ข่าว

เหยื่อร้องถูก 'นายหน้า' หลอก 'ทำงานต่างประเทศ' สูญเงินกว่า 9 หมื่นบาท

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อหลอก 'ทำงานต่างประเทศ' ร้อง 'คมชัดลึก' ถูก 'นายหน้า' ลวงทำงานเยอรมัน สูญเงินกว่า 9 หมื่นบาท เผย ชักชวนผ่านโซเชียล น่าเชื่อถือ อ้างกรมการจัดหางาน สถานฑูต เหยื่อหลงเชื่อกว่า 100 ราย ความเสียหายไม่ต่ำกว่า 130 ล้าน จ่อร้องกองปราบฯ

 

2 ส.ค. 2566 คนไทยหลายคนพยายามหนีความยากจน ดิ้นรนไป "ทำงานต่างประเทศ" บางคนไปทำงานถูกต้องตามกฎหมาย บางคนเป็นผีน้อย บางคนก็ถูก "หลอกทำงานต่างประเทศ" จากความฝันหวังไปกอบโกยเงินทองกลับบ้าน แต่สุดท้ายกลับกลายต้องไปทนทุกข์ทรมาน
 

 

อีกหลายคนที่ต้องการดิ้นรนไป "ทำงานต่างประเทศ" แต่กลับถูกหลอก เสียเงินเสียทองให้กับ "นายหน้า" อ้างว่าสามารถพาไป "ทำงานต่างประเทศ" แต่ที่สุดแล้วเสียเงินเสียทองให้กับ "นายหน้า" ในเมืองไทย กลับไม่ได้ไปอย่างที่หวัง

 

"คมชัดลึก" ได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหายกลุ่มหนึ่งที่ถูกหลอก "ทำงานต่างประเทศ" แต่ละคนต้องเสียค่าใช้จ่ายก่อนเดินทาง รายละกว่า 9 หมื่นบาท ให้กับ "นายหน้า" แต่สุดท้ายต้องเสียเงินฟรี ไม่มีงานให้ไปทำ ต้องติดหนี้สินที่กู้ยืมมาอีก

 

 

 

ผู้เสียหายกลุ่มนี้เปิดเผยกับ "คมชัดลึก" ว่า พวกเธอถูก "นายหน้า" บริษัทแห่งหนึ่ง ที่มีการโฆษณาชวนเชื่อทางโลกออนไลน์ ทั้ง ติ๊กตอก เฟซบุ๊ก ว่าสามารถพาไป "ทำงานต่างประเทศ" นั่นคือ ประเทศเยอรมัน ในตำแหน่ง ผู้ช่วยนักวิจัย แต่ต้องผ่านการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ และไม่จำกัดวุฒิการศึกษา 

 

 

 

การไลน์สดผ่านติ๊กตอก แต่ละครั้งมีคนสนใจเข้ามาชมจำนวนมาก "นายหน้า" ผู้ไลน์มีการพูดจาน่าเชื่อถือ พร้อมทั้งอ้างว่าบริษัทของเขาผ่านการรับรองจากสถานฑูตเยอรมัน และ "กรมการจัดหางาน" ของไทย  ยิ่งทำให้มีผู้หลงเชื่อจำนวนมาก 

 

 

 

"นายหน้า" ผู้ไลน์สดแนะนำหากใครสนใจให้ติดต่อผ่านไลน์ กลุ่มที่มีการตั้งขึ้นมาสำหรับคนที่สนใจไป "ทำงานต่างประเทศ" นั่นคือ เยอรมัน จนมีผู้หลงเชื่อหลายร้อยคน ติดต่อเพื่อขอสมัครไปทำงาน โดยเรียกค่าใช้จ่ายในการเดินทางคนละกว่า 9 หมื่นบาท

 

 

 

"จำนวนเงินกว่า 9 หมื่นบาทที่เรียกเก็บมีการอ้างว่าเป็นค่าตรวจประวัติอาชญากรรม 3,900 บาท ค่าตั๋วเครื่องบิน 5 หมื่นบาท และค่าทำวีซ่า 4 หมื่นบาท "

 

 

 

จนมีผู้เสียหลงเชื่อหลายร้อยราย โอนเงินให้กับบุคลดังกล่าวตามข้อตกลงรายละกว่า 9 หมื่นบาท แล้ว ก็มีการพูดคุยผ่านไลน์ ในการขอเอกสารต่างๆ เพื่อใช้ในการทำวีซ่า ที่สถานทูตเยอรมัน แต่เวลาผ่านไปเนิ่นนาน ความคืบหน้าการดำเนินการต่างๆล่าช้าตลอดเวลา

 

 

 

จนผู้เสียหายหลายคนเริ่มเอะใจว่าจะถูกหลอกหรือไม่ พยายามทวงเงินคืน เพื่อขอยกเลิกไปทำงานเยอรมัน แต่ทางบริษัท ยังยืนยันว่าสามารถไปทำงานได้ แต่ยังติดขัดการขอวีซ่าไปทำงานจากสถานฑูตเยอรมัน 

 

 

 

พร้อมทั้งย้ำว่ามีการซื้อตั๋วเครื่องบินเรียบร้อย จะมีการเดินทางไปทำงานเยอรมัน ในช่วงเดือนพฤศจิกายน และเดือนธันวาคม  2565  โดยให้แต่ละคนไปรับวีซ่าได้ที่สถานทูตเยอรมัน จึงทำให้ผู้เสียหายมั่นใจว่าได้ไปทำงานแน่นอน จึงเดินทางไปรับวีซ่าที่สถานทูต

 

 

 

แต่เมื่อถึงสถานทูต กลับเป็นคนละเรื่องไม่ใช่ไปรับวีซ่า แต่กลับกลายเป็นให้ผู้เสียหายไปยื่นขอวีซ่าเอง แต่ไม่มีใครสามารถยืนผ่านเลย

 

 

 

ผู้เสียหาย บอกว่า ตอนนี้เริ่มมั่นใจแล้วว่าน่าจะถูกหลอก "ทำงานต่างประเทศ" แน่นอน เพราะมีการสอบถามเจ้าหน้าที่สถานทูต ยืนยันว่าการไปทำงานประเทศเยอรมันนั้นต้องมีการรับรองจากประเทศต้นทาง รวมถึงกรมการจัดหางานของไทย บริษัทไม่สามารถส่งคนไปทำงานเองได้

 

 

 

ดังนั้นผู้เสียหาย พยายามเรียกร้องเงินจำนวน 9 หมื่นบาท คืนจาก "นายหน้า" บริษัทดังกล่าว แต่ได้รับการบ่ายเบี่ยง มาตลอด บางครั้งไม่สามารถติดต่อได้ บางครั้งมีการข่มขู่ผู้เสียหาย 

 

 

 

ผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อของ "นายหน้า" บริษัทนี้กว่า 100 ราย  และมีผู้เสียหายกว่า 10 รายแล้ว ที่เข้าแจ้งความกับตำรวจ เพื่อเอาผิดกับ "นายหน้า" บริษัทดังกล่าว และเรียกร้องเงินคืน ขณะที่บริษัทดังกล่าวก็มีการข่มขู่ผู้เสียหายว่าหากใครไปแจ้งความจะไม่คืนเงิน 9 หมื่นบาท  จนผู้เสียหาย บางรายไม่กล้าเข้าแจ้งความเพราะยังหวังว่าจะได้เงินคืน และยังหวังว่าจะได้ไป "ทำงานต่างประเทศ"

 

 

ผู้เสียหาย บอกว่า ขณะนี้หลายคนเดือดร้อนมากเพราะต้องไปกู้ยืมเงินทอง ทั้งในระบบ หรือ นอกระบบ เพื่อมาจ่ายให้กับนายหน้าในการพาไปทำงานเยอรมัน แต่ไม่ได้ไป กลับต้องมีเสียเงิน 9 หมื่นบาท จนมีหนี้สินมากมาย กลับมาถูกหลอก

 

 

 

ผู้เสียหายบอกว่าขณะนี้มีผู้เสียหายกว่าร้อยรายแล้ว "นายหน้า"รายนี้น่าจะได้เงินไปไม่ต่ำกว่า 13 ล้านบาท ตอนนี้แต่ละคนเริ่มที่จะรวมกลุ่มกันเข้าแจ้งความกับตำรวจ จากนั้นผู้เสียหายกลุ่มนี้จะเข้าร้องเรียนที่กองปราบปราม เพื่อดำเนินคดีกับนายหน้ารายนี้ ต่อไป

 

 

 

ด้าน พ.ต.ท.นคร ตั้งรวมทรัพย์ สารวัตร(สอบสวน) สน.ห้วยขวาง เปิดเผยว่า ในส่วนของตนเองที่รับผิดชอบ ขณะนี้ มีผู้เสียหายเดินทางเข้าแจ้งความแล้ว 3 ราย ส่วนผู้เสียหายรายอื่นๆน่าจะมีการแจ้งความไว้กับพนักงานสอบสวนรายอื่น ซึ่งผู้เสียหายส่วนใหญ่มีภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัด โดยขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆที่ผู้เสียหายถูกหลอก ทั้งเอกสาร ข้อความการพูดคุยผ่านไลน์ หลังจากนั้นอาจจะมีการสอบปากคำเพิ่มเติมผู้เสียหาย เพื่อออกหมายเรียก "นายหน้า" ผู้ถูกฟ้องร้องมารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ