'สมศักดิ์' แจงเฒ่าวัย 62 พ้นโทษ หลุดการเฝ้าระวัง จนก่อเหตุซ้ำฉุดเด็ก 14

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ชี้แจงกรณี นายสมบัติ เฒ่าวัย 62 ปี อดีตผู้ต้องหาคดีข่มขืนกระทำชำเรา พ้นโทษเมื่อปี 2564 ไม่ได้ใส่ "กำไล EM" กลับมาก่อเหตุซ้ำฉุดเด็ก 14 ปี หวังล่วงละเมิดทางเพศ พร้อมเตรียมขุดหลุมฝัง เหตุเกิดที่ จ.พิจิตร 

โดยนายสมศักดิ์แสดงความเสียใจต่อเหตุที่เกิดขึ้นกับเด็กหญิงและครอบครัว และขอชื่นชมชาวบ้านที่ช่วยกันตามล่าล้อมจับคนร้าย จนสามารถช่วยเด็กหญิงวัย 14 ให้รอดปลอดภัยมาได้ 

ส่วนนายสมบัติถือเป็นคนร้ายที่น่ากลัว เพราะก่อนหน้าที่จะออกจากเรือนจำก็ทำความผิดต่อชีวิตข่มขืนกระทำชำเรา ทั้งยังมีคดีความผิดเกี่ยวกับเพศโดยการพรากผู้เยาว์  ทั้ง 2 คดีนี้ความผิดรวมกันต้องจำคุก เกือบ 20 ปี ถือเป็นบุคคลอันตรายต่อสังคม

นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า สังคมคงสงสัยเพราะเวลานี้ประเทศไทยมีพระราชบัญญัติมาตรการป้องกันการกระทำผิดซ้ำในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง หรือ JSOC ทำไมคนร้ายถึงยังกลับมาก่อคดีอุกอาจลักษณะนี้ได้อีก 

ความจริง คือ นายสมบัติถูกปล่อยตัวออกจากเรือนจำเมื่อ 21 ต.ค. 2564 ซึ่งในเวลานั้นยังไม่มีกฎหมาย JSOC ขั้นตอนยังอยู่ระหว่างการจัดทำ ซึ่งมีผลใช้บังคับในวันที่ 23 ม.ค. 2566 จึงยังไม่มีลิสต์ในการติดกำไล EM เพื่อเฝ้าระวัง

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า แต่ปัจจุบันมีกฎหมาย มีเครื่องมือในการติดตามเฝ้าระวังผู้กระทำผิด หากหน่วยงานต่างๆ ของรัฐที่เกี่ยวข้อง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานศาลยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม กระทรวงสาธารสุข กระทรวงมหาดไทย ในฐานะคณะกรรมการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำ รวมพลังในการทำงานจะเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะจะเป็นความหวังของประชาชนในการเฝ้าระวังคนกลุ่มนี้ไม่ให้ออกมาสร้างปัญหาอีก เพื่อความปลอดภัยในสังคมโดยเฉพาะกลุ่มสตรี

"การเสนอติดกำไล EM ต้องผ่านคณะกรรมการ เสนอศาลเพื่อใช้ดุลยพินิจว่าต้องเฝ้าระวังผู้กระทำผิดในระยะเวลาเท่าไหร่ แต่ระยะเวลาการเฝ้าระวังสูงสุดสามารถทำได้ไม่เกิน 10 ปี เวลานี้ประเทศไทยมีความพร้อม ขอให้ทุกหน่วยงานช่วยกัน ตอนนี้อาจจะยังเป็นเรื่องใหม่ แต่หากเราทำได้จะเป็นระบบความปลอดภัยที่เกิดขึ้นในสังคม และที่สำคัญคือเราต้องยกระดับความปลอดภัยให้กับกลุ่มสตรี" นายสมศักดิ์ ก

ล่าว