ข่าว

ปิดคดีสะเทือนขวัญที่นราธิวาส ตำรวจมั่นใจหลักฐานมัดแน่น

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล พร้อม เจ้าหน้าที่แถลงปิดคดีสะเทือนขวัญที่นราธิวาส หลักฐานมัดแน่น จับไม่ผิดตัว ด้าน ปวีณา หงสกุล พ่อแม่เด็ก ขอบคุณการดำเนินการของเจ้าหน้าที่

ความคืบหน้ากรณีคดีการเสียชีวิตของ ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) ที่หายตัวออกจากบ้านและพบเป็นศพไม่ห่างจากบ้านพัก ในพื้นที่ อ.ตันหยง จ.นราธิวาส โดยที่เกิดเหตุ พบว่า กางเกงและแพมเพิร์สของด.ญ.เอ ถูกถอดออก จากนั้นมีการสอบสวนพยานแวดล้อมต่างๆ ก่อนที่ตำรวจจะออกหมายจับ นายมะยากรียา ลอตันหยง อายุ 46 ปี ในข้อหาความผิดฐาน พรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปีไปจากบิดามารดา ผู้ปกครองหรือผู้ดูแลไปเพื่อการอนาจาร ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ หรือชิ้นส่วนศพเพื่อปิดบังการเกิด การตาย หรือเหตุแห่งการตาย 

 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.

ล่าสุด ที่สมาคมพนักงานสอบสวน สโมสรตำรวจ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ( รอง ผบ.ตร.) แถลงข่าวปิดคดี ทั้งนี้คดีดังกล่าวถือว่าเป็นคดีสะเทือนขวัญ และได้รับความสนใจจากทั้งสังคมและสื่อมวลชน ทั้งนี้จากการตรวจสอบทางนิติเวชของรพ.สิริรัตนรักษ์ โดยรายงานผลการชันสูตรพลิกศพ ด.ญ.เอ พบบาดแผลฉีดขาดบริเวณช่องคลอด สาเหตุการตายเกิดจากระบบหายใจไหลเวียนโลหิตล้มเหลว คาดว่ากิดจากการจมน้ำ 

ข้อมูลจากการสืบสวนพบว่า จากกล้องวงจรปิดบริเวณรอบๆที่เกิดเหตุพบว่าช่วงเวลาเกิดเหตุที่ผู้ตายถูกลักพาตัวไปนั้นปรากฏภาพชายไม่ทราบชื่อสวมเสื้อสีขาว อุ้มเอาตัวผู้ตายไปเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน จึงได้เข้าไปทำการสอบถามบุคคลซึ่งอาศัยอยู่ภายในบริเวณบ้านที่เกิดเหตุซึ่งมีจำนวนบ้าน 24 หลัง จำนวน 96 คน ทำให้สามารถคัดแยกผู้ต้องสงสัยได้จำนวน 6 คนจึงได้ทำการเชิญตัวผู้ต้องสงสัยมาทำการซักถามและทำการตรวจยึดเครื่องแต่งกายที่สวมใส่ทั้งหมดซึ่งผู้ต้องสงสัย 5 คนนั้น สามารถยืนยันสถานที่อยู่ขณะเกิดเหตุให้กับทางเจ้าหน้าที่ได้ แต่มีเพียงนายมะยากรียา เพียงคนเดียวที่ไม่สามารถยืนยันสถานที่อยู่ขณะเกิดเหตุได้นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ได้เก็บตัวอย่างสารพันธุกรรมชายวัยกลางคนทุกคน ที่ช่วงเวลาเกิดเหตุอาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าวจำนวน 24 คน

ปวีณา หงสกุล พาผู้ปกครองเข้าขอบคุณ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และเจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวน

เพื่อใช้ในการตรวจเปรียบเทียบสารพันธุกรรมที่พบจากศพผู้เสียชีวิตจากการรวบรวมพยานหลักฐานและการสอบปากคำพยานแวดล้อมจำนวน 38 ปาก ประกอบกับผลการตรวจสอบสารพันธุกรรมจากเส้นผมเส้นขนและคราบอสุจิที่พบจากตัวเด็กหญิงเอผู้เสียชีวิตเปรียบเทียบกับนายมะยากรียา ผู้ต้องสงสัยพบว่าตรงกันทั้งหมดและตรวจคราบโคลนดินซึ่งพบว่ามีติดอยู่ที่ขากางเกงของนายมะยากรียา จากการตรวจสอบพบว่าเป็นดินจากบริเวณที่เกิดเหตุจริงจึงทำให้พนักงานสอบสวนเชื่อว่านายมะยาการียาเป็นผู้ก่อเหตุ

ทั้งนี้ จากการที่ตำรวจได้ทำการซักถามนายมะยากรียา ให้การว่าในวันที่เกิดเหตุได้อยู่ใกล้บริเวณที่เกิดเหตุดังกล่าว ซึ่งเป็นบริเวณบ้านของแม่ตนโดยในวันเกิดเหตุได้ใส่เสื้อสีขาวกางเกงยีนส์ประกอบกับนายมะยากริยาให้การวกวนโดยเฉพาะในช่วงเวลาเกิดเหตุและจากการซักถามเชิงลึกพบว่านายมะยากรียา ได้หย่าร้างกับครอบครัวไปนานแล้ว พร้อมกับเป็นบุคคลว่างงานมีความหมกมุ่นเรื่องเพศ

ปิดคดีสะเทือนขวัญที่นราธิวาส ตำรวจมั่นใจหลักฐานมัดแน่น

รวมทั้งมีความเกี่ยวข้องกับยาเสพติดซึ่งทุกครั้งที่ได้เสพยาเสพติดนั้น นายมะยากรียา จะมีความต้องการทางเพศสูง ซึ่งนายมะยากรียา ยาพยายามอ้างพยานต่างๆเพื่อมายืนยันว่าตนเองนั้นไม่ได้อยู่ในจุดที่เด็กหายไปเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการพิสูจน์พยานแต่ละคนตามที่ได้ให้การ แต่ก็พบว่าการให้การนั้นไม่ตรงกันจากการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งพยานบุคคล นิติวิทยาศาสตร์ พฤติการณ์และพฤติกรรมทั้งหมดในคดีนี้

จึงเชื่อว่า นายมะยากรียา เป็นผู้ก่อเหตุ พนักงานสอบสวน สภ.ตันหยง จึงได้ขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาต่อศาลจังหวัดนราธิวาสโดยสามารถติดตามและจับกุมตัวนายมะยากรียา ลอตันหยง อายุ 46 ปีตามหมายจับของศาลจังหวัดนราธิวาสที่ 495/2566 ในความผิดฐานภาคเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปีไปจากบิดามารดาผู้ปกครองหรือผู้ดูแลเพื่อการอนาจาร ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ หรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการเกิด การตาย หรือเหตุแห่งการตาย และนำส่งพนักงานสอบสวนสภตันหยงดำเนินคดี

 

ด้านนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้พาพ่อและแม่ขอด.ญ.ผู้เสียชีวิตในคดี มาพบกับทาง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เพื่อขอบคุณในการดำเนินการของเจ้าหน้าที่จนนำมาสู่การจับกุมผู้กระทำความผิดได้ในที่สุด

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ