ยุติปัญหา 'พระเณร' ถูกเจ้าอาวาส 'ไล่พ้นวัด' เดินหอบข้าวของริมถนนกลางดึก พระชั้นผู้ใหญ่จับเซ็นชื่อห้ามพระลูกวัดบิณฑบาตนอกพื้นที่ ส่วนเจ้าอาวาสยอมย้ายจำพรรษวัดอื่น
11 ส.ค. 2566 กลายเป็นเรื่องกลับตาลปัตร กับภาพที่ชาวพุทธเห็นแล้วต้องสะเทือนใจ เมื่อ พระเณร 9 รูป และเด็กวัดอีก 1 คน ถูกเจ้าอาวาสไล่ออกจากสำนักสงฆ์ ช่วงเข้าพรรษา ต้องหอบข้าวของ พัดลม น้ำขวด เดินอยู่ตามถนนเส้น 304 ต.เขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อมุ่งหน้าขาเข้ากรุงเทพ ช่วง 21.00 น. วันที่ 9 ส.ค. ที่ผ่านมา
ส่วนสาเหตุที่ถูกเจ้าอาวาสไล่ออกจากวัดนั้น พระวายุสันติธรรมโม เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้เจ้าอาวาสได้รับเงินกฐินของปี 2565 ยอดเงินประมาณ 3 แสน แล้วออกจากวัดหายไป 7-8 เดือน จากนั้นเมื่อประมาณกลางเดือน ก.ค. 2566 เจ้าอาวาส ได้กลับมาจำวัด ทางพระลูกวัดไม่มีใครยอมรับ จึงร้องเรียนไปยังเจ้าคณะตำบล แต่ตกเย็นวันที่ 9 ส.ค. 2566 ได้มีการหนังสือจากเจ้าคณะตำบล ให้ย้ายพระและเณร ที่ร้องเรียนเรื่องดังกล่าวออกจากสำนักสงฆ์ ต่อมาทางตำรวจเดินทางมาพร้อมกับเจ้าอาวาส เพื่อให้พระ เณรทั้งหมด ออกจากวัดก่อนเที่ยงวันนี้
ทางพระเณรได้ขอเวลาเนื่องจากเป็นช่วงเข้าพรรษา แต่เจ้าอาวาสยืนกรานให้ทั้งหมดออกจากวัด ไม่เช่นนั้นจะดำเนินคดีในข้อหาบุกรุก และขู่ว่ามีโทษจำคุกถึง 6 เดือน ทางพระเณรทั้งหมด เลยตัดสินใจหอบข้าวของออกมาเดินตามถนนเพื่อมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ
กระทั่งเหตุการณ์นี้ทาง พระครูสิทธิธรรมธานี เจ้าคณะตำบลเขาหินซ้อน เขต 1 พร้อมด้วย รองเจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา , พระผู้ใหญ่ในพื้นที่ , ปลัดอำเภอพนมสารคาม , ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เพื่อพูดคุยหาสาเหตุของเรื่องราวที่เกิดขึ้น พร้อมหาแนวทางการแก้ไขปัญหา
เรื่องราวนี้กลับตาลปัตร เมื่อความจริงบางอย่างถูกเปิดเผยจาก พระไพศาล เจ้าอาวาสสำนักสงฆ์แสงธรรมคีรี ระบุว่า พระทั้ง 3 รูป และเณร 5 รูป ไม่ใช่พระเณร ที่บวชที่สำนักสงฆ์ แต่ต้นสังกัดอยู่ที่ จ.ปราจีนบุรี จึงอยากเชิญให้กลับไปวัดต้นสังกัด เพราะพระลูกวัดเหล่านี้ มีข้อขัดแย้งกับทางเจ้าอาวาส ไม่เคารพยำเกรง บางคนก็มีประวัติถูกจับยาเสพติด แล้วกลับมาบวชใหม่
พระไพศาล เปิดเผยอีกว่า พระเณรกลุ่มนี้ มักจะขับรถกระบะ หรือรถบรรทุกหกล้อ ออกจากวัดตั้งแต่ ตี 3 ตี 4 เพื่อไปบิณฑบาตที่อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี หรือ จ.สมุทรปราการ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งส่วนใหญ่จะไปไกลๆ ถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม และเวลาที่ได้ของทำบุญมา ไม่ว่าจะเป็นของกิน หรือเงิน ก็จะนำมาแบ่งกัน นำไปขาย ไม่ได้นำกลับมาเข้าวัด
ส่วนที่พระลูกวัดกลุ่มนี้ร้องเรียนว่ามีการยักยอกเงินกฐินวัด 3 แสนบาท พระไพศาล บอกว่า เรื่องเงินกฐิน มีเอกสารชี้แจงทั้งหมด โดยเงินกฐินมีบัญชีรายรับรายจ่ายที่ชัดเจน แต่มีบางรายการที่มีการนำไปให้ผู้อื่นหยิบยืมไปใช้ ส่วนข้อร้องเรียนที่ว่ามีการใช้ฉายาเดิม หลังจากที่ได้ลาสิกขาไปแล้ว พอกลับมาบวชใหม่ ก็ยังใช้ฉายาเดิมนั้น ทางพระผู้ใหญ่เห็นว่าสามารถกระทำได้ โดยไม่ผิด
ส่วนพระลูกวัด ที่อ้างว่าถูกไล่ออกจากวัด ชี้แจงว่า เหตุที่ไปบิณฑบาตแล้วนำของไปขายนั้น เป็นการหาปัจจัยมาเติมน้ำมันรถ เพื่อเป็นค่าน้ำมันพาเณรไปส่งเรียนหนังสือเท่านั้น
หลังจากสำนักงานพระพุทธศาสนา จัดประชุมพร้อมสอบข้อเท็จจริงนานเกือบ 2 ชม. สามารถเจรจาตกลงกันและทุกฝ่ายได้เซ็นยอมรับดังนี้
1. พระและเณรในสำนักสงฆ์ จะไม่บิณฑบาตนอกพื้นที่
2. บิณฑบาตช่วงพระอาทิตย์ขึ้น กลับสำนักสงฆ์ไม่เกิน 09.00 น.
3. พระไพศาล ในฐานะหัวหน้าคณะสงฆ์ ยอมลาออก
4. พระไพศาล จะไปจำพรรษาที่วัดในเมืองฉะเชิงเทรา
5. ให้เจ้าคณะตำบลเขาหินซ้อน มารับตำแหน่งแทน
6. พระไพศาล จะต้องชี้แจงค่าใช้จ่ายที่ได้รับจากงานกฐิน 3 แสนกว่าบาท
บทสรุปเหตุการณ์นี้คือ พระเณร ทั้งหมดกลับมาอยู่สำนักสงฆ์เหมือนเดิม แต่ห้ามออกบิณฑบาตนอกเขตอีก ส่วนเจ้าอาวาส ยอมลาออกไปจำพรรษาที่วัดอื่นในจังหวัดฉะเชิงเทรา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง