ข่าว

ย้อนคดี 11 ปี 'บอส อยู่วิทยา' ทายาทกระทิงแดง ขับรถหรูชน 'ดาบตำรวจ'

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ย้อนคดี 11 ปี 'บอส อยู่วิทยา' ทายาทกระทิงแดง ขับรถหรูชน 'ดาบตำรวจ' เสียชีวิต พ้นผิดทุกข้อหา เพิกถอนหมายจับสากลอินเตอร์โพล ขณะที่ ป.ป.ช. ฟัน 15 ผู้ถูกกล่าวหากลับคำสั่งไม่ฟ้อง 'สมยศ-เนตร' ส่วน 'เพิ่มพูน' รมว.ศึกษา ผิดวินัยไม่ร้ายแรง

 

ผ่านมา 11 ปี กับคดี นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ทายาทกระทิงแดง ขับรถเฟอร์รารีสุดหรูชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผู้บังคับหมู่งานปราบปราม สน.ทองหล่อ เสียชีวิต เมื่อปี 2555 

 

นับตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้เป็นเวลา 11 ปี บอส อยู่วิทยา ยังไม่เคยรับโทษทางกฎหมายเลย เนื่องจากมีการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่บางคน มีการเปลี่ยนพยานหลักฐานด้านความเร็วของรถ และสั่งไม่ฟ้อง 

 

ล่าสุด นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดผู้ถูกกล่าวหาในคดีกลับคำสั่งไม่ฟ้อง บอส อยู่วิทยา ในข้อหาขับรถยนต์ชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ เสียชีวิตเมื่อปี 2555 เนื่องจากมีการเปลี่ยนพยานหลักฐานด้านความเร็วของรถไปแล้วจริง

 

 

 

สำหรับผู้ถูกกล่าวหาที่ถูกชี้มูลความผิดนั้นต้องรอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. รับรองรายงานการประชุม ในส่วนของผู้ถูกกล่าวหาหลัก เช่น พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผบ.ตร., นายเนตร นาคสุข อดีตรองอัยการสูงสุด (อสส.) โดนชี้มูลความผิดไปทั้งหมด

 

 

 

ส่วน พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ และอดีตผู้ช่วย ผบ.ตร. ที่ถูกกล่าวหาในคดีตอนนี้เป็น พล.ต.ท. ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดด้วยเช่นกัน แต่เป็นความผิดวินัยไม่ร้ายแรง และส่งเรื่องให้ต้นสังกัดไปดำเนินการทางวินัยแล้ว

 

 

 

อย่างไรก็ตาม คดีนี้มีผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมด 15 ราย ทั้งอดีตข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว และยังรับราชการอยู่ พนักงานสอบสวน พนักงานอัยการ นักการเมือง เป็นต้น

 

นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ทายาทกระทิงแดง

 

 

 

ย้อนคดี บอส วรยุทธ อยู่วิทยา  ขับรถชนดาบตำรวจ สน.ทองหล่อ 

 

ย้อนไปกลางดึกวันที่ 5 ก.ย. 2555 บอส วรยุทธ อยู่วิทยา ทายาทกระทิงแดง ขับรถหรูเฟอร์รารี ชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผู้บังคับหมู่งานปราบปราม สน.ทองหล่อ  ขณะกำลังขี่รถจักรยานยนต์ตราโล่อยู่บนถนนสุขุมวิท ก่อนจะลากร่าง ด.ต.วิเชียร ไปไกลถึง 200 เมตร จนเสียชีวิต และหลบหนีไปที่บ้านพักของตนเอง

 

 

 

ตำรวจแกะรอยตามคราบน้ำมัน ไปจนเจอว่ารถหรูคันที่ขับชน ด.ต.วิเชียร ขับเข้าไปในคฤหาสน์เนื้อที่กว่า 2 ไร่ ในซอยสุขุมวิท 53 บ้านของ "เฉลิม อยู่วิทยา" เจ้าของเครื่องดื่มกระทิงแดง 

 

 

 

เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. ในขณะนั้น ต้องนำกำลังถึง 2 กองร้อยล้อมบ้าน พร้อมลั่นวาจา "ถ้าไม่ได้ตัวคนผิด จะขอลาออก" กระทั่งได้หมายค้นเข้าตรวจสอบพบรถเฟอร์รารี่ มีร่องรอยการเฉี่ยวชนอย่างรุนแรง กันชนหน้ารถพังยับเยิน ยิ่งไปกว่านั้น ยังพบว่า เครื่องหมายยศดาบตำรวจของ ด.ต.วิเชียร ยังติดคากระจกรถหรู 

 

 

 

ในเวลาต่อมาสารวัตรปราบปราม สน.ทองหล่อ มีความพยายามนำตัว พ่อบ้านตระกูลอยู่วิทยา มามอบตัว อ้างว่าเป็นคนขับรถชนด.ต.วิเชียร  ซึ่งค้านกับคำให้การของพยานหลายปาก รวมทั้งพ่อบ้าน ไม่มีร่องรอยจากอุบัติเหตุใดๆบนร่างกาย สุดท้ายเจ้าตัวรับสารภาพว่ามารับผิดแทนลูกของเจ้านาย เพราะสำนึกในบุญคุณของตระกูลอยู่วิทยา

 

 

 

ท้ายที่สุด บอส อยู่วิทยา ยอมมามอบตัว พร้อมรับสารภาพว่าเป็นคนขับเฟอร์รารี่ชน ด.ต.วิเชียร แต่ไม่มีเจตนาหลบหนี เพียงแค่ตกใจจึงขับรถกลับบ้านไปตั้งหลัก แม้ผลตรวจร่างกายจะพบแอลกอฮอล์ แต่เจ้าตัวก็อ้างว่าดื่มหลังจากประสบอุบัติเหตุแล้วเพราะเครียด

 

คดีบอส อยู่วิทยา ขับรถชนดาบตำรวจเสียชีวิต ปี 2555

 

 

 

ผ่านมาราว 4 ปี ตำรวจจึงสรุปสำนวนให้อัยการสั่งฟ้อง บอส อยู่วิทยา ใน 2 ข้อหา คือ ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และ ข้อหาขับรถในทางก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคล ไม่หยุดรถและให้ความช่วยเหลือตามสมควรแก่ผู้ได้รับความเสียหาย 

 

 

 

ขณะที่ข้อหา ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ถูกปล่อยให้หมดอายุความไปตั้งแต่เดือน ก.ย. 2556 ก่อนที่ในเวลาต่อมาข้อหาไม่หยุดรถให้ความช่วยเหลือผู้ถูกชน ซึ่งมีอายุความ 5 ปี ก็หมดอายุตามไปในวันที่ 3 ก.ย. 2560

 

 

 

นับตั้งแต่อัยการเตรียมสั่งฟ้องคดีต่อศาล บอส อยู่วิทยา ส่งทนายขอเลื่อนพบอัยการถึง 7 ครั้ง นับตั้งแต่ปี 2559 ด้วยเหตุผลว่าติดภารกิจที่ต่างประเทศ 

 

 

 

กระทั่งวันที่ 27 เม.ย. 2560 อัยการสูงสุด ออกหมายเรียกให้ บอส อยู่วิทยา เข้ารับทราบข้อกล่าวหา คดีขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งเป็นข้อหาเดียวที่เหลืออยู่ เป็นครั้งที่ 8 พร้อมยื่นคำขาดว่าหากไม่มา จะออกหมายจับทันที ซึ่งก็เป็นไปตามคาด คือ บอส อยู่วิทยา ไม่มาตามนัด นำไปสู่การออกหมายจับในเวลาต่อมา

 

 

 

หลังศาลออกหมายจับมีการขึ้นบัญชีดำแจ้งไปยังด่านต่างๆ มีการประสานตำรวจสากล (อินเตอร์โพลแสดงความเป็นบุคคลที่มีหมายจับบนหน้าเว็บไซต์) รวมทั้งกระทรวงการต่างประเทศ ถอนหนังสือเดินทางของบอส อยู่วิทยา 

 

 

 

นับตั้งแต่วันถูกออกหมายจับจนถึงวันนี้ เป็นเวลา 11 ปี ส อยู่วิทยา พ้นผิดทุกกรณี หลังอัยการสั่งไม่ฟ้อง ในทุกข้อกล่าวหา โดยได้รับการยืนยันเมื่อวันที่ 24 ก.ค. 2563 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในขณะนั้นแถลงยืนยันว่า อัยการสูงสุดมีคำสั่งเด็ดขาดสั่งไม่ฟ้อง เมื่อคณะกรรมการตำรวจพิจารณากับฝ่ายกฎหมายแล้ว ก็เห็นพ้องตามอัยการสั่งไม่ฟ้องด้วย 

 

 

 

ส่วนเหตุผลไม่สามารถเปิดเผยได้  ทำให้คดีนี้ถึงที่สุด หลังจากนั้น พนักงานสอบสวนถอนหมายจับ บอส อยู่วิทยา ทั้งในไทย และประสานตำรวจสากลถอนหมายจับสากลอินเตอร์โพล นั่นหมายความว่า บอส อยู่วิทยา กลายเป็นผู้บริสุทธิ์คนหนึ่ง และสามารถกลับเข้าประเทศได้ตามปกติ

 

 

 

แต่ในส่วนของบุคคลที่ให้ความช่วยเหลือ บอส อยู่วิทยา ทาง ป.ป.ช. ยังเดินหน้าพิจารณาชี้มูลความผิดผู้ถูกกล่าวหา 15 ราย ทั้งตำรวจที่เกษียณแล้ว และยังรับราชการอยู่ รวมทั้งอัยการ ซึ่ง ป.ป.ช.ได้ส่งเรื่องให้ต้นสังกัดดำเนินการแล้ว

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ