ข่าว

'ถอดยศ-เรียกคืนเครื่องราชฯ' ตำรวจ 10 นาย ประพฤติชั่วร้ายแรง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ โปรดเกล้าฯ 'ถอดยศ-เรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์' ตำรวจ 10 นาย ฐานประพฤติชั่วร้ายแรง

“ราชกิจจานุเบกษา” เผยแพร่ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นผู้สนองพระบรมราชโองการ ลงวันที่ 2 มิ.ย. 2566 เรื่อง พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ถอดยศตำรวจ และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ จำนวน 10 ราย ฐานประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง เสพและขายยาเสพติด ปล้นทรัพย์ ค้าอาวุธปืน ใช้แบงก์ปลอม ฉวยโอกาสเป็นเจ้าหน้าที่ทำผิดกฎหมายเสียเอง

 

 

 

 

โดยในเนื้อหา ราชกิจจาฯ ระบุว่า มีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้ถอดยศ ข้าราชการตำรวจ ออกจากยศตำรวจ จำนวน 10 ราย ตามมาตรา 58 แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 ประกอบระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการถอดยศตำรวจ พ.ศ.2565 ข้อ 4 (4) และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้เรียกคืนเครื่องราชฯ ที่ได้รับพระราชทานทุกชั้นตรา ตามข้อ 6 และข้อ 7 (4) ของระเบียบ สำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ พ.ศ. 2548 ดังนี้

 

ถอดยศ เรียกคืนเครื่องราชฯ ตำรวจ 10 นาย

 

 

1. พ.ต.ท.ปุณณวิชช์ กระแสร์ ตั้งแต่วันที่ 27 พ.ย. 2557 ซึ่งเป็นวันที่ถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ เนื่องจากกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานกระทำการอันได้ชื่อว่า ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง และถูกดำเนินคดีอาญาในข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์ โดยใช้กำลังประทุษร้าย ใช้อาวุธปืน ใช้รถยนต์เป็นพาหนะบุกรุกเคหะสถานในเวลากลางคืน หน่วงเหนี่ยวกักขัง ต่อเนื่องกัน และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นตริตาภรณ์มงกุฎไทย จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย และเหรียญจักรมาลา

 

 

2. พ.ต.ต.ศักรินทร์ หลำเอียด ตั้งแต่วันที่ 27 ก.ย. 2560 ซึ่งเป็นวันที่ ถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ เนื่องจากกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานกระทำผิดอาญาจนได้รับโทษจำคุก และกระทำการอันได้ชื่อว่าประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง โดยมีพฤติการณ์ร่วมกันจำหน่ายอาวุธปืนสำหรับการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นเจ้าพนักงานตำรวจ ที่มีหน้าที่รักษากฎหมาย แต่กลับใช้โอกาสนี้กระทำผิดกฎหมายเสียเอง และกระทำผิดอาญาหลายคดี และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นตริตาภรณ์มงกุฎไทย จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย เบญจมาภรณ์มงกุฎไทย เหรียญพิทักษ์เสรีชน ชั้น 2 ประเภทที่ 2 เหรียญราชการชายแดน และเหรียญทองช้างเผือก

 

 

3. พ.ต.ต.วัฒนา นวลศรีดำ ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 2561 ซึ่งเป็นวันที่ถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ เนื่องจากกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์ อันมิควรได้กระทำการอันได้ชื่อว่า เป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง กระทำการหรือละเว้นการกระทำการใดๆ อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ระบบราชการ อย่างร้ายแรง และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นตริตาภรณ์มงกุฎไทย จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก

 

4. ร.ต.อ.ปฏิภัสส์ ยกประสพรัตน์ ตั้งแต่วันที่ 26 มิ.ย. 2562 ซึ่งเป็นวันที่ถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ เนื่องจากกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานกระทำการอันได้ชื่อว่า เป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ สนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด จัดหาหรือให้เงินหรือทรัพย์สิน ยานพาหนะ สถานที่ หรือวัตถุใดๆ เพื่อประโยชน์ หรือให้ความสะดวกแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด รับเงินหรือทรัพย์สินจากผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และคบค้าเป็นอาจิณ กับผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยรู้ หรือควรจะได้รู้ว่า ผู้นั้นเกี่ยวข้องกับยาเสพติดเฉพาะในการกระทำที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นจัตุรถาภรณ์ช้างเผือก

 

 

5. ร.ต.อ. ภาณวุฒิ ถนอมสิงห์ ตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย. 2562 ซึ่งเป็นวันที่ ถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ เนื่องจากกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานกระทำผิดอาญาในความผิด ฐานร่วมกันลักทรัพย์จนได้รับโทษจำคุก หรือโทษที่หนักกว่าจำคุก โดยคำพิพากษาถึงที่สุด ให้ลงโทษจำคุกและเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นจัตุรถาภรณ์ช้างเผือก จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย เบญจมาภรณ์ช้างเผือก เบญจมาภรณ์มงกุฎไทย เหรียญทองช้างเผือก และเหรียญจักรมาลา

 

 

6. ร.ต.ท.สายลม รอดอุปโป ตั้งแต่วันที่ 28 ม.ค. 2562 ซึ่งเป็นวันที่ ถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ เนื่องจากกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานละทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อ ในคราวเดียวกันเป็นเวลาเกินกว่า 15 วัน โดยไม่มีเหตุอันสมควร และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นเบญจมาภรณ์มงกุฎไทย และเหรียญราชการชายแดน

 

 

7. ร.ต.ท. มีชัย ช่อสม ตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย. 2562 ซึ่งเป็นวันที่ถูกลงโทษ ไล่ออกจากราชการ เนื่องจากกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานกระทำการอันได้ชื่อว่าประพฤติชั่ว อย่างร้ายแรง และถูกดำเนินคดีอาญาในความผิดฐานชิงทรัพย์โดยมีและใช้อาวุธ โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันสมควร และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นจัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย เบญจมาภรณ์มงกุฎไทย และเหรียญราชการชายแดน

 

 

8. ร.ต.ต.วิเชียร มะลิคง ตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม 2557 ซึ่งเป็นวันที่ถูกลงโทษ ไล่ออกจากราชการ เนื่องจากกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานกระทำการอันได้ชื่อว่า เป็นผู้ประพฤติชั่ว อย่างร้ายแรง และถูกดำเนินคดีอาญา ในความผิดฐานร่วมกันมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งสิ่งที่ตนได้มา โดยรู้ว่า เป็นเงินตราปลอมหรือแปลง และเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย และมีสารเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีน) อยู่ในร่างกายขณะขับรถ และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นเบญจมาภรณ์มงกุฎไทย เหรียญพิทักษ์เสรีชน ชั้น 2 ประเภทที่ 2 เหรียญราชการชายแดน และเหรียญทองช้างเผือก

 

 

9. ร.ต.ต.บุญลือ สุคลธา ตั้งแต่วันที่ 22 ม.ค. 2560 ซึ่งเป็นวันที่ถูกลงโทษ ไล่ออกจากราชการ เนื่องจากกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานกระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่ว อย่างร้ายแรงและกระทำผิดอาญาฐานมีไม้หวงห้าม (ไม้สัก) อันยังมิได้แปรรูปไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต เสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย เป็นผู้ขับขี่รถ ในขณะมีสารเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีน) อยู่ในร่างกาย และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นเหรียญทองช้างเผือก

 

10. ร.ต.ต.สุรพล เจะจาโรจน์ ตั้งแต่วันที่ 12 ธ.ค. 2562 ซึ่งเป็นวันที่ ถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ เนื่องจากกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานกระท าการอันได้ชื่อว่า เป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง และถูกดำเนินคดีอาญาในความผิดฐานร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย และเรียกคืนเหรียญราชการชายแดน

 

 

ทั้งนี้ ข้าราชการตำรวจทั้ง 10 รายดังกล่าว เป็นผู้ถูกถอนชื่อออกจากรายชื่อผู้ได้รับพระราชทาน เครื่องราชอิสริยาภรณ์ ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องแล้ว

 

 

คลิกอ่าน ราชกิจจานุเบกษา 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ