จับตา 40 รายชื่อ ตร.ทางหลวงเอี่ยว 'ส่วยสติ๊กเกอร์' ระดับรอง ผกก.ลงไป

9 มิ.ย. 2566  พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจทางหลวง  (รรท.ผบก.ทล.) เปิดเผยความคืบหน้าการสืบสวนขยายผบเพื่อดำเนินคดีเอาผิดตำรวจทางหลวงกรณี ส่วยสติ๊กเกอร์ ซึ่งพบว่ามีตำรวจต้องสงสัยว่ามีความเกี่ยวข้องกับส่วยสติ๊กเกอร์รถบรรทุก จำนวนประมาณ 42 นาย ซึ่งได้ลงนามในคำสั่งโยกย้ายไปแล้ว ขณะนี้คณะทำงานของ บก. ปปป.อยู่ระหว่างรวบรวม รายชื่อทั้งหมดตามที่ได้ประชุมไปแล้วเมื่อวานนี้ (8 มิ.ย. 2566) เพื่อส่งให้กองบังคับการตำรวจทางหลวง เพื่อดำเนินการในขั้นตอนต่อไป
 

อย่างไรก็ตาม คาดว่าวันนี้จะดำเนินการเรียบร้อย โดยสรุปแล้วมีประมาณ 40 นาย เป็นตำรวจยศตั้งแต่รองผู้กำกับลงมา โดยจะให้ไปปฏิบัติหน้าที่ช่วยราชการ ที่ ศปก.บก.ทล.ก่อน ส่วนที่เป็นนายตำรวจยศสูงกว่านั้น เป็นของหน่วยงานอื่นที่ไม่ใช่ตำรวจทางหลวง ซึ่งจะให้ทาง บก.ปปป. ทำการสืบสวนขยายผลต่อไป  

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยังยืนยันอีกว่า คณะทำงานขยายผลสืบสวนมาโดยตลอด ไม่ได้นิ่งดูดายกับการแก้ไขปัญหา การสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจะดำเนินการไปเรื่อยๆ คนไหนมีพยานหลักฐานก็ดำเนินการไป คนไหนถูกพาดพิงแต่ผู้ประกอบการยังไม่กล้าให้การเป็นลายลักษณ์อักษร  แต่ทางตำรวจก็จะพยายามรวบรวมพยานหลักฐานทุกอย่างให้รัดกุมมากยิ่งขึ้น และจะมีคำสั่งในการดำเนินการออกมาเรื่อยๆ รวมถึงจะมีการเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือถูกพาดพิงเข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกแน่นอน เชื่อว่ายังไม่จบแค่ตำรวจ 40 นายนี้

ส่วนกรณีที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำหลักฐานมายื่นให้เพิ่มเติมเพื่อดำเนินคดีกับขบวนการรถบรรทุกน้ำมันเถื่อนและส่วยสติ๊กเกอร์ ได้มีการมอบหมายให้คณะทำงาน บก.ปปป. ดูแลแทน ตนมีหน้าที่ดูแลคดีของตำรวจทางหลวง ดำเนินการแยกกันคนละส่วน แต่ยังมีการประสานข้อมูลกันตลอด ซึ่งทาง ปปป. ก็จะเป็นหน่วยงานหลักในการสืบสวนขยายผล ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางมีคำสั่งให้ใช้กำลังตำรวจอย่างเต็มในการคลี่คลายสถานการณ์ และสร้างกองบังคับการตำรวจทางหลวงขึ้นมาใหม่ ให้เป็นที่ยอมรับของพี่น้องประชาชน

ส่วนกรณีรถบรรทุกน้ำมันเถื่อนที่นายอัจฉริยะ ให้ข้อมูลว่าหายไปนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า ตอนนี้ยังสับสน และยังไม่มีความชัดเจนว่ารถของกลางอยู่ที่หน่วยงานใด แต่ละฝ่ายที่เกี่ยวข้องยังพูดไม่ตรงกันและยังไม่มีความชัดเจน  จึงไม่อยากด่วนสรุปตอนนี้ แต่ได้ให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสืบสวนร่วมกับกรมสรรพสามิต และประสานข้อมูลกันให้มีความชัดเจนก่อน และขอให้ทุกฝ่ายอย่ากังวล ทุกอย่างต้องดำเนินการตามกฎหมาย