ระทึกกลางเมือง โชเฟอร์ 6 ล้อ ขับตาม 'GPS' นำทางพาหลง 'เกี่ยวสายไฟ' ส่งผลให้เสาไฟฟ้าแรงสูง ล้มทับรถไฟลุกไหม้เสียหายหลายคัน กฟภ.เตรียมเรียกคนขับ ชดใช้ค่าเสียหาย
19 ก.ค. 2566 ร.ต.อ.ตูชัย สุระเสียง ร้อยเวรสอบสวนสภ.เมืองปทุมธานี รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถ 6 ล้อตู้ทึบเกี่ยวสายไฟจนทำให้มีเสาไฟฟ้าล้มทับรถยนต์ ที่จอดอยู่ภายในธนาคารออมสิน สาขาเมืองปทุมธานี ต.บางปรอก อ.เมือง จ.ปทุมธานี
ทั้งนี้ ส่งผลให้เกิดไฟลุกไหม้รถได้รับความเสียหายหลายคัน จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยหน่วยดับเพลิงของเทศบาลเมืองปทุมธานี พร้อมรถดับเพลิงจำนวน 1 คัน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้ รถยนต์เก๋งยี่ห้อวอลโว่ หมายเลขทะเบียน กต 4794 ปทุมธานี เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ช่วยกันฉีดน้ำเข้าสกัดไฟเพื่อไม่ให้ลุกลามไปยังรถที่จอดอยู่ด้านข้าง โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที ไฟจึงดับลง แต่ยังต้องใช้น้ำฉีดไปที่ถังแก๊ส LPG ที่อยู่ในรถคันดังกล่าว เพราะมีแก๊สรั่วไหลออกมา
นอกจากนี้ ยังพบรถเก๋งและรถกระบะ ที่จอดอยู่ในลานจอดรถของธนาคารถูกเสาไฟฟ้าล้มทับได้รับความเสียหายจำนวน 10 คัน และพบรถ 6 ล้อ ตู้ทึบ ยี่ห้อ Isuzu หมายเลขทะเบียน80755 จอดอยู่บนถนนและมีสายไฟฟ้า สายสื่อสาร พาดอยู่ด้วย โดยมี นาย ล้อ ทรงวุฒิ สิงห์สถิตย์ อายุ 48 ปี คนขับ ยืนรอให้การกับตำรวจ
จากการสอบถาม ทรงวุฒิ กล่าวว่า ขับรถมาจาก อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ โดยทางบริษัทได้ตั้ง GPS เดินทางไป ขนส่งปทุมธานี เพื่อที่จะนำรถไปตรวจสภาพ แต่ GPS ได้พาหลงเข้ามาในตัวเมืองปทุมธานี โดยไม่ได้ดูว่าความสูงของรถจะผ่านสายไฟที่พาดอยู่ได้หรือไม่ เมื่อผ่านจุดที่เกิดเหตุ ปรากฏว่าหลังคารถไปเกี่ยวกับสายไฟ จนทำให้เสาไฟฟ้าล้มทับรถที่จอดอยู่บริเวณนั้น
ด้าน ธัญญ์ ณุคามาศ อายุ 53 ปี เจ้าของรถวอลโว ที่ถูกไฟไหม้ กล่าวว่า ตัวเองมาทำธุระที่ธนาคารออมสิน จากนั้นได้ข้ามถนนไปซื้ออาหาร จนต่อมาได้ยินเสียงเสาไฟล้ม และมีไฟลุก จึงรีบวิ่งออกมาดู พบว่ารถของตนเองถูกไฟไหม้ได้รับความเสียหาย
ขณะที่ พ.ต.ท.สามารถ กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุได้ให้พนักงานสอบสวนถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐาน และตรวจสอบข้อมูลทั้งหมด ทั้งนี้ ได้ประสานเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ให้มาตรวจสอบความเสียหาย เบื้องต้นพบว่ามีเสาไฟฟ้าล้มจำนวน 4 ต้น ซึ่งเป็นเสาไฟฟ้าขนาด 22,000 โวลต์ และมีรถเสียหายจำนวนหลายคัน ซึ่งความเสียหายครั้งนี้ได้นำตัวคนขับรถ 6 ล้อไปสอบสวนเพิ่มเติม ที่สภ.เมืองปทุม และจะมีการชดใช้ค่าเสียหายต่อไป
อนันต์ วิจิตรประชา จ.ปทุมธานี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง