รวบคาโต๊ะ 'นายช่างโยธา' เขตลาดกระบัง เรียก 5 หมื่นแลกใบอนุญาตสร้างอาคาร
จนท. ซ้อนแผนส่งมอบเงิน 5 หมื่น ค่าออก "ใบอนุญาตสร้างอาคาร" ก่อนรวบคาโต๊ะทำงาน "นายช่างโยธา" เขตลาดกระบัง เจ้าตัวสารภาพตลอดข้อกล่าวหา พร้อมเร่งตรวจสอบเส้นทางการเงิน ขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการ
5 ก.ย. 2566 กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พร้อมด้วย คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ,สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และ กรุงเทพมหานคร ร่วมแถลงจับกุม นายวิโรจน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 59 ปี ตำแหน่งนายช่างโยธาอาวุโส สำนักงานเขตลาดกระบัง ในความผิดฐาน "เป็นเจ้าพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด สำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบฯ"
จากกรณีที่ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นผู้ขออนุญาตก่อสร้าง รวบรวมหลักฐานยื่นต่อ บก.ปปป. ร้องทุกข์ขอความเป็นธรรม เนื่องจากถูกนายวิโรจน์ เรียกรับเงินสินบน เพื่อดำเนินการออกใบอนุญาตให้ก่อสร้างอาคารตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 หลายครั้ง
จากนั้นตำรวจ บก.ปปป. , ป.ป.ช. และ ป.ป.ท.ได้วางแผนปฏิบัติการอำพรางนำเงินสด จำนวน 50,000 บาท ใช้ส่งมอบให้กับ นายวิโรจน์ที่ห้องทำงานฝ่ายโยธา สำนักงานเขตลาดกระบัง จากนั้นตำรวจจึงทำการแจ้งข้อหา และเข้าจับกุมผู้ต้องหาทันที
พ.ต.อ.ธนวัฒน์ หิ้นยกฮิ่น ผู้กำกับการ 1 บก.ปปป. กล่าวว่า กรณีนี้ผู้เสียหายมีการยื่นแบบก่อสร้างขอต่อเติมอาคารที่พักอาศัย แบบอาคารพาณิชย์ พื้นที่ประมาณ 400 ตร.ม. ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2565 ซึ่งนายวิโรจน์ มีการแจ้งให้แก้ไขใบอนุญาตดังกล่าวหลายครั้ง ทางผู้เสียหายก็พยายามแก้ไขแบบตามที่รับแจ้งมาเสมอ แต่ก็ยังไม่ได้รับการอนุมัติ
จนกระทั่ง นายวิโรจน์ ได้ส่งภาพใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร ดัดแปลงอาคาร หรือรื้อถอนอาคาร แบบ อ.1 และจงใจเว้นช่องลงนามอนุญาตไว้ ส่งกลับมาให้ผู้เสียหาย และพยายามสื่อสารทำข้อตกลง ว่าหากต้องการให้นายวิโรจน์ลงชื่อต้องตกลงจ่ายเงินในราคา 50,000 บาท ผู้เสียหาย จึงตัดสินใจร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่
จากการสอบถาม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ส่วนที่จะมีบุคคลอื่นเกี่ยวข้องเพิ่มเติมหรือไม่ พ.ต.อ.ธนวัฒน์ กล่าวว่าถึงแม้ผู้ต้องหาจะให้การรับสารภาพ แต่จะขยายผลไปถึงใคร ขณะนี้อยู่ระหว่างขยายผลสอบสวน
ด้านนายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. ระบุว่า การจับกุมกรณีทุจริตการเรียกรับผลประโยชน์ใบอนุญาตฯ กับผู้ต้องหารายดังกล่าว กำลังอยู่ในระหว่างตรวจสอบเส้นทางการเงิน เนื่องจากเจ้าหน้าที่เชื่อว่า ไม่ได้ทำเพียงรายเดียว ส่วนจะขยายผลไปสู่เจ้าหน้าที่ระดับสูงกว่านี้หรือไม่ อยู่ระหว่างขยายผล
ส่วนที่ผู้ต้องหารายนี้จะเกี่ยวข้องกับการก่อสร้างกรณีสะพานถล่ม ในพื้นที่หรือไม่ นายภูมิวิศาล ระบุว่า ขณะนี้ไม่พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง เนื่องจากผู้ต้องหาเพิ่งย้ายมาประจำที่เขตลาดกระบัง เมื่อรอบคำสั่งเดือนตุลาคม 2565
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. ยังได้รับเรื่องร้องเรียนจากหลายเขต ฉะนั้นขอให้ประชาชนอย่ายอมถูกเอารัดเอาเปรียบ อย่าปล่อยให้มีการถูกเรียกรับผลประโยชน์ ถ้าถูกกระทำลักษณะใดๆ ให้ติดต่อมาที่ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.ได้ทันที
ขณะที่ นายเฉลิมพล โชตินุชิต รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กทม.ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง พร้อมสั่งพักราชการเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวแล้ว และจะสอบสวนขยายไปต่ออีกแน่นอน โดยคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงเป็นผู้ดำเนินการ ที่ผ่านมาการร้องเรียนเฉพาะบุคคลรายนี้โดยตรงยังไม่มีเรื่องร้องเข้ามา
แต่ยอมรับว่าเฉพาะในเขตลาดกระบัง มีเรื่องร้องเรียนอยู่จำนวนมาก ซึ่งอยู่ในขั้นของ ป.ป.ช. สอบข้อเท็จจริง กรณีที่เกิดขึ้นถือเป็นการข่มขู่ กรรโชกทรัพย์ ซึ่งทางผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้กำชับให้จัดการอย่างเด็ดขาด ใช้ยาแรงจัดการกับข้าราชการทุจริต เปรียบเหมือนการเด้ง 5 เสือในวงการตำรวจ
นายเฉลิมพล กล่าวต่อว่า กทม. ขอประชาสัมพันธ์ว่า สำหรับประชาชนรายใดที่ต้องการยื่นขออนุญาตปรับแต่ง ก่อสร้างอาคาร พื้นที่ขนาดไม่เกิน 350 ตร.ม.สามารถทำได้ผ่านระบบออนไลน์ เพื่อเป็นการลดใช้วิจารณญาณรายบุคคล ระหว่างเจ้าหน้าที่ กับ ประชาชน