ข่าว

'เซิร์ฟเวอร์' วงจรปิดนาทียิง 'สารวัตรแบงค์' ถึงมือ พฐ.แล้ว เร่งกู้ใน 2-3 วัน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ตร.กองปราบ "เซิร์ฟเวอร์ ที่ถูกปิดผนึกหรือซีลอย่างดีในกล่องโฟม มาส่งที่สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจแล้ว ข้อมูลน่าจะสมบูรณ์ ถูกถอดออกทั้งที่ยังไม่มีการลบไฟ คาดใช้เวลากู้ข้อมูล 2-3 วัน

11 ก.ย. 2566  ความคืบหน้าคดียิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หรือสารวัตรแบงค์  สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล.  ภายในบ้านนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือกำนันนก เมื่อคืนวันที่ 6 ก.ย. 2566 โดยขณะเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ด้วยกันหลายนาย จากนั้นพบว่ามีการทำลายหลักฐานเพื่อให้ความช่วยเหลือมือปืนที่ยิง พ.ต.ต.ศิวกร  และนายประวีณ หรือกำนันนก ในการหลบหนี รวมถึงมีการถอดเซิร์ฟเวอร์ ของกล้องวงจรปิดภายในบ้านกำนันนก ซึ่งจะใช้เป็นหลักฐานกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 

 

 

เซิร์ฟเวอร์ กล้องวงจรปิด บ้านกำนันนก

 

 

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัว นายโบ๊ท ซึ่งเป็นผู้ที่นำเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดไปทิ้งบ่อน้ำ ไปชี้จุดและสามารถเก็บกู้ขึ้นมาได้ทั้งหมดแล้วและนำส่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการกู้คืนข้อมูล

 

เซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดบ้านกำนันนก ส่งถึง พฐ.แล้ว

 

 

จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ชุดคลี่คลายคดีได้นำเซิร์ฟเวอร์ดังกล่าวใส่ถุงพลาสติกและใส่ในกล่องโฟมมีการปิดผนึกหรือซีลอย่างดี โดยมีตำรวจหนุมานควบคุมการดูแลตลอดเส้นทางกระทั่งมาส่งที่สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ เมื่อวันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา

 

 

โดยขณะนี้เซิร์ฟเวอร์ดังกล่าวอยู่ที่กลุ่มงานตรวจคอมพิวเตอร์ ห้องปฏิบัติการทางฟิสิกส์ ซึ่งห้องดังกล่าวมีคำสั่งห้ามบุคคลภายนอกที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปภายในห้อง

 

 

เซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิด บ้านกำนันนก บรรจุในกล่องโฟมส่งถึงมือ พฐ.

 

 

สำหรับเซิร์ฟเวอร์ที่นำมามีอยู่ 2 เครื่อง ลักษณะเป็นกล่องเหล็ก ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้นำเซิร์ฟเวอร์ ทั้งหมดนำเข้าเครื่องอบที่มีอุณหภูมิความร้อนสูง เพื่อจะนำน้ำและไอระเหยภายในเครื่องออกให้หมด จากนั้นจะทำการกู้ไฟล์ที่อยู่ภายในเครื่องออกมา คาดว่าใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน จะสามารถดึงข้อมูลสำคัญภายในเครื่องออกมาได้หมด

 

อย่างไรก็ตามคาดว่าข้อมูลในเซิร์ฟเวอร์ยังอยู่ครบไม่มีการลบข้อมูล เนื่องจากหลังเกิดเหตุผู้ที่เกี่ยวข้องก็เร่งแกะเซิร์ฟเวอร์ออกมา เพื่อนำไปทิ้งทันที จึงเชื่อว่าไม่ทันได้ลบข้อมูลออก หากสพฐ.กู้ได้ครบหมดแล้วจะส่งให้กับทางผู้บังคับบัญชา เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ