สืบนครบาลรวบ 'โจ สายไหม' ลวง ด.ญ.13 ปี ล่วงละเมิด หลังหนีไปใช้ชีวิตคนเร่ร่อน

4 ส.ค. 2566 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์  ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) ส่งทีมนักสืบ แกะรอยสืบสวน ผู้ต้องหากระทำชำเราเด็ก หลังได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจากประชาชน กรณี เด็กหญิง อายุ 13 ปี ถูกนายสมบัติ (สงวนนามสกุล) อายุ 52 ปี หรือ โจ สายไหม ใช้อาวุธมีดข่มขู่เพื่อกระทำการล่วงละเมิดทางเพศ โดยหลังก่อเหตุได้หลบหนีออกจากพื้นที่ แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้บริเวณหน้าศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.ปทุมธานี ต.รังสิต อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี 

 

 

 

 

 

 

 

สำหรับพฤติการณ์ของนายสมบัติ หรือ โจ สายไหม  ใช้วิธีการชักจูง หลอกล่อเด็กหญิง อายุ 13 ปี ให้มาเก็บเสื้อผ้าภายในบ้านแลกกับเงินจำนวน 100 บาท โดยเมื่อเด็กหลงกลอุบาย และได้เข้าไปเก็บเสื้อผ้าให้แล้ว จะใชัอาวุธมีดข่มขู่ เพื่อให้เด็กหญิงยินยอม พร้อมทำการล่วงละเมิด เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 ม.ค. 2566 โดยผู้เสียหายได้ทำการแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สน.สายไหม 
           

 

 

 

 

พล.ต.ต.ธีรเดชจึงสั่งการให้ พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. ทำการสืบสวนติดตามเพื่อทำการจับกุมผู้ต้องหาคนดังกล่าวมาให้ได้ แต่เนื่องจากผู้ต้องหามีพฤติกรรมเป็นบุคคลเร่ร่อน และมีประสบการณ์การถูกจับกุมในคดียาเสพติด ทำให้ยากแก่การติดตามจับกุม และได้ทำการสืบสวนติดตามมาร่วมกว่า 6 เดือน

 

 

 

 

 

จนได้รับข้อมูลเพิ่มเติมว่า นายสมบัติ ได้มาทำบัตรประชาชนใหม่ ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี  ตำรวจจึงได้ทำการสืบสวนเพิ่มเติมจนพบว่า นายสมบัติ ได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่ ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จังหวัดปทุมธานี  จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนนครบาล เข้าจับกุม 
       

ในชั้นจับกุม นายสมบัติ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า ขณะก่อเหตุตนอาศัยอยู่บริเวณพื้นที่สายไหม และได้หลอกล่อเด็กเข้ามากระทำอนาจารจริง แต่ไม่ได้มีการสอดใส่แต่อย่างใด

 

 

 

 

 

โดยหลังจากที่ก่อเหตุแล้วได้หลบหนี ใช้ชีวิตด้วยการเป็นคนเร่ร่อน หาตกปลาและขายพระเครื่องประทังชีวิต จนกระทั่งเมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ตนต้องการที่จะทำบัตรประชาชน แต่ไม่มีเงินพอทำบัตรใหม่ จึงได้เข้าไปติดต่อที่ ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จังหวัดปทุมธานี และได้พักอาศัยอยู่ที่ดังกล่าว” หลังการจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนนครบาล จึงได้นำตัว นายสมบัติฯ ส่งพนักงานสอบสวน สน.สายไหม ดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป