'บิ๊กโจ๊ก' สั่งเอาผิด 7 พี่เลี้ยง สถานสงเคราะห์สระบุรีทำร้ายเด็ก 46 ราย
"บิ๊กโจ๊ก" เอาผิด 7 พี่เลี้ยง "สถานสงเคราะห์เด็กหญิงสระบุรี" หลังพบเด็กตกเป็นเหยื่อถูกทำร้ายตบตี-เชือกมัด-ขังในห้องน้ำ สูงถึง 46 ราย เผยแจ้งข้อหา "พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ" เป็นคดีแรกของไทย
17 ก.ค. 2566 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) และ ผอ.ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง (ศพดส.ตร.) ได้ประชุมสั่งการ ในคดีการทารุณกรรมเด็ก ในสถานสงเคราะห์เด็กหญิงสระบุรี ซึ่งต่อมาตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี พร้อมด้วย พม.จ.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ได้เข้าตรวจสอบ และช่วยเหลือเด็ก พร้อมมีการตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนดำเนินการสอบสวนเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวนั้น
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้สั่งการ ให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดำเนินการนำเด็กจากสถานสงเคราะห์ดังกล่าวจำนวนทั้งหมด 167 คน เข้ากระบวนการคัดแยกผู้เสียหายร่วมกับสหวิชาชีพ พบว่า มีเด็กตกเป็นเหยื่อการทารุณกรรมมากถึง 46 ราย ซึ่งถูกพี่เลี้ยงภายในสถานสงเคราะห์ดังกล่าว ทารุณกรรมหลายรูปแบบ อาทิ การใช้เชือกมัดมือมัดเท้า เอาเทปกาวปิดปาก ขังเด็กไว้ในห้องน้ำหรือห้องเก็บของ การบังคับให้เด็กลงไปในบ่อน้ำทิ้ง หรือถังขยะ บังคับให้นอนในห้องน้ำ พูดจาข่มขู่ และว่ากล่าวอย่างหยาบคาย ใช้มือและเท้าทำร้ายร่างกายเด็ก จนไปถึงการใช้อาวุธ เช่น ไม้บรรทัด ไม้แบด หรือด้ามไม้กวาดตีเด็ก เป็นต้น
ปัจจุบันเด็กผู้ตกเป็นเหยื่อทั้งหมด อยู่ในความดูแลของกรมคุ้มครองสิทธิ์ กระทรวงยุติธรรม และกรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
จากการซักถาม และรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการสอบปากคำพยานมากกว่า 116 ปาก มีเอกสารประกอบสำนวนมากกว่า 3,500 แผ่น และได้แจ้งข้อกล่าวหากับพี่เลี้ยง พยาบาล และผู้ฝึกสอนของสถานสงเคราะห์ รวมทั้งสิ้น 7 ราย ประกอบด้วย
1. นายอนุชิต หรือเกรียง โค้ชจักรยานในสถานสงเคราะห์ กระทำโดย ใช้เชือกมัดมือเด็ก
2. น.ส.สุจิตร์ หรือแอ๋ว แม่เลี้ยง กระทำโดย ใช้มือและแท่งเหล็กขว้างทำร้ายเด็ก
3. นางศิริวรรณ หรือตุ๊ก แม่เลี้ยง กระทำโดย ใช้มือตบ ขังในห้องน้ำและในห้องมืด รวมทั้งข่มขู่เด็ก ฯลฯ
4. น.ส.นพวรรณ หรือนิ๊ก แม่เลี้ยง กระทำโดย ใช้มือใช้เท้าทำร้ายเด็ก ใช้ไม้ตีทำร้ายเด็ก ฯลฯ
5. น.ส.จันทิมา หรือจัน แม่เลี้ยง กระทำโดย ใช้มือใช้ไม้ทำร้ายเด็ก รวมทั้งขังเด็กในห้องน้ำ
6. น.ส.ณัฏฐวรัญญา หรือบุ๊ค แม่เลี้ยง กระทำโดย มัดมือมัดเท้า ขังในห้องน้ำและห้องมืด รวมทั้งจับเด็กลงบ่อน้ำเสีย ฯลฯ
7. น.ส.เกษพิชชา หรือก้อย พยาบาลในสถานสงเคราะห์ กระทำโดย ใช้โทรศัพท์และใช้ไม้ตีทำร้ายเด็ก
โดยดำเนินคดีในความผิดฐาน "ใช้กำลังทำร้ายผู้อื่น โดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ (ป.อาญา 391), กระทําหรือละเว้นการกระทำอันเป็นการทารุณกรรมต่อร่างกายหรือจิตใจ (พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 ม.26(1)), เป็นผู้ปฏิบัติงานในสถานสงเคราะห์ทำร้ายร่างกายหรือจิตใจ กักขัง ทอดทิ้ง หรือลงโทษเด็กที่อยู่ในความปกครองดูแล โดยวิธีการรุนแรงประการอื่น เว้นแต่กระทำเท่าที่สมควรเพื่ออบรมสั่งสอนตามระเบียบที่รัฐมนตรีกำหนด (พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 ม.61), เจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทำด้วยประการใดที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ อันเป็นเหตุให้ผู้อื่นถูกลดทอนคุณค่าหรือละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานความเป็นมนุษย์ หรือเกิดความเจ็บปวดหรือความทุกข์ทรมานแก่ร่างกายหรือจิตใจ ที่มิใช่การกระทำความผิดตามมาตรา 5 ผู้นั้นกระทำความผิดฐานกระทำการที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ (พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ พ.ศ.2565 ม.6)"
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า คดีดังกล่าวเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นคดีที่เด็ก ซึ่งเข้ารับการดูแลคุ้มครองภายในสถานสงเคราะห์ กลับถูกเจ้าหน้าที่ภายในสถานสงเคราะห์กระทำการอย่างทารุณโหดร้าย ไม่ว่าจะเป็นการทำร้ายร่างกาย หรือการจับมัดมือมัดเท้า
จึงได้สั่งการให้คณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ภูธรจังหวัดสระบุรี ดำเนินการสืบสวนปากคำพยานโดยละเอียด โดยยึดเด็กเป็นศูนย์กลางและให้เกิดผลกระทบต่อจิตใจของเด็กให้น้อยที่สุด ซึ่งจากการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด ได้ดำเนินคดีกับผู้ดูแลเด็กในสถานสงเคราะห์ รวมทั้งหมด 7 ราย และมีการแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีกับผู้ต้องหาตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ เป็นคดีแรกของประเทศไทย