ทลายยกแก๊ง 10 ผู้ต้องหา 18 'บัญชีม้า' ตุ๋นเหยื่อ เทรดหุ้น เงินสะพัด 800 ล้าน

27 ก.ค. 2566 ที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.)  พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ รอง ผบก.ป ปฏิบัติราชการ บก.ปอศ. ,พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ รอง ผบก.ป ปฏิบัติราชการ บก.ปอศ. พ.ต.อ.ธีรภาส ยั่งยืน ผกก.3 บก.ปอศ. พ.ต.อ.วีระพงษ์ คล้ายทอง ผกก.4 บก.ปอศ. ร่วมกันแถลงผลปฏิบัติการ "ทลายยกแก๊ง หลอกเหยื่อลงทุน"  จับกุม นายกิตติพล (สงวนนามสกุล)  อายุ 33 ปี พร้อมพวกรวม 10 คน ทั้งหมดเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 2323-2337/2566 ลง 20 ก.ค. 2566 ข้อหา "ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันนําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่ง ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน"

 

 

 

 

 

โดยกลุ่มมิจฉาชีพ ใช้เฟซบุ๊ก แอบอ้างชื่อบริษัทให้คําปรึกษาจัดการลงทุน ชักชวนให้ลงทุนเทรดหุ้น อ้างมีผลตอบแทนสูง หลอกเหยื่อให้ทดลองเทรดด้วยเงินจํานวนไม่มาก โดยช่วงแรกเหยื่อจะสามารถถอนเงินผลกำไรออกมาได้จริงเพื่อหลอกให้เหยื่อตายใจ เพิ่มเงินลงทุนมากขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อต้องการจะถอนเงินพร้อมผลกําไรออกมา ก็จะปรากฎว่าจะไม่สามารถถอนเงินได้ 

 

 

 

 

กลุ่มผู้ต้องหาจะใช้อุบายอ้างว่า ต้องโอนเงินมาเพิ่มก่อนถึงจะถอนเงินได้ ทําให้ผู้เสียหายที่อยากจะได้เงินคืน ต้องโอนเงินเพิ่มเข้าไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายไม่ได้รับอะไรกลับมาเลย ซึ่งผู้เสียหายรายหนึ่ง สูญเงินไปมากกว่า 4 ล้านบาท

 

 

 

 

 

 

พล.ต.ต.พุฒิเดช กล่าวว่าจากการสืบสวน พบว่าคนร้ายจะใช้วิธีการโอนเงินต่อไปเรื่อยๆ หลายชั้นและรวดเร็ว จนยากต่อการติดตาม แต่พบว่ามีบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องมากถึง 18 บัญชีม้า เงินหมุนรวม 800 ล้านบาท มีผู้ต้องหาที่มีส่วนเกี่ยวข้องประมาณ 16 ราย แต่ละรายมีหมายจับคดีลักษณะเดียวกันอีกเป็นจํานวนมากและยังหลบหนีอยู่อีกด้วย 

 

 

 

จึงสั่งการเข้าตรวจค้นเป้าหมายในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพ, สุพรรณบุรี, อุทัยธานี, นครสวรรค์, กระบี่  สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ดังกล่าว เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธ จึงส่งตัวให้พนักงานสอบสวน ของ บก.ปอศ.ดำเนินคดีต่อไป