ส่อง ‘โผตำรวจ’ ระส่ำ ‘รัฐบาลเพื่อไทย’ ดันเด็กในคาถา

การที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รักษาการนายกรัฐมนตรี ปล่อยมือจากการแต่งตั้งตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) รวมถึง ระดับรองผบ.ตร.ลงมาถึง ระดับผู้บังคับการ ทำให้วงการตำรวจระส่ำพอควร เนื่องจากนายพลที่เคยมีชื่อโยกย้ายก่อนหน้านี้อาจจะไม่ใช่เสียทั้งหมด เพราะ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี คนใหม่ พร้อมถึงแกนนำพรรคเพื่อไทยร่วมถึงพรรคร่วมรัฐบาลย่อมมีนายตำรวจใกล้ชิด ดังนั้นการแต่งตั้งโยกย้ายจึงต้องรอดูจนนาทีสุดท้ายก่อนการประชุม ก.ตร. ซึ่งคาดกันว่าจะไม่เกินเดือนกันยายนนี้

 

ล่าสุดมติ ก.ตร. ที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐนตรี และรมว.คลัง เป็นประธาน เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2566 มีมติ แต่งตั้ง 'รองต่อ' พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล เป็น  ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) คนที่ 14 

 

 

เต๋งหนึ่ง ผบ.ตร. คงไม่พ้น "บิ๊กต่อ" พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบ.ตร. ที่จะมารับงานพิเศษเฉพาะ ทั้งด้านความมั่นคงควบคู่กับการปราบปรามอาชญากรรม ถึงแม้อาวุโสน้อยที่สุด เหมือนกับ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข อดีตผบ.ตร. ก่อนหน้านี้  ที่ขึ้นมาครองตำแหน่งยอดสุดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 

 

 

ระดับรองผบ.ตร. ที่ว่าง 3 เก้าอี้ มีชื่อ พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง ,พล.ต.ท.สราวุธ การพานิช และพล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผู้ช่วยผบ.ตร. คาดว่าจะขึ้นมาติดยศ พล.ต.อ.  นอกจากอาวุโสแล้วแต่ละคนล้วนใกล้ชิดกับฝ่ายการเมืองทั้งสิ้น โดยเฉพาะ พล.ต.ท.ธนา ตำรวจสายตรง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ว่าที่รัฐมนตรี น้องชาย ของ "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สายอำนาจเดิม

 

 

ส่วนผู้บัญชาการที่ต้องขึ้นมาเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร. จากอาวุโส ที่น่าจับตาอย่างผบช.ภ. 7 ของพล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงศ์ หรือ โอ๋ สืบ 6  ในอดีต หรือพล.ต.ท.อัคราเดช  พิมลศรี ผบช.ภ.6 พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบช.สพฐ. ที่เป็นเด็กในค่าย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีต ผบ.ตร.

 

ในส่วนของผู้บัญชการ ที่ต้องมีการสับเปลี่ยนเพราะว่างอยู่ถึง 16 ตำแหน่ง ที่ระดับผบช. ต้องสู้กันถึงวันที่ประชุมเคาะสุดท้ายของ ก.ตร. อย่าง พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.ภ.2 ที่มีชื่อมานั่ง ผบช.สตม. และดันพล.ต.ท.นิธิธร  จินตกานนท์ ผบช.ประจำสำนักงาน ผบ.ตร. เพื่อนสนิท พล.ต.อ.สุรเชษฐ หักพาล รองผบ.ตร. ไปเป็น ผบช.ภ.2 แทน หรือตำแหน่ง ผบช.ภ.7. ที่พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส. มาเสียบแทนในโผล่าสุด ทั้งหมดนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้

 

 

ขณะที่เก้าอี้หลักอย่าง ผบช.น. ยังมีชื่อ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ส่วน ผบช.ก. ก็ยังเป็นของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ยังคงเหนียวแน่น ยังมีระดับรองผู้บัญชาการ หลายคนมาในสายอำนาจเพื่อไทย น่าจับตาอย่าง พล.ต.ต.วรวัฒน์ อมรวิวัฒน์ รองผบช.ส. ที่เป็นเครือญาติ จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ว่าที่รัฐมนตรี และมีนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย คอยคัดท้าย

 

 

การปล่อยมือจากโผแต่งตั้งนายพลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ของพล.อ.ประยุทธ์ ว่ากันว่ามาจากวันที่ นายกฯ เศรษฐา เดินทางเข้าไปคาราวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 29  ที่ทำเนียบรัฐบาลซึ่งเป็นช่วงเดียวกับโผโยกย้ายทหาร 3 เหล่าทัพเสร็จสิ้นในมือของศูนย์อำนาจเดิมแบบฉิวเฉียด

 

 

เป็นการการันตีอำนาจทางทหารยังคงอยู่ แต่สตช.นั้นไม่มีพลังต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง จึงยอมปล่อยให้อยู่ในมือรัฐบาลใหม่ แถมดูดีเหมือนคำให้สัมภาษณ์ของ เศรษฐา ทวีสินผู้นำรัฐบาลคนใหม่ หลังร่ำลากันว่า พล.อ.ประยุทธ์ ท่านให้เกียรติ