อัจฉริยะ ร้องเรียนให้สอบ ขรก.สรรสามิต โทรเคลียร์จับน้ำมันเถื่อน

จากกรณีของตำรวจทางหลวง 3 สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่สรรพสามิตประจวบคีรีขันธ์ จับกุม นายสมบัติ อายุ 47 ปี ในความผิดฐานมีไว้ในครอบครองซึ่งสินค้าที่มิได้เสียภาษี ได้ที่ บริเวณริมถนนเพชรเกษม ทล.4 กม.308 ขาเข้า ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ และภายหลังการจับกุมได้มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกรมสรรพสามิตรายหนึ่งโทรศัพท์มาขอเจรจาไม่ให้ดำเนินคดี แต่ได้ถูกทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมปฏิเสธกลับไป พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจทางหลวง หลังทราบเรื่องดังกล่าวจึงสั่งการให้เร่งสืบสวนขยายผลเอาผิดกับกลุ่มเจ้าหน้าที่สรรพสามิตที่พยายามไกล่เกลี่ยเรื่องดังกล่าวนั้น 

วันนี้(8มิ.ย.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อร้องเรียนให้ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ บก.ปปป. ตรวจสอบ 
โดย นายอัจฉริยะ ได้เปิดเผยข้อมูลกับสื่อมวลชนว่า ตนได้รับหลักฐานที่เชื่อมโยงไปถึงผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นข้าราชการระดับสูง ที่มีชื่อเล่นว่า "ยุทธ" ซึ่งหลักฐานที่ว่าเป็นบันทึกเสียงการสนทนา กับคน ๆ หนึ่ง ที่เป็นคนสนิทของข้าราชการคนดังกล่าว 

ดยมีข้อมูลด้วยว่า เหตุที่ต้องขอให้ช่วยเคลียร์ เพราะนำมันเถื่อนดังกล่าว เป็นของ "เจ๊บีม" หญิงคนสนิทของ "ยุทธ" ซึ่ง "เจ้บีม" ทำธุรกิจค้าน้ำมันเถื่อนอยู่ที่จังหวัดปทุมธานี โดยจะส่งไปขายต่อตามปั้มน้ำมันขนาดเล็กในโซนภาคกลาง อาทิเช่น จังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดสระบุรี ฯลฯ เป็นต้น

ส่วนรถบรรทุกเป็นของคนชื่อ "เจ๊หมง" เชื่อมโยงไปถึง "ยุทธ" ซึ่งเป็นผู้อยู่เบื้องหลังขบวนการค้าน้ำมันเถื่อน โดย "เจ๊หมง" ทำธุรกิจค้าของเถื่อนในโซนภาคใต้มาอย่างยาวนาน ทั้งเหล้าเถื่อน บุหรี่เถื่อน โดยเฉพาะน้ำมันเถื่อน ซึ่งจะลักลอบขนมาขายไม่ต่ำกว่า 40,000 ลิตรต่อวัน คิดเป็นมูลค่า 80,000 บาทต่อวัน

 สำหรับรถบรรทุกคันที่เป็นของกลาง นายอัจฉริยะบอกว่า ตอนนี้ได้หายไปพร้อมน้ำมัน 40,000 ลิตร ซึ่งตนกำลังประสานให้อธิบดีกรมสรรพสามิตติดตาม เพื่อเอาของกลางกลับมาให้ได้