. 2566 ปลิดชีพ “สารวัตรศิว” หรือ สารวัตรแบงค์ พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สารวัตร ตำรวจทางหลวง และ พ.ต.ท.วศิน พันปี กลางงานเลี้ยงบ้าน “กำนันนก” กำนันคนดัง จ.นครปฐม ด้วยน้ำมือของ “หน่อง” ลูกน้องคนสนิท ที่ฝากตัวรับใช้นาย พร้อมตายแทนได้ ก่อนที่เขาจะถูกวิสามัญฯ และ นายของเขาถูกจับ ไปพร้อมกับ เส้นทางอันรุ่งโรจน์ของตำรวจน้ำดีนายหนึ่ง ต้องจบลง

งานเลี้ยงบ้านกำนันนก

คดีการตายของ “สารวัตรศิว” กลายเป็นเรื่องที่มีเงื่อนงำ ถึงปมเหตุการสั่งตาย เพราะเมื่อผ่านกระบวนการสืบสวน พบว่า มีนายตำรวจร่วมในงานเลี้ยงมากถึง 28 นาย กลายเป็นประเด็นถกเถียง ว่าทำไมตำรวจมากมาย ทั้งระดับผู้กำกับ รองผู้กำกับ ต้องรายล้อมอยู่ในงานเลี้ยงที่บ้าน “กำนันนก” และ ปมสั่งตาย “สารวัตรศิว” จากประเด็นขอโยกย้ายตำแหน่งให้หลาน ที่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาสารวัตรศิว ถูกแตกเป็นทั้งเรื่อง ส่วยรถบรรทุก และ ดวลเหล้า

 

 

งานนี้ เดือดทั้ง “บิ๊กก้อง” พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช และ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ถึงกับลั่นประโยค “เขาให้ไปรับใช้ประชาชน ไม่ใช่รับใช้คนพวกนี้” เพราะฉะนั้นถือว่า ผู้การ, ผู้กำกับ ถือเป็นจุดแตกหักสำคัญของกรมตำรวจ คำสั่งเด้ง ย้าย ไล่ออก นายตำรวจทั้งหมด จึงออกตามมาติดๆ และการหาปมสั่งตาย จึงอยู่ที่ “เซิร์ฟเวอร์” กล้องวงจรปิด ที่ถูกถอดออก และนำไปทิ้งน้ำ ที่น่าจะเป็นหลักฐานสำคัญ ซึ่ง บิ๊กโจ๊ก ก็ยืนยันเองว่า เซิร์ฟเวอร์ สมบูรณ์ เห็นตัวบุคคลชัดทุกเหตุการณ์ และในงานมีทั้งหมด 36 คน ตำรวจ 28 นาย

คืนเกิดเหตุคดียิงสารวัตรศิว

ศพ 2 ศพ 3 ค่อยๆ ผ่านไป

 

 

คดีของ “สารวัตรศิว” ยังไม่จบ แต่ก็ต้องมีศพเพิ่ม เมื่อ “ผู้กำกับเบิ้ม” พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ ผู้กำกับการ 2 ตำรวจทางหลวง ผู้บังคับบัญชาตรงของสารวัตรศิว ตัดสินใจลั่นไกปลิดชีพตัวเองภายในบ้านพักย่านปทุมธานี วันเดียวกับวันเผาของลูกน้อง เป็นที่คาดกันว่า ชนวนเหตุการปลิดชีพตัวเอง น่าจะมาจากความเครียด เพราะเขาเป็น 1 ใน 25 ตำรวจ ที่อยู่ในงาน และโดนคำสั่งย้าย นอกจากนี้ ยังเจอกระแสสังคมพาดพิงว่า เขาเป็นผู้พาสารวัตรศิวไปตาย เพราะไลน์ตาม

ภาพวงจรปิดคดีสารวัตรศิว

 

และ “ผู้การเต่า” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รักษาราชการแทน ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง ตอกย้ำว่า เพิ่งคุยกับผู้กำกับเบิ้ม โดยเจ้าตัวยอมรับว่า รู้สึกผิดที่พาน้องไปตายบ้านกำนันนก

 

 

แต่จากความผิดของตำรวจทั้งหมดที่อยู่ในงาน จะถูกแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่พาคนเจ็บ และผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาล นอกจาก พ.ต.อ.กฤษฎาพร จงอักษร ผู้กํากับการ สน.พญาไท แล้ว ยังมี “ผู้กำกับเบิ้ม” ที่นำตัว พ.ต.ท.วศิน พันปี ไปส่งที่โรงพยาบาลอีกด้วย นั่นหมายความว่า เขามีสิทธิรอด แต่สุดท้ายเขาเลือกที่จะรับผิดชอบการตายของสารวัตรศิว ด้วย “ชีวิตต้องแลกด้วยชีวิต”

ผู้กำกับเบิ้ม-สารวัตรศิว

การตายของ “ผู้กำกับเบิ้ม” ถูกตั้งข้อสงสัยจากสังคม เป็นการ ปลีดชีพ หรือ ตัดตอน แต่ภาพจากกล้องวงจรปิด และไทม์ไลน์ รวมทั้งการสั่งลา และดีดตัวเองออกจากทุกกลุ่มไลน์ ถูกมองว่าเป็นการตัดสินใจปลิดชีพตัวเอง ไม่มีเหตุผลใดที่จะถูกฆ่าตัดตอน

ภาพวงจรปิดบ้านผู้กำกับเบิ้ม

 

การสืบสวนขยายผล หาชนวนเหตุการตาย ของทั้ง สารวัตรศิว และ ผู้กำกับเบิ้ม ยังคงดำเนินต่อไป ควบคู่ไปกับการเอาผิด กำนันนก และกวาดล้างเครือข่าย ขุมพลังอำนาจอิทธิพลท้องถิ่น ความร่ำรวยจากการทำธุรกิจ มูลค่ากว่า 3,600 ล้านบาท มีคนมีสี เข้าไปเกี่ยวข้องมากน้อยแค่ไหน 

 

 

เรียกได้ว่า คดีสะเทือนวงการตำรวจครั้งใหญ่ ยังไม่จบลงง่ายๆ เมื่อมีตัวละครโผล่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และ อีกหลากหลายมิติ คดีนี้จะจบอย่างไร เป็นเรื่องที่ต้องติดตาม

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ