ข่าว

รวบหนุ่มใหญ่ 'ตุ๋นลงทุนธุรกิจ' ลวงเหยื่อโอน เงินดิจิทัล 20 ล้านบาท

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ตร.ไซเบอร์ รวบหนุ่มใหญ่ "ตุ๋นลงทุนธุรกิจ"ลวงผู้เสียหาย โอนสินทรัพย์ดิจิทัล ผ่านแพลตฟอร์มบิทคับ ร่วม 20 ล้าน อ้างทำธุรกิจต่างประเทศ ติดต่ออดีตผู้นำฟิลิปปินส์ได้ เจ้าตัวยังปากแข็ง อ้างผู้เสียหายร่วมลงทุนธุรกิจสมัครใจเอง

พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(ผบช.สอท.) สั่งการให้ขยายผลการจับกุม ผู้ต้องหาหลอกลงทุนธุรกิจเสียหายร่วม 20 ล้านบาท จากการสืบสวนพบว่ามีผู้เสียหายถูกผู้ต้องหาหลอกจนเชื่อใจยอมย้ายไปอยู่ด้วยกันกับหนึ่งในกลุ่มของผู้ต้องหา ระหว่างที่อยู่ด้วยกัน ด้วยความเชื่อใจผู้เสียหายได้ให้ข้อมูลรหัสผ่านในกระเป๋าเงินดิจิทัลของตนเองให้ผู้ต้องหา จนกระทั่งทางครอบครัวของผู้เสียหายติดตามจนเจอตัว จึงได้นำตัวผู้เสียหายกลับไปอยู่บ้านและไม่ได้ติดต่อกับทางกลุ่มผู้ต้องหาอีก

 

 

ตร.ไซเบอร์ รวบหนุ่มใหญ่หลอกลงทุนสูญกว่า 20 ล้าน

 

 

ต่อมาผู้เสียหายพบว่าอีเมล์ส่วนตัวมีการแจ้งเตือนการโอนสินทรัพย์ดิจิทัลออกจากแพลตฟอร์มไบแนนซ์ของผู้เสียหาย โอนไปที่แพลตฟอร์มบิทคับ มูลค่าประมาณร่วม 20 ล้านบาท จึงได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน กก.2 บก.สอท.1

 

ตำรวจสืบสวนยังพบว่า มีการโอนสินทรัพย์ดิจิทัลของผู้เสียหายออกไปจำนวน 20 ครั้ง โดยเส้นทางการเงินทั้งหมดไปจบที่บัญชีของนายพลาวัฒน์  (สงวนนามสกุล)  ซึ่งเชื่อว่าเป็นหัวหน้าขบวนการในการหลอกลวงครั้งนี้ และยังพบอีกว่ามีพฤติการณ์หลอกผู้เสียหายว่า ทำธุรกิจกับต่างประเทศ โดยอ้างว่าสามารถติดต่ออดีตผู้นำฟิลิปปินส์ได้ และสร้างความเชื่อถือให้ผู้เสียหายหลงเชื่อและร่วมลงทุนในธุรกิจ

 

 

 

ตร.ไซเบอร์ รวบหนุ่มใหญ่หลอกลงทุนสูญกว่า 20 ล้าน

 

ตำรวจจึงได้นำกำลังเข้าจับกุม นายพลาวัฒน์ อายุ 64 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ในความผิดฐาน "ร่วมกันเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตนและทำให้เสียหาย ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบโดยเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์สินของผู้อื่น และร่วมกันลักทรัพย์ และฟอกเงิน" อันเป็นความผิดพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 มาตรา 7 , 9 ,12/1และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334 และพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 3 , 5"

 

โดยจับกุมได้ที่ภายใน ซอยพหลโยธิน แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ​

 

จากการสอบสวน​เบื้องต้นนายพลาวัฒน์ ผู้ต้องหา ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา พร้อมระบุว่า เงินที่เข้าบัญชีส่วนตัวมานั้น เป็นเงินที่ผู้เสียหายร่วมลงทุนธุรกิจต่างประเทศด้วยความสมัครใจ  ไม่ได้มีการแฮกข้อมูลหรือมีเจตนาหลอกลวงแต่อย่างใด

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ