'บิ๊กโจ๊ก' พูดชัดหลักฐานมัดคนสั่งยิง 'สารวัตรแบงค์' แถมมีคนช่วย 'หน่อง' หนี

9 ก.ย. 2566 จากคดีอุกอาจสะเทือนวงการสีกากี เมื่อตำรวจทางหลวง ร่วมงานเลี้ยงกินดื่ม ในบ้านของนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ กำนันนก กำนันคนดัง จ.นครปฐม จนนำไปสู่เหตุการณ์สุดอุกอาจ เมื่อนายธนัญชัย หมั่นแมน หรือ หน่อง ลูกน้อง กำนันนก ใช้อาวุธปืน กระหน่ำยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.ส.ทล.1. กก.2 บก.ทล. หรือ สารวัตรแบงค์ เสียชีวิต และยังมีตำรวจระดับ รอง ผกก.ได้รับบาดเจ็บที่แขน อีก 1 นาย แต่หลังเกิดเหตุมีการนำตัว 2 นายตำรวจส่งโรงพยาบาล ส่วนสถานที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านของนายประวีณ หรือ กำนันนก มีการจัดเก็บทำลายหลักฐานทั้งปัดกวาด ถอดเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดไปทั้งหมด

 

 

 

ส่วนตัวผู้ก่อเหตุ ยิง พ.ต.ต.ศิวกร คือนายธนัญชัย หรือ หน่อง ขับรถยนต์กระบะ หลบหนีไปซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจระดมกำลังทั้งในส่วนตำรวจภูธรภาค 7 และกองปราบปราม ลงพื้นที่ปูพรมเข้าตรวจค้นเป้าหมายตามล่า นายธนัญชัย หรือหน่อง กลับมาดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่สุดท้ายก็ถูกวิสามัญเพราะมีการยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจขณะหลบหนีจากไปที่ จ.กาญจนบุรี 

 

 

 

 

ขณะที่ นายประวีณ หรือกำนันนก เข้ามอบตัวกับทางตำรวจ สภ.เมืองนครปฐม พร้อมยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวกับกรณีที่ พ.ต.ต.ศิวกร หรือ สารวัตรแบงค์ จากนั้นกำนันนกถูกคุมตัวมาที่กองบังคับการปราบปราม เพื่อสอบปากคำ หลังจากคดีถูกโอนมาให้กองปราบ และกระทั่งวันนี้ (9 ก.ย. 2566) กำนันนก ถูกส่งตัวฝากขัง และต้องคอตกเดินเข้าซังเต เพราะไม่มีญาติมายื่นขอประกัน

 

 

 

 

 

ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.)  เปิดเผยถึงความคืบหน้าในคดีว่ามีความก้าวหน้าไปเยอะ จากการที่ศาลอนุมัตหมายค้น บ้านที่เกิดเหตุ บ้านพัก และสถานที่ต่างๆ ทำให้สามารถแยกออกเป็นกลุ่มๆ ได้ว่า ตำรวจคนใดเข้าไปช่วยเก็บกล้อง คนใดช่วยคนร้ายหนี และกลุ่มไหนที่หลบไปทันทีหลังเกิดเหตุ

 

 

 

 

ซึ่งวันนี้จะเรียกตำรวจทั้ง 25 นายมาสอบสวนอีก แต่ข้อมูลจากการสืบสวนมีครบทั้งหมดแล้ว ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีการให้การไม่ตรง หรือโกหกอย่างใดก็ไม่มีประโยชน์  วันนี้เมื่อสอบสวนเสร็จแล้ว พบว่าใครมีความเกี่ยวข้องมากน้อยแค่ไหน เช่นช่วยในการทำลายหลักฐาน ช่วยพาผู้ต้องหาหลบหนี  ก็จะขออนุมัติหมายจับต่อศาลต่อไป

 

 

 

 

ในส่วนสำนวนหลักทาง บช.ก.เป็นผู้ดำเนินการ ในส่วนสำนวนการช่วยเหลือผู้ต้องหา การละทิ้งที่เกิดเหตุ การไม่ทำหน้าที่ อันเป็นความผิดในเรื่องช่วยผู้ต้องหา ความผิดฐาน 157 ความผิดฐานทำลายพยานหลักฐาน วันนี้จะสอบให้สิ้นกระแสความ และถ้าพยานหลักฐานเพียงพอก็จะไปขออนุมัติหมายจับ 

 

ส่วนในเรื่องของวัตถุพยานในที่เกิดเหตุ หรือมูลเหตุว่ากำนันนก เป็นสั่งยิง หรือไม่ วันนี้ทางตำรวจมีพยานหลักฐานที่น่าจะชัดเจนแล้ว จากการเร่งสอบปากคำเมื่อวานนี้ ซึ่งวันนี้มีพยานหลักฐานชัดเจนแล้วคนสั่งยิง พ.ต.ต.ศิวกร คือกำนันนก   ฉะนั้นข้อมูลนี้จึงเป็นประเด็นในสำนวนที่สำคัญ

 

อย่างไรก็ตามเราต้องให้ความเป็นธรรม ตราบใดก็ตามที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด ถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่ว่าในการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อนำขึ้นสู่ศาล เป็นหน้าที่ของตำรวจ ขณะนี้กำลังขยายผลออกไปว่าใครเป็นเครือข่ายของกำนันนก เพื่อจะได้ถอนรากถอนโคน ให้สิ้นซาก 

 

 

 

 

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์  ยังยอมรับว่ากรณีที่มีชายสวมเสื้อคลุมดำ คุยกับนายธนัญชัย หรือ หน่อง หลังยิง สารวัตรแบงก์ นั้นมีจริง ซึ่งเมื่อวานนี้ ได้สอบปากคำแล้วและทราบแล้วว่าวันเกิดเหตุใครเข้าไปทำอะไรบ้าง สรุปได้ว่ามีการช่วยอย่างแน่นอน แต่ใครช่วยบ้าง วันนี้เรารู้แล้ว จะดำเนินคดีให้หมด จึงสรุปได้ว่า การที่หลบหนีได้นั้น มีการช่วยเหลือ , ละทิ้งที่เกิดเหตุ ซึ่งอีกส่วนก็หนีไปเลย ไม่ทำหน้าที่ของตำรวจ และยังไปช่วยผู้ต้องหาหลบหนีอีก