ลูกชาย-สะใภ้ ปล่อยโฮยืนยันศพ 'ป้าอ้อย' หลังโดนเพื่อนสนิทลวงฆ่าล้างหนี้

6 ก.ค. 2566  ความคืบหน้าในการติดตามหาตัว นางดารัณ แพลอย หรือ ป้าอ้อย อายุ 58 ปี เจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี ที่หายตัวไปตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันศุกร์ที่ 30 มิ.ย. 2566 ซึ่งหลังจากตำรวจลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด และตรวจสอบการใช้โทรศัพท์ของนางดารัณ   พบว่าก่อนที่หายตัวไป ได้โทรศัพท์พูดคุยกับ น.ส.เอ (นามสมมุติ)  ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทที่ทำงานอยู่ในมหาวิทยาลัยเดียวกันเป็นสายสุดท้าย ก่อนจะขาดการติดต่อไป

 

เจ้าหน้าที่จึงนำติดตามตรวจสอบกระทั่งพบว่า รถจักรยานยนต์ของ นางดารัณ  ที่หายไป ถูกจอดทิ้งไว้ที่บ้านของ น.ส.เอ (นามสมมุติ) ในพื้นที่ ต.วังศาลา อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ทางตำรวจจึงได้นำตัว น.ส.เอ (นามสมมุติ) มาสอบปากคำ เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (5 ก.ค. 2566) 

 

 

 

 

 

กระทั่งล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา น.ส.เอ (นามสมมุติ) ได้เปิดปากรับสารภาพกับพนักงานสอบสวน ว่าตนเองและนายกอล์ฟ เพื่อนชาย เป็นคนลงมือฆ่า นางดารัณ  ก่อนจะนำศพไปทิ้งในบริเวณใกล้กับท่าจอดแพขนานยนต์ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี

 

ซึ่งหลังจาก น.ส.เอ (นามสมมุติ) ให้การรับสารภาพทางตำรวจได้ประสานขอความร่วมมือไปยังเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ให้ส่งกำลังไปดูตามจุดที่ น.ส.เอ (นามสมมุติ)  อ้างว่านำศพของ นางดารัณ หรือ ป้าอ้อยไปทิ้ง กระทั่งพบศพของผู้หญิงคนหนึ่งตกลงไปอยู่บริเวณหน้าผาริมถนน  ลึกลงไปเกือบ 10 เมตร ริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์  จึงทำการประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ ใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปนำศพดังกล่าวขึ้นมาตรวจสอบ โดยสภาพศพพบว่าขึ้นอืด ส่งกลิ่นเน่าเหม็นอย่างรุนแรง คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 6-7 วัน

 

 

 

จากนั้นตำรวจได้ประสานให้ลูกชายและลูกสะใภ้ของนางดารัณ เดินทางขึ้นมาดูศพด้วยตนเอง ซึ่งลูกชายและลูกสะใภ้ยืนยันว่าเป็นศพของนางดารัณ หรือ ป้าอ้อย จริง เนื่องจากจำเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายและรองเท้าที่พบอยู่กับศพได้  

 

ขณะเดียวกันตำรวจได้นำตัว น.ส.เอ (นามสมมุติ)  มาชี้จุดที่ทิ้งศพ  พร้อมสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โดย น.ส.เอ (นามสมมุติ)  อ้างว่าคนที่ลงมือรัดคอ นางดารัณ จนเสียชีวิตและนำศพมาทิ้งที่จุดดังกล่าวคือนายกอล์ฟ ซึ่งจนถึงตอนนี้ยังคงปิดปากเงียบ  ไม่ยอมให้ปากคำใดๆ กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่นำตัวมาสอบเครียดอยู่ที่ห้องงานสืบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี

 

 

 

 

ส่วนสาเหตุของการลงมือสังหารตำรวจยังมุ่งประเด็นไปที่เรื่องการฆ่าล้างหนี้ เนื่องจาก น.ส.เอ (นามสมมุติ)  เป็นคนขอให้นางดารัณ ใช้ชื่อไปยื่นเช่าซื้อรถยนต์จำนวน 3 คัน มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท ก่อนที่ น.ส.เอ (นามสมมุติ) จะนำรถไปขาย ซึ่งเมื่อบริษัทไฟแนนซ์รถติดตามทวงถามกับนางดารัณ  จนไม่สามารถหาเงินมาผ่อนค่างวดรถได้ จึงมาติดตามทวงถามกับ น.ส.เอ (นามสมมุติ)  ที่ร่วมกับนายกอล์ฟ ออกอุบายลวงให้นางดารัณ มาขึ้นรถที่สถานีบริการน้ำมันใน ต.ลาดหญ้า  โดยอ้างว่าจะพาไปหานายทุนเพื่อนำเงินมาปิดค่าเช่าซื้อรถยนต์ทั้ง 3 คัน  ก่อนจะลงมือรัดคอ นางดารัณ จนเสียชีวิต และนำศพมาทิ้งใน อ.ศรีสวัสดิ์ ก่อนจะกลับเข้าไปในตัวเมืองกาญจนบุรี นำเอาบัตรประชาชนและทรัพย์สินของนางดารัณ ไปเผาทำลายทิ้ง แล้วนำรถจักรยานยนต์ไปเก็บไว้ที่บ้านของ น.ส.เอ (นามสมมุติ)  กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนจับกุมตัวได้ดังกล่าว
   

 

 

 

 

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี ดำเนินคดีกับ น.ส.เอ (นามสมมุติ)  และนายกอล์ฟ ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น ซึ่งหลังจากนี้เมื่อทำการสอบปากคำเพิ่มเติมแล้วพบว่ามีการกระทำความผิดเข้าข่ายข้อหาอะไรอีก  ก็จะได้ดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อไป

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 กอบชัย ยิ้มเชิง  จ.กาญจนบุรี