ข่าว

เปิดครบ 161 ตู้ 'เนื้อหมูเถื่อน' ท่าเรือแหลมฉบัง เตรียมทำลายใช้งบ 12 ล้าน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'ดีเอสไอ' เผย เปิดครบ 161 ตู้ 'เนื้อหมูเถื่อน' ท่าเรือแหลมฉบัง พบหมูเน่า 4 ตู้ เตรียมถก 'ปศุสัตว์' อนุมัติทำลาย คาดใช้งบ 12 ล้าน จ่อ 17 บริษัทสายเรือนำเข้าสินค้า รวมทั้ง 11 บริษัทชิปปิ้งเอกชน

 

12 ก.ค.2566 ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ น.ส.พิทยาภรณ์ รองโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วยนางพิชญา ธารากรสันติ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมแถลงความคืบหน้าคดีลักลอบนำเข้าเนื้อหมูเถื่อน เข้ามาในประเทศไทย

 

น.ส.พิทยาภรณ์ ระบุว่า สำหรับคดีเนื้อหมูเถื่อน กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ รับเป็นคดีพิเศษเมื่อวันที่ 29 มิ.ย.66  โดยมีการบูรณาการกับหน่วยงานภาคี อาทิ กรมปศุสัตว์ กรมศุลกากร คาดว่าวันนี้จะมีการเปิดตู้ตรวจแล้วเสร็จทั้ง 161 ตู้ ที่ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี  โดยพบ 4 ตู้คอนเทนเนอร์ที่เครื่องทำความเย็นเสีย เป็นเหตุให้เนื้อหมูเน่าเสีย

 

รองโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ ระบุอีกว่า ดีเอสไอ ได้รับการยืนยันจากกรมปศุสัตว์แล้วว่าเนื้อหมูเหล่านี้ที่นำเข้ามานั้น เป็นการนำเข้าโดยไม่ผ่านพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ และเป็นเนื้อหมูเถื่อนที่นำเข้าโดยมิชอบด้วยกฎหมาย นอกจากนี้ ดีเอสไอ อยู่ระหว่างการประสานกับกรมปศุสัตว์ เพื่อเตรียมวางแผนอนุมัติทำลายภายในสัปดาห์หน้า 

 

 

 

ส่วนความเสียหายที่เกิดกับรัฐนั้น ยังคงมูลค่า 460 ล้านบาท เป็นเนื้อหมู 4.5 ล้านกิโลกรัม และคณะพนักงานสอบสวนยังคงเร่งรัดดำเนินการสอบสวนเพื่อตัดวงจร เพราะส่งผลกระทบต่อผู้เลี้ยงสุกร เกิดคู่แข่งที่ไม่เป็นธรรม

 

 

 

น.ส.พิทยาภรณ์ กล่าวว่า สำหรับผลการสอบสวนขณะนี้ ปรากฏพบบริษัทชิปปิ้งเอกชนที่มีความเกี่ยวข้อง 11 แห่ง และบริษัทสายเรือที่รับจ้างนำเข้า จำนวน 17 แห่ง ซึ่งดีเอสไอ มีรายชื่อผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้วแต่ต้องขอละเว้นการเปิดเผยเนื่องจากเป็นรายละเอียดภายในสำนวนคดี แต่ยืนยันว่าจะมีการเปิดเผยในช่วงท้ายให้กับเกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อยในฐานะผู้เสียหายได้รับรู้อย่างแน่นอน ตอนนี้อยู่ระหว่างเร่งรัดดำเนินการให้รวดเร็ว รอบคอบ รัดกุมมากที่สุด

 

ดีเอสไอ ตรวจยึดหมูเถื่อน ท่าเรือแหลมฉบัง

 

นอกจากนี้ยังได้รับสำนวนการสอบสวนที่เหลือ จากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แหลมฉบัง เรียบร้อยแล้ว จากนี้จะเป็นขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อออกหมายเรียกบุคคลเข้าให้การในฐานะพยาน หรือ ผู้ต้องหาต่อไป รวมถึงจะตรวจสอบประวัติการทำธุรกิจย้อนหลังของบริษัทชิปปิ้งเอกชนทั้ง 11 แห่งด้วยว่าเคยมีพฤติการณ์ในลักษณะเดียวกันมาก่อนหรือไม่ หรือเคยนำเข้าเนื้อสัตว์ประเภทอื่นๆ

 

 

 

ทั้งนี้ ยืนยันว่าเนื้อหมูแช่แข็งเหล่านี้ ไม่มีสูญหายระหว่างการตรวจสอบแน่นอน เพราะมีการบันทึกตลอด ส่วนสาเหตุที่พบว่าเนื้อหมูพร่องในวันเปิดตู้นั้น คาดว่าแต่ละตู้ตามข้อมูลจะต้องมีการเว้นเนื้อที่เพื่อระบบไหลเวียนถ่ายเทของอากาศภายในตู้ 

 

 

 

รองโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ ระบุด้วยว่า กรมปศุสัตว์จะวางแผนประชุมเรื่องการฝังกลบทำลายเนื้อหมู โดยกรมปศุสัตว์คาดว่าจะมีการใช้เงินประมาณ 12 ล้านบาท ต่อ 161 ตู้ รวมทั้งดีเอสไอ ยังได้ขอความร่วมมือไปยังบริษัทสายเรือต่างๆ เพื่อช่วยสนับสนุนค่าใช้จ่าย ค่าฝังกลบทำลายอีกด้วย เเละเบื้องต้นมีการประสานมาแล้วประมาณ 3-4 แห่ง 

 

ดีเอสไอ ตรวจยึดหมูเถื่อน ท่าเรือแหลมฉบัง

 

 

 

เมื่อถามว่ากรมปศุสัตว์ได้มีการนำเนื้อสุกรแช่แข็งภายในตู้คอนเทนเนอร์ชักตรวจบ้างหรือไม่ รองโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ ยอมรับว่า มีการชักตรวจก่อนจริง เนื่องจากเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ห่วงเรื่องโรคระบาด ที่อาจจะมากับเนื้อหมู จึงต้องมีการดำเนินการนำออกไปตรวจตามมาตรฐาน ซึ่งขณะนี้ก็อยู่ระหว่างรอผลการตรวจสอบว่าเนื้อหมูเหล่านี้มีการเจือปนของสารเคมีหรือสารตกค้างใดหรือไม่

 

 

 

ส่วนประเทศต้นทางที่ปรากฏในผลิตภัณฑ์ของเนื้อสุกรแช่แข็งเหล่านี้ อาทิ ประเทศเยอรมันนี บราซิล อาร์เจนตินา เราจะมีการประสานเพื่อสอบถามข้อมูลไปยังผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายสำหรับขั้นตอนถัดไป

 

 

ส่วนประเด็นเรื่องความกังวลว่าอาจจะมีการหลุดรอดของเนื้อหมูเถื่อนไปยังเขียงหมูต่างๆหรือร้านปิ้งย่างในพื้นที่ประเทศไทยนั้น เบื้องต้นตามที่มีการตรวจสอบยังไม่สามารถยืนยันข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ได้ แต่ขอฝากประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชนให้ระมัดระวังในการซื้อสินค้าบริโภคโดยให้ซื้อเนื้อหมูที่สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาได้และเนื้อหมูเหล่านั้นมีมาตรฐานหรือไม่

 

 

 

ส่วนหลังจากนี้จะมีเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่นั้น รองโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ ระบุว่า ยังคงอยู่ในระหว่างการแสวงหาพยานหลักฐานและต้องรอคำให้การการสอบปากคำของพยานที่เกี่ยวข้องอื่นๆก่อน หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องจริง ดีเอสไอจะดำเนินการทางคดีเช่นเดียวกัน

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ