ศป.ทส. รับคดี 'วันเฉลิม' สูญหาย สืบสวนต่อแล้ว
ญาติ วันเฉลิม นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่สูญหายในประเทศกัมพูชา ติดตามคดีที่ศป.ทส. รับดำเนินการสืบสวนต่อ ผอ.มูลนิธิผสานวัฒนธรรม เชื่อเป็นผลดีต่อครอบครัว
ความคืบหน้าการติดตามการสูญหายของ นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่ได้ลี้ภัยไปยังประเทศกัมพูชา และหายตัวไปเมื่อ 3 ปีก่อน ล่าสุด ที่สำนักงานอัยการสูงสุด อาคารถนนบรมราชชนนี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ น.ส.สิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พี่สาวของนายวันเฉลิม พร้อม น.ส.พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผู้อำนวยการมูลนิธิผสานวัฒนธรรม และก่อการ บุปผาวัฏฏ์ ครอบครัวของนายชัชชาญ บุปผาวัลย์ พร้อมกับทนายความจากมูลนิธิผสานวัฒนธรรมและศูนย์ทนายความสิทธิมนุษยชนเข้าพบเจ้าหน้าที่ของศูนย์ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย (ศป.ทส.) เพื่อสอบถามเกี่ยวกับรายละเอียดขั้นตอนตาม พ.ร.บ. ดังกล่าว ว่าจะมีส่วนใช้ในการสืบค้นความจริงและช่วยเหลือหรือสนับสนุนผู้เสียหายจากการอุ้มหายให้เข้าถึงความยุติธรรมได้อย่างไร
น.ส.สิตานัน กล่าวว่า ที่ผ่านมา ได้ดำเนินการยื่นเรื่องการขอให้หน่วยงานภาครัฐ ที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงาน แต่ยังไม่มีความคืบหน้าของคดี รวมทั้งยังเดินทางเข้าไปในประเทศกัมพูชา เพื่อรวบรวมข้อมูลต่างๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของน้องชาย แต่เวลา 3 ปี ยังไม่สามารถที่จะได้รับความกระจ่าง การเดินทางมาครั้งนี้ เพื่อขอความช่วยเหลือจากทาง ศป.ทส. ในการติดตามคดี
หลังจากนั้น น.ส.สิตานัน และผู้เกี่ยวข้องได้ขึ้นไปพบกับทางเจ้าหน้าที่ของศป.ทส.เพื่อรัยบทราบข้อมูลซึ่งกันและกัน เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ได้กล่าวว่า คดีที่เกิดขึ้นนั้นเป็นคดีนอกราชอาณาจักร แต่ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 ได้มีการระบุชัดเจนว่า รวมทั้งคดี่ที่เกิดขึ้นนอกราชอาณาจักร และจากที่ญาติผู้สูญหายได้ร้องเรียนไปยังหลายหน่วยงานนั้น ทาง ศป.ทส. จะรวบรวมสำนวนการยื่นคำร้องทั้งหมด มาเป็นสำนวนเดียว และต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ แต่เป็นการเริ่มต้นที่จะไม่ล่าช้า เนื่องจากมีข้อมูล พยานหลักฐานต่างๆที่ครบถ้วน สามารถเดินหน้าทำงานได้
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่เชิญน.ส.นันทิตา และผู้เกี่ยวข้อง พูดคุยเพิ่มเติมลำดับรายละเอียดข้อมูลของการหายตัวไปของนายวันเฉลิม โดยพูดคุยตั้งแต่การรับรู้รับทราบการพักอาศัยในกัมพูชาของวันเฉลิม พฤติการร์ในวันที่ถูกระบุว่า นายวันเฉลิม ถูกทำให้หายตัว ทั้งนี้ที่ผ่านมา การสืบสวนในพื้นที่ของประเทศกัมพูชาเป็นไปได้ยาก อย่างไรก็ดี ทาง ศป.ทส. หลังจากรวบรวมข้อมูลทั้งหมดแล้ว จะทำการประสานงานเพื่อทำงานในกัมพูชาด้วย
น.ส.พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผู้อำนวยการมูลนิธิผสานวัฒนธรรม กล่าวถึงการติดตามคดีว่า การติดตามในครั้งนี้ เป็นการตอดตามการแจ้งความเดิมที่เคยร้องเรียนไว้กับทางอัยการ และเพื่อให้มีการรวบรวมสำนวนทั้งหมด เพื่อยืนยันว่า วันเฉลิมเป็นคนไทย ที่ไปพักอาศัยในกัมพูชา และถูกทำให้เชื่อว่ามีการอุ้มหาย ตามพยานหลักฐานที่มี ซึ่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 หิอำนาจในการติดตามคนไทยที่สูญหายในต่างประเทศได้ด้วย ต่อคำถามที่ว่าการรวบรวมสำนวนมาไว้ที่จุดเดียว จะเพิ่มความรวดเร็วหรือล่าช้าในการติดตาม น.ส.พรเพ็ญ ด้วยศักยภาพของหน่วยงานราชการ เชื่อว่าจะมีความรวดเร็วขึ้น และอำนาจสืบสวนสอบสวนมีหลายรูปแบบ บวกกับพยานหลักฐานต่างๆที่ญาติรวบรวมไว้ทั้งหมด เช่น ข้อมูลดิจิตอล ข้อมูลโทรศัพท์ เป็นต้น ได้ส่งมอบให้กับทางอัยการต่างประเทศไปก่อนหน้านี้แล้ว เชื่อว่าการรวบรวมสำนวนจะเป็นประโยชน์ต่อญาติและครอบครัวผู้สูญหาย และเป็นการติดตามผู้กระทำความผิดมาลงโทษทางกฎหมาย