แม่วอนช่วยลูกสาว 'ถูกหลอกไปทำงานร้านนวด' ที่ดูไบใช้หนี้ไม่มีจบสิ้น

4 มิ.ย. 2566  น.ส.ประภาวรรณ  (สงวนนามสกุล) อายุ 59 ปี ชาว ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี พร้อมด้วย มิสเตอร์โรเบิร์ต ชาวอเมริกัน  และน.ส.อภิญญา น้าสาว เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อให้เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ น.ส.ก้อย  (สงวนนามสกุล)  อายุ 38 ปี ลูกสาวของ น.ส.ประวรรณ ซึ่งเดินทางไปทำงานร้านนวด ที่ประเทศดูไบ ตั้งแต่ช่วงกลางเดือน เม.ย.2566 ที่ผ่านมา 

 

แต่เมื่อทำงานจนใช้หนี้เงินแสนใกล้หมด กลับถูกนายจ้างส่งตัวย้ายไปทำงานที่อีกร้านและต้องเริ่มต้นทำงานใช้หนี้เงินแสนอีกรอบ หากใครไม่ทำก็จะขังเอาไว้พร้อมยึดพาสสปอร์ตเอาไว้ หรือหากใครอยากกลับเมืองไทยต้องติดต่อญาติที่เมืองไทยโอนเงินแสนมาให้ถึงจะปล่อยตัวไป ซึ่ง น.ส.ก้อย ทนไม่ไหวจึงร้องความช่วยเหลือมายังมิสเตอร์โรเบิร์ตเพื่อนชายชาวต่างชาติที่สามารถติดต่อกันได้ เพื่อให้พาแม่มาแจ้งความกับตำรวจและขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่

 

 

 

 

 

ล่าสุด น.ส.ก้อย ได้ติดต่อมาทาง น.ส.อภิญญา  ซึ่งเป็นน้าสาว ทางแอปพลิเคชันไลน์ โดยน้าสาวได้สอบถามไปว่า จะกลับมาเมืองไทยไหม แม่อยากให้กลับมา น.ส.ก้อย ตอบกลับมาว่า

 

"กลับยังไม่ได้ คนที่อยู่ด้วยกันโดนหลอกมาตั้งเยอะ มีทั้งสาวพม่า ไทย สิงคโปร์ ถ้าใครจะกลับมันให้เอาเงินแสนมาไถ่ตัวและจะคืนพาสปอร์ตให้ ถ้าใครไม่มีเงินต้องทำงานใช้หนี้ แต่ละร้านจะทำงานแค่ 2-3 อาทิตย์พอหนี้จะหมดก็ย้ายไปร้านอื่น ทำแบบนี้เป็นหนี้ไม่มีวันจบสิ้น ย้ายไปที่อื่นก็เป็นหนี้ใหม่ ตอนนี้ไม่ต้องพาแม่ไปหา ตร.อีกแล้ว เพราะมีคนส่งข่าวให้เขาว่าแม่ไปแจ้งความ เขาย้ายออกมาจากที่เดิมไปอยู่ที่อื่นแล้ว แล้วไม่ต้องทักหรือโทรมาหา กลัวเขาฆ่าตาย มีอะไรจะทักไปหาเอง"

 

 

 

ขณะที่ น.ส.ประภาวรรณ เปิดเผยว่า ตอนนี้ก็ยังรู้สึกเป็นห่วงลูกสาว อยากให้หน่วยงานช่วยเหลือ เป็น ห่วงลูกสาวจะถูกฆ่าตาย เพราะลูกๆ เขาตั้ง 5 คน ซึ่งตอนลูกสาวไปตอนแรกมีหญิงคนไทยที่ทุกคนเรียกว่าป้า มาชักชวนพูดดีมาก บอกทุกคนว่า อยู่ไม่นานก็ได้เงินแสนส่งกลับบ้านแล้ว แต่พออยู่ไปสักระยะพอใช้หนี้จะหมดก็ย้ายไปอยู่ที่อื่น แล้วก็เริ่มใช้หนี้ใหม่ เงินก็ไม่ได้โดนหักหมด แต่หากใครจะกลับบ้านต้องหาเงินแสนมาไถ่ตัว ลูกสาวก็ไม่มีใช้หนี้แสนจะหมดแล้วก็ย้ายไปที่อื่น ก็เริ่มต้นใช้หนี้ใหม่

 

 

 

 

เมื่อเช้าลูกเช้าส่งข้อความกลับมาหาน้าสาวบอกไม่ต้องพาแม่มาหาตำรวจ แต่แม่ต้องมา เผื่อเจ้าหน้าที่ฯเขาจะช่วยได้บ้าง ขณะที่มิสเตอร์โรเบิร์ต เปิดเผยว่า   สาเหตุที่อยากช่วย น.ส.ก้อยเพราะมาทำงานเป็นอาจารย์ที่ จ.อุดรธานี และรู้จักกับครอบครัว น.ส.ก้อยมา 7-8 ปี แล้ว รู้สึกผูกพันกัน ถึงแม้ว่าจะหย่าร้างกับกับญาติของก้อยแล้วแต่ก็ติดต่อไปมาหาอยู่กันประจำ รู้จักคนในหมู่บ้านและผูกพันกัน จึงต้องการให้การช่วยเหลือนำตัว น.ส.ก้อย กลับบ้าน 

 

 

อุดม ปิดตาทานัง   จ.อุดรธานี