กรมศุลกากร สกัดการลักลอบนำเข้า "น้ำมันดีเซล" จำนวน 1.14 แสนลิตร มูลค่า 3 ล้าน และการตรวจยึดยาเสพติด ประเภท เฮโรอีน 3.5 กิโลกรัม มูลค่า 10 ล้านบาท เตรียมส่งออกต่างประเทศ
4 ส.ค. 2566 นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร แถลงการจับกุมผู้ลักลอบนำน้ำมันดีเซล จำนวน 114,000 ลิตร มูลค่ากว่า 3 ล้านบาทเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านพิธีการกรมศุลการกรและตรวจยึดเฮโรอีน ซึ่งซุกซ่อนอยู่ในกล่องไปรษณีย์ และกำลังนำส่งศูนย์ไปรษณีย์สุวรรณภูมิไปประเทศที่ 3 โดยสำแดงสินค้าว่าเป็นแผ่นประคบร้อน
เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2566 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กองสืบสวนและปราบปราม กรมศุลกากร ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากศูนย์ปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปนม.ตร.) ได้ตรวจค้นรถบรรทุกน้ำมันจำนวน 3 คัน ที่บริเวณริมถนนบางนา-ตราด ขาเข้า กม.37 ต.บางสมัคร อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งลักลอบนำน้ำมันดีเซล
โดยรถบรรทุกน้ำมันเตรียมนำไปส่งให้ลูกค้าในกรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างขยายผล โดยจะสอบปากคำคนขับรถว่ามีส่วนรู้เห็น หรือ เป็นเพียงผู้รับจ้างขนส่งน้ำมันดีเซล
สำหรับการลักลอบขนน้ำมันส่วนใหญ่ หากไม่มาทางเรือ ก็ลักลอบนำเข้ามาตามแนวชายแดน ประเทศมาเลเซีย ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจของประเทศ กรมศุลกากร จึงร่วมมือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการปราบปรามสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดอย่างเข้มงวด โดยตั้งแต่ปี 2565 - ปัจจุบัน สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 642 ราย น้ำมันดีเซล 440,168 ลิตร มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 2566 เจ้าหน้าที่กรมศุลกาการ ตรวจยึดเฮโรอีนได้ 3.5 กิโลกรัม รวมมูลค่า 10 ล้านบาท ซึ่งซุกซ่อนอยู่ในกล่องไปรษณีย์และกำลังนำส่งศูนย์ไปรษณีย์สุวรรณภูมิไปประเทศที่ 3 โดยสำแดงสินค้าว่าเป็นแผ่นประคบร้อน แต่กลับพบเฮโรอีน ซึ่งมีต้นทางมาจากเขตบางกะปิ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสืบสวนขยายผลไปยังผู้ร่วมขบวนการ
โฆษกกรมศุลกากร ระบุว่า การลักลอบขนส่งยาเสพติดผ่านทางพัสดุภัณฑ์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ไม่ใช่แค่ประเทศไทย แต่ผู้ค้ายาเสพติดทั่วโลกก็หันมาใช้ช่องทางนี้ในการกระจายสินค้า เนื่องจากลดความเสี่ยงการถูกตรวจค้นจับกุม หรือ หากตรวจยึดได้ก็ขยายผลไปยังผู้ส่งได้ยาก เพราะสามารถใช้ชื่อที่อยู่ปลอมได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง