สืบนครบาล รวบ แพร หลังเที่ยงคืน เจ้าของ 'บัญชีม้า' หลอกขายบัตร BLACKPINK

24 ก.ค. 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดลาดตระเวนออนไลน์ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บก.สส.บช.น.)  ร่วมกับชุด PCT5       ได้รับการร้องเรียนจากประชาชน ว่ามีผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊คชื่อ “Kaewnam Knnk, lionil wang, Oilly Jew, Lookkeaw LK”  หรือแพร หลอกขายบัตรคอนเสิร์ต BLACKPINK  ในกลุ่ม “ซื้อขายบัตรคอนเสิร์ตและทุกงานแสดง” โดยใช้ชื่อบัญชีรับโอนเงินชื่อบัญชี น.ส.ศศิธร (สงวนนามสกุล)  

 

จากการสืบสวนทราบว่า คนร้ายหลบซ่อนตัวไม่ออกจากบ้านมาเป็นเวลานาน เนื่องจากก่อนหน้านี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากหลายหน่วยติดตามตัวเพื่อนำไปดำเนินคดี แต่ไม่พบตัวผู้ต้องหา  และเมื่อจะออกจากที่พักจะออกมาช่วงเวลาตีสอง หรือตีสาม เป็นการอำพรางตัวเพื่อให้รอดพ้นจากการสืบสวนจับกุม

 

 

 

 

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. และชุด PCT5  ได้ร่วมกันนำหมายค้นศาลจังหวัดเชียงราย ที่ 155/2566 ลงวันที่ 23 ก.ค. 2566 เข้าทำการตรวจค้นภายในบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ ต.ห้วยสัก อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย จับกุมตัว น.ส.ศศิธร หรือแพร (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี ตามหมายจับศาลแขวงนครปฐม ที่ 155/2566 ลงวันที่ 26 พ.ค. 2566 โดยกล่าวหาว่า "ฉ้อโกงและโดยสุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น"

จากการสอบถาม น.ส.ศศิธร ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา  โดยให้ปากคำว่า เมื่อปี 2553 เคยเดินทางไปทำงานเป็นพนักงานนวดที่ประเทศเกาหลี และเคยถูกจับกุมในข้อหา " ครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) เพื่อจำหน่าย " พร้อมกับแฟน ครั้งนั้นรับโทษในเรือนจำจังหวัดเชียงราย 4 ปี เมื่อพ้นโทษออกมาช่วงปี 2557  ไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง 

 

 

 

ช่วงเดือน ก.ค. 2565 ได้เล่นเฟซบุ๊กและได้ไปเห็นโพสต์ในกลุ่ม "ซื้อ-ขายบัญชี ทุกบัญชีธนาคาร"  จึงได้กดเข้าร่วมกลุ่มเข้าไป ต่อมาได้เห็นโพสต์ของผู้ใช้บัญชีรายหนึ่ง ต้องการหาบัญชีธนาคารต่างๆ   ซึ่งตนเองช่วงนั้นไม่มีเงินพอใช้ประกอบกันติดเล่นพนันออนไลน์ จึงเกิดความสนใจจึงได้กดเข้าไปติดต่อสอบถามผ่านทางข้อความเฟซบุ๊กเจ้าของบัญชีเฟซบุ๊กดังกล่าว ได้เสนอราคาให้เปิดบัญชีในราคาบัญชีละ 300-500 บาท 

 

ซึ่งตนได้เปิดและขายบัญชี 3 ธนาคาร เป็นชื่อของตนเองให้กับเฟซบุ๊คดังกล่าว เป็นจำนวนเงิน 900 บาท และนำเงินที่ได้จากการขายบัญชีดังกล่าวไปเล่นพนันออนไลน์จนเสียหมดตัว ที่ผ่านมาเคยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากหลายหน่วยมาตามหาตน แต่ช่วงนั้นตนออกไปทำธุระนอกบ้าน เมื่อรู้ว่าตนมีหมายจับที่ตำรวจตามก็ได้เก็บตัวเงียบ จะออกจากบ้านช่วงหลังเที่ยงคืน หรือตีสองตีสาม เนื่องจากเกรงจะถูกจับกุมตัว โดยไม่คิดว่าจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนำหมายค้นเข้าทำการจับกุมตนถึงในบ้านพัก

จากการตรวจสอบประวัติคดีของ น.ส. ศศิธร  พบข้อมูลประวัติคดี จำนวน 3 คดี ประกอบด้วย

1. ปี 2553 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) เพื่อจำหน่าย ” ท้องที่ สภ.เมืองเชียงราย 

2. ปี 2563 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ” ท้องที่ สภ.เมืองเชียงราย

3. ปี 2566 ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงนครปฐม ที่ 155/2566 ลงวันที่ 26 พ.ค. 2566 ข้อหา “ ฉ้อโกงและโดยสุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ” ท้องที่ สภ.บางเลน ภ.จว.นครปฐม 

 

เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางเลน จว.นครปฐม ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป