
ไร้เงามือยิง 'โปรกอล์ฟ' คาดทิ้งกระบะจมสระน้ำ อำพรางหลบหนี
เกือบ 1 เดือน ไร้เงามือยิง 'โปรกอล์ฟ' หลังพบกระบะ ที่คนร้ายใช้หลบหนี จมในสระน้ำพนมสารคม 'ผกก.สภ.ท่าม่วง' เผย รอผลการค้นหาในสระเจอศพหรือไม่ หากไม่เจอเชื่อทิ้งรถอำพราง หลบหนี
17 ก.ค. 2566 ตำรวจสภ.พนมสารคาม พบ รถกระบะยี่ห้อนิสสัน สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ผข-1873 ชลบุรี จมอยู่ในสระน้ำขนาดใหญ่ พื้นที่หมู่ 2 ต.พนมสารคาม อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา
เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยกันนำลวดสลิงไปคล้องดึงขึ้นมาได้สำเร็จ เมื่อตรวจสอบในรถพบใบขับขี่รถยนต์ และรถจักรยานยนต์แบบตลอดชีพ ระบุชื่อ "นายณัฎฐวัชร ดอนมอญ" อายุ 54 ปี ตรงกับผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกาญจนบุรี ในคดีใช้อาวุธปืนยิงอดีตข้าราชการบำนาญกรมชลประทาน และเป็นโปรกอล์ฟ เสียชีวิต
การพบรถกระบะครั้งนี้ พ.ต.อ.สมชาย เมืองใย ผกก.สภ.พนมสารคาม จึงสั่งการให้นำซากรถที่ถูกค้นพบไปเก็บรักษาไว้ก่อน เพื่อประสานตำรวจพิสูจน์หลักฐานฉะเชิงเทรา เก็บลายนิ้วมือแฝงและตรวจสอบหาพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์
พ.ต.อ.ศราวุธ ศรีสังวรณ์ ผกก.สภ.ท่าม่วง เจ้าของคดีพื้นที่เกิดเหตุ เปิดเผย "คมชัดลึก" ว่าหลังจากพบกระบะของคนร้าย ได้รับการประสานจากสภ.พนมสารคาม แล้ว แต่กระบวนการต่อไปคือต้องให้ตำรวจสภ.พนมสารคม ตรวจสอบโดยละเอียด ในสระน้ำพบศพคนขับรถหรือไม่ รวมทั้งอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ หากไม่พบก็เป็นการสันนิษฐานได้ว่าคนร้ายต้องการทำลายหลักฐานรถกระบะ ที่ใช้หลบหนี เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ผกก.สภ.ท่าม่วง ยืนยันว่า รถกระบะคันดังกล่าวเป็นรถที่คนร้ายสับเปลี่ยนในการหลบหนีหลังก่อเหตุ ชุดสืบสวนทราบตั้งแต่เกิดเหตุแล้วว่าหลบหนีมาในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา แต่ก็ไม่ยืนยันว่ากระบะคันดังกล่าวตกลงไปในสระน้ำตั้งแต่เมื่อไหร่
การพบรถกระบะคันนี้มีทั้งผลดี ผลเสียของการสืบสวนของตำรวจ เนื่องจากตำรวจรู้ความเคลื่อนไหวของคนร้ายตั้งแต่แรกแล้วว่าใช้กระบะคันดังกล่าวหลบหนี ตำรวจพยายามติดตามอยู่ตลอดเวลา เพียงแต่ไม่ทราบจุดกบดานที่แน่ชัดของคนร้าย แต่เมื่อพบรถกระบะ ยิ่งทำให้คนร้ายไหวตัวหลบหนีไปอีก
"ขั้นตอนจากนี้เจ้าหน้าที่จะต้องงมในสระน้ำหากไม่เจอศพ แสดงว่าคนร้ายตั้งใจเอารถไปทิ้ง เพื่ออำพรางการหลบหนี ไม่ให้เจอรถ แนวทางสืบสวนตอนนี้รู้ทิศทางหลบหนี แต่ไม่รู้จุดแน่ชัด เนื่องจากคนร้ายช่ำชองในการหลบหนี "
ย้อนไปเมื่อช่วงเย็น วันที่ 21 มิ.ย.66 เกิดเหตุอุจอาจขึ้นเมื่อคนร้ายคือ นายณัฎฐวัชร ดอนมอญ อายุ 54 ปี บุกยิง นายพงษ์ศักดิ์ ฤทธิสมิตร ผอ.สำนักชลประทานที่ 13 พร้อมด้วย น.ส.สร้อยสุดา อายุ 35 ปี แค้ดดี้สนามกอล์ฟเขาแร้งแห่งหนึ่งที่ จ.ราชบุรี ขณะตีกอล์ฟ อยู่ในสนามกอล์ฟเขื่อนแม่กลอง หมู่ 1 ต.ม่วงชุม อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี
เหตุการณ์ครั้งนั้นเกิดขึ้นที่สนามกอล์ฟ หลุมที่ 7 และหลุมที่ 9 นายเกรียงศักดิ์ ซึ่งเป็นโปรกอล์ฟ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. เข้าที่ใต้คางด้านขวากระสุนฝังใน อาการโคม่า ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในวันถัดมา (22 มิ.ย.66) ส่วนน.ส.สร้อยสุดา แค้ดดี้ ถูกยิงเข้าที่ร่างกาย 3 แผล ใต้ราวนมขวา 1 แผล หัวไหล่ขวา 2 แผล เสียชีวิตในเวลาต่อมา
ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พิสูจน์ตรวจสอบพบปลอกกระสุน ขนาด 9 มม. ที่หลุม 7 จำนวน 3 ปลอก ส่วนที่หลุม 9 พบปลอกขนาด 9 มม. จำนวน 4 ปลอก ส่วนคนร้ายคือนายณัฎฐวัชร ขับรถกระบะอีซูซุ มิวเซเว่น สีบรอนด์ ทะเบียน ชม 6116 กทม.หลบหนีออกจากไปที่เกิดเหตุทันที
ส่วนปมสังหารครั้งนี้มาจากเหตุหึงหวง น.ส.สร้อยสุดา มาออกรอบตีกอล์ฟ กับ นายพงษ์ศักดิ์ โดยคนร้ายคือ นายณัฎฐวัชร อยู่ในพื้นที่ ต.ขุนพิทักษ์ อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี ซึ่งก็เป็นคนที่มาเล่นกอล์ฟที่สนามนี้เป็นประจำเช่นกัน
โดยขับรถอีซูซุมิวเซเว่น สีบรอนด์ ทะเบียน ชม 6116 กทม. มาซุ่มดูความเคลื่อนไหวของน.ส.สร้อยสุดา และวันเกิดเหตุ นายณัฎฐวัชร ทำทีเป็นมาเช่ารถกอลฟ์ และเตรียมถุงกอล์ฟใส่รถเพื่อออกรอบตามปกติ แต่พอทราบว่า น.ส.สร้อยสุดา ตีกอล์ฟอยู่ที่หลุม 9 นายณัฎฐวัชร จึงขับรถไปที่หลุม 9 จอดรถเดินเข้าจ่อยิงน.ส.สร้อยสุดา 3 นัด
หลังจากนั้น นายณัฎฐวัชร ได้วิ่งกลับขึ้นรถกอล์ฟขับต่อไปที่หลุม 9 จอดรถชักปืนยิงใส่นายเกรียงศักดิ์ 4 นัด ก่อนที่จะขับรถกอล์ฟ มาจอดที่ข้างสนามกอล์ฟ และวิ่งขึ้นรถยนต์ ที่จอดอยู่ที่ลานจอดรถขับรถหลบหนีออกไปจากสนามกอล์ฟทันที
หลังเกิดเหตุตำรวจสภ.ท่าม่วง ได้ออกหมายจับนายณัฎฐวัชร ดอนมอญ อายุ 54 ปี ในข้อหา ฆ่าผู้อื่น พร้อมทั้งส่งชุดสืบสวนภูธรจังหวัดกาญจนบุรี เร่งติดตามตัวนายนายณัฎฐวัชร โดยตำรวจต้องใช้ความระมัดระวังในการติดตามตัวเนื่องจากผู้ก่อเหตุมีอาวุธปืน
ผ่านไปเกือบ 1 เดือน ยังติดตามจับกุมคนร้ายไม่ได้ แต่กลับมาพบรถกระบะ จมอยู่ในสระน้ำขนาดใหญ่ ในพื้นที่
อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ภายในรถพบใบขับขี่นายณัฎฐวัชร ซึ่งผู้ต้องหา ยิงโปรกอล์ฟเสียชีวิต แต่กลับไม่พบคนขับ
จนถึงเวลานี้ยังไร้วี่แววมือยิง "โปรกอล์ฟ" ตำรวจต้องใช้ความพยายามค้นหาในสระน้ำ เพื่อพิสูจน์ทราบว่าเจอศพ เจออาวุธปืน หรือไม่ หากไม่เจอแสดงว่าคนร้ายต้องการอำพรางรถ เพื่อหลบหนีการจับกุม