รวบ 'โชเฟอร์แท็กซี่' รูดทรัพย์ หนุ่มนักธุรกิจญี่ปุ่น ค่ากว่าล้าน ขณะเมาหลับ

13 มิ.ย. 2566 ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.บางขุนเทียน นำกำลังเข้าจับกุมนายศิริชัย แสงอมร อายุ 45 ปี คนขับรถแท็กซี่ ได้ภายให้ห้องพัก ในคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ภายใน ซ.เอกชัย 40 ถ.เอกชัย  เขตบางบอน  กทม. ในข้อหา ลักทรัพย์ รับของโจร พร้อมของกลาง นาฬิกาโรเล็กซ์ มูลค่า 1 ล้านบาท,โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ ไอโฟน 14 โปรแม็ก 1 เครื่อง มูลค่า 4 หมื่นบาท , คอมพิวเตอร์แม็คบุ๊ค 1 เครื่อง มูลค่า 6 หมื่นบาท และ บัตรเครดิด 1 ใบ ซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า 1.2 ล้านบาท  และรถแท็กซี่ สีชมพูขาว ทะเบียน ทฬ 3433 กรุงเทพ ที่ใช้ก่อเหตุ จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำ พร้อมประสานให้ผู้เสียหายเข้ามาดูของกลางที่สถานีตำรวจ 

 

 

 

 

 

 

พ.ต.อ.พายับ สมบูรณ์ ผกก.สน.บางขุนเทียน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 2566 ที่ผ่านมา น.ส. จำเนียน เทพทิพย์ เพื่อนสาวของ Mr.Nammo hiroshi อายุ 40 ปี นักธุรกิจสัญชาติญี่ปุ่น เข้าพบกับ พ.ต.ท. ขจร ธูปประกายศรี สารวัตรสืบสวน สน.บางขุนเทียน เพื่อขอความช่วยเหลือ เนื่องจากได้รับข้อความ sms จากธนาคารว่ามีการใช้บัตรเครดิตของ Mr.Nammo  2 ครั้ง ในพื้นที่บางขุนเทียน ในช่วงเช้าของวันที่ 12 มิ.ย. จึงได้ประสานมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อติดตามจับกุม 

 

 

 

 

สืบเนื่องจาก เมื่อเวลา 02.30 น. ของวันที่ 8 มิ.ย. 2566  ที่ผ่านมา MR. Nammo ได้ไปเที่ยวสถานบันเทิงย่านอโศก และเรียกรถแท็กซี่สีชมพู ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน เพื่อกลับห้องพักย่านสุขุมวิท แต่ เนื่องจาก Mr.Nammo  ซึ่งอยู่ในอาการเมาไม่สามารถจำทางกลับที่พักได้  จึงได้ลงรถ และมาเรียกรถแท็กซี่อีกคันหนึ่ง และเผลอหลับในรถ รู้สึกตัวอีกครั้งถึงห้องพัก พบว่าทรัพย์สินส่วนตัวได้สูญหายไป  เข้าแจ้งความร้องทุกกับพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ

 

 

 

 

 

 

ต่อมา Mr.Nammo  ผู้เสียหาย เดินทางมารับของกลางที่ สน.บางขุนเทียน เปิดเผยว่าเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยตั้งแต่ช่วงต้นเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา และมีกำหนดกลับประเทศญี่ปุ่น วันที่ 19 มิ.ย.นี้ ซึ่งตั้งแต่เกิดเหตุเมื่อวันที่ 8 มิ.ย. ทำให้เกิดความเครียด นอนไม่หลับมาหลายวัน และเมื่อทราบว่า ทางฝ่ายสืบสวน สน.บางขุนเทียน จับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว และสามารถนำของกลางกลับได้ด้วย รู้สึกยินดีและดีใจมาก ที่ได้ทรัพย์สินคืน รวมถึงอยากขอบคุณตำรวจ สน.บางขุนเทียน เป็นอย่างสูง ซึ่งหลังจากนี้ ยืนยันว่าจะกลับมาเที่ยวประเทศไทยอีกแน่นอน

 

 

 

 

ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัติ ผู้ต้องหา พบว่าเมื่อปี พ.ศ. 2555 เคยถูกจับดำเนินคดีเสพยาเสพติดประเภท1 ในพื้นที่ สน.บุคคโล และคดีครอบครองยาเสพติด เมื่อปี 2558 ที่สน.บางขุนเทียน

 

 

 

 

จากการสอบปากคำผู้ต้องหารับสารภาพว่าได้นำนาฬิกาไปจำนำในราคา 25,000 บาท เบื้องต้นจึงถูกแจ้งข้อหาลักทรัพย์และรับของโจร ก่อนจะประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทองหล่อ มารับตัว เพื่อนำตัวไปดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป