รรท.ผบก.ทล. เร่งแก้ปม 'ส่วยรถบรรทุก' รับซุกใต้พรมมานาน

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) ในฐานะรักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจทางหลวง เรียกรองผู้บังคับการตำรวจทางหลวง (รอง ผบก.ทล.) และ ผู้กำกับการทางหลวง 1-8 (ผกก.ทล.)  ประชุมกำหนดแนวทางการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องส่วยรถบรรทุก และกำหนดนโยบายการทำงาน จากกรณีนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ออกมาเปิดโปงส่วยสติกเกอร์รถบรรทุก

 

 

 

 

 

 

 

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยได้รับนโยบายจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ให้มาดำเนินการจัดระเบียบกองบังคับการตำรวจทางหลวงให้โปร่งใส  จึงได้เรียกตำรวจทางหลวงระดับผู้บังคับบัญชา มาทำความเข้าใจแนวทางการแก้ไข โดยเฉพาะในเรื่องเร่งด่วน ดังนั้น หน่วยงานนี้ต้องเกิดการเปลี่ยนแปลง เป็นที่ยอมรับของประชาชน

 

โดยเรื่องส่วยทางหลวง ตนไม่อยากตอบว่าไม่มี เพราะต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องที่อยู่ในพรมมานาน และต้องขอบคุณ นายวิโรจน์ รวมถึงสมาพันธ์การขนส่งทางบกที่เปิดเผยข้อมูลเรื่องนี้ ยืนยันว่าไม่หนักใจ โดยจะทำให้ทุกอย่างถูกต้องตามแนวทาง

 

 

 

 

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวอีกว่า เบื้องต้นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  สั่งการให้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และจเรตำรวจแห่งชาติ มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ ซึ่งในส่วนของตน จะตั้งคณะทำงานของตำรวจทางหลวงด้วยอีกส่วนหนึ่ง โดยตอนนี้ได้สั่งการให้ตำรวจทางหลวงทั่วประเทศไปตรวจสอบว่ามีสติกเกอร์ หรือเครื่องหมายอะไรที่ส่อไปในทางทุจริตหรือไม่ ให้รวบรวมมาทั้งหมด เพื่อสืบสวนข้อเท็จจริง 
 

 

 

 

 

หากพบเจ้าหน้าที่ตำรวจไปเกี่ยวข้อง จะดำเนินการทั้งหมด ยืนยันจะไม่ให้ความช่วยเหลือกับใคร ใครทำอะไรต้องได้รับสิ่งนั้น ไม่มีข้อยกเว้น ซึ่งหากพบการกระทำผิด จะประสาน บก.ปปป. ให้ดำเนินการทันที อาจต้องเสียบุคลากรส่วนหนึ่ง แต่เพื่อทำให้องค์กรถูกต้อง ก็ต้องยอมรับความจริง

 

ทั้งนี้ตนจะแก้ไขทั้งระบบ ไม่ใช่แค่เฉพาะจุดเท่านั้น และยืนยันว่าจะไม่ทำให้เสียชื่อ บก.ปปป. โดยในช่วงเวลาสั้นๆ ประชาชนจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลง ทั้งการยกเลิกคำสั่งต่างๆ ที่ส่อไปในทางทุจริต และการบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด

 

 

 

 

การดำเนินการดังกล่าว ย่อมต้องกระทบผู้ประกอบการ แต่ก็ต้องให้ทุกคนปรับตัวตามให้ทัน ยอมรับเป็นห่วงว่าต้นทุน หรือราคาสินค้าจะต้องเพิ่มขึ้น แต่อยากให้ประชาชนเข้าใจว่า ที่ผ่านมาตำรวจอาจมีการอะลุ้มอล่วย เพื่อให้ทุกฟันเฟืองเดินไปได้ แต่เมื่อมันไม่ถูกต้อง ก็ต้องแก้ไข และทุกคนต้องยอมรับ ตำรวจต้องทำตามอำนาจหน้าที่ ไม่อยากให้ใครเดือดร้อน