อุกอาจ 'โจรอ้วน-ผอม' บุกห้องนอนชิงทอง 7 บาท จ่อยิงผัวดับต่อหน้าลูกเมีย

 

30 ส.ค. 2566 ร.ต.อ.อนุรุต นวมทอง รอง สารวัตรสอบสวน สภ.ศรีประจันต์ รับแจ้งมีคนถูกยิงเสียชีวิต ภายในบ้านเลขที่ 28 หมู่ 4 ต.ดอนปรู อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมชุดสืบสวน สภ.ศรีประจันต์ ชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี, สืบสวน ภ.7 

 

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ด้านหน้าเปิดเป็นร้านขายของชำ ส่วนด้านหลังเป็นห้องนอนและห้องครัว ตรวจสอบภายในห้องนอน พบร่างนายวันเฉลิม สายหยุด อายุ 42 ปี ลูกชายเจ้าของบ้าน ถูกยิงด้วยปืนขนาด 9 มม. เข้าที่บริเวณกกหูขวา กระสุนปืนไปตุงอยู่ที่บริเวณลำคอ 1 นัด สภาพนอนหงายเสียชีวิตอยู่บนที่นอนปิกนิกที่พื้นภายในห้องนอน มีเลือดไหลเต็มที่นอน ที่เกิดเหตุยังพบปลอกกระสุนขนาด 9 มม.ตกอยู่ 2 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

 

จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่า คนร้ายเป็นชาย 2 คน คนหนึ่งมีลักษณะตัวอ้วนรูปร่างใหญ่ อีกคนมีรูปร่างผอม ขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อ สี และหมายเลขทะเบียน ซึ่งคนร้ายใช้หมวกผ้าคลุมหัวปกปิดใบหน้า บุกเข้ามาภายในบ้าน และเดินตรงเข้าไปในห้องนอนของผู้เสียชีวิตแบบไม่เกรงกลัวใดๆ ระหว่างนั้น นายวันเฉลิม กำลังนอนดูทีวีอยู่กับภรรยา และลูกชายวัย 6 ขวบ คนร้ายได้เข้ามาถามว่าทองอยู่ไหน แต่ นายวันเฉลิม คิดว่าเป็นเพื่อนมาหยอก จึงบอกไปว่า "กูไม่สบายกูจะนอน" จากนั้นคนร้ายได้ใช้ปืนที่ติดตัวมายิงใส่ 2 นัด จนเสียชีวิตคาที่ และได้หยิบสร้อยทองคำหนัก 5 บาทของภรรยา 1เส้น และสร้อยทอง 2 บาทของลูกชายผู้เสียชีวิต 1 เส้น ที่แขวนอยู่ที่หัวเตียงนอนแล้วหลบหนีออกไป

 

 

 

 

ด้านภรรยาผู้ตาย เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุตนอยู่ในห้องนอนรวมกับสามีและลูกชาย และได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด และคนร้ายก็ถามว่าทองอยู่ไหน จากนั้นก็ได้ยินเสียงปืนอีก 1 นัด ตนสายตาสั้นมองไม่เห็น พอหาแว่นเจอ และหันมาดูก็พบสามีถูกยิงเสียชีวิตแล้ว

 

 

 

ขณะที่ นายกุศ รักสนิท ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 กล่าวว่า โดยปกติ ผู้ตายเป็นคนมีเพื่อนเยอะ ชอบเลี้ยงไก่ชน แม่คนตายโทรมาแจ้ง ร้องไห้บอกให้มาที่ร้านเร็วๆ ลูกตายแล้ว เมื่อมาถึงพบว่า มีของหายเป็นสร้อยทองคำ 2 เส้น น้ำหนักรวม 7 บาท ปกติผู้ตายเป็นคนดีกับเพื่อนฝูงและคนในหมู่บ้าน จะคุยดี จากที่เห็นกล้องวงจรปิดคนร้ายมาด้วยกัน 2 คน เป็นผู้ชายทั้งคู่ ขี่รถจักรยานยนต์มา คนที่มายิงเป็นคนตัวใหญ่ท้วม พอมาถึงก็ยืนคร่อมผู้ตาย แล้วเอาปืนจ่อ พอผู้ตายตื่นมาก็พูดว่า "วันนี้กูไม่เล่นกับมึง วันนี้ไม่สบายจะนอน" 

 

 

 

จากนั้นคนร้ายก็ยิงแล้วก็ถามว่าทองอยู่ไหน ให้เอามา จากนั้นก็หยิบทองไป และยิงซ้ำอีกหนึ่งที อันนี้ คือที่ภรรยาเขาเล่าให้ฟัง ซึ่งภรรยาเขาสายตาสั้น 400 กว่า จึงมองไม่ค่อยเห็นกว่าจะหาแว่นเจอ และคนร้ายทำท่าว่าจะหันปืนมายิงภรรยาเขาด้วยแต่ไม่ได้ยิง ซึ่งไม่มั่นใจว่าผู้ก่อเหตุเป็นพวกเขาหรือเปล่า เพราะตอนมาถึงเดินตรงดิ่งไปที่ห้องเลยแล้วยิง ทั้งที่ในบ้านนี้มีอยู่หลายห้อง มองว่าน่าจะเป็นคนที่เคยเข้ามา และคิดว่าเจตนาที่เอาทองไปเอาไปแค่บังหน้า ทำเหมือนมาปล้นทอง คงต้องรอให้ทางตำรวจสืบอีกที

 

 

 

 

นางทองฮวด ชาวน่าน อายุ 70 ปี แม่ของผู้ตาย กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุเข้าไปที่ครัวกำลังจะทำไก่นึ่ง ทีแรกได้ยินเสียงดังเหมือนอะไรหล่นจากนั้นได้ยินครั้งที่สอง ก็คิดว่าลูกชายคนโตจุดประทัด เพราะหลานร้องก็ยังเอ็ดว่าจะจุดทำไม จากนั้นก็เดินออกมาจากครัวก็เห็นลูกสะใภ้วิ่งออกมาจากห้อง เข้ามากอดแล้วพูดว่า "แม่พี่หารโดนยิง" เราก็ไม่คิดว่าใครจะเข้ามายิง นึกว่าลูกยิงตัวเองเพราะไม่เห็น ซึ่งก่อนจะเดินเข้าไปในครัวก็ยังไปเรียกลูกว่าให้ไปปิดบ้านให้แม่ด้วย แม่จะเข้าไปนึ่งไก่ จากนั้นไม่ถึง 10 นาทีลูกก็ถูกยิง เมื่อช่วงเย็นลูกชายได้ออกไปซื้อของ และไปเอาของไหว้ที่บ้านแม่ยาย ตอนเช้าลูกบอกว่าวันนี้ไม่สบายให้แม่ไปซื้อของมาไว้เจ้าด้วยนะ แต่ไปซื้อแล้วในตอนเช้าได้ของไม่ครบ ตอนเย็นเขาก็ไปด้วยกัน 3 คนพ่อแม่ลูกไปซื้อของมาเพิ่ม จากนั้นเขาก็กินยาแล้วก็นอนอยู่ในห้องกับลูกเมีย ปกติถ้าคนอื่นมาหาก็จะมาบอกให้เรียกให้

 

 

 

นอกจากนี้ โดยปกติถ้าลูกชายว่างจากขายของเขาก็จะเลี้ยงไก่ชนขาย ก่อนหน้านี้เขาก็ไม่เคยเล่าให้ฟังว่ามีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับใคร พี่น้องชาวบ้านแถวนี้เขาก็รักกันดี ซึ่งไม่คิดว่าลูกจะมีอะไรกับใคร ที่มันจะร้ายแรงถึงขนาดนี้ เพราะลูกมีแต่คนรัก ไม่สันนิษฐานอะไรเลย เพราะไม่คิดว่าจะมีคนคิดร้ายกับลูกขนาดนี้ อยากให้ตำรวจรีบจับคนร้ายให้ได้ เพราะอยากรู้ว่าที่ทำไปเพื่ออะไร อยากได้อะไรก็เอาไปเลย ขอแค่เรื่องอย่าเอาชีวิต ถ้าจับคนร้ายได้จะไม่อโหสิกรรมให้ใครทั้งสิ้น อยากถามว่าทำเพื่ออะไร อยากได้อะไรก็เอาไป ไม่เสียดายเลย คนที่ยิงถามลูกสะใภ้ว่าทองอยู่ไหน ถ้าเอาของนอกกายไปจะไม่เสียใจเลย อยากได้เอาไปเลย มาขอดีดีก็ให้เลย อย่ามาทำร้าย มาฆ่า มาแกงกันแบบนี้ เปิดร้านมา 20 ปีไม่เคยเกิดเหตุร้ายอะไรเลย

 

 

 

ด้าน ตำรวจ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางต่างๆในหมู่บ้านที่คาดว่าคนร้ายจะใช้หลบหนี เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป พร้อมกันนี้ก็ ได้ให้กู้ภัยส่งร่างผู้เสียชีวิตไปตรวจชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดที่สถาบันนิติเวช ส่วนสาเหตุ เบื้องต้น สันนิษฐานว่าเป็นการฆ่าชิงทรัพย์ แต่ก็ยังไม่ตัดประเด็นความขัดแย้งส่วนตัว เพราะผู้ตายเป็นคนกว้างขวางในพื้นที่ และเป็นที่รักใคร่ของคนในพื้นที่ ซึ่งต้องรอผลการสืบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง

 

 

 

มงคล สว่างศรี จ.สุพรรณบุรี