
ภัยแล้งพ่นพิษ 'ถนนทางหลวงชนบท' ช่วง 'บ้านรุน-บ้านพลับ' ทรุดยาวรถผ่านไม่ได้
ภัยแล้งพ่นพิษ "ถนนทางหลวงชนบท" ช่วง "บ้านรุน-บ้านพลับ" บางปะอิน ทรุดตัวยาวกว่า 30 เมตร ลึก 5 เมตร รถสัญจรผ่านไม่ได้ ชาวบ้านเดือดร้อน
30 พ.ค. 2566 ถนนทางหลวงชนบท หมายเลข อย.3020 บ้านรุน-บ้านพลับ ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 6 ใกล้เคียง อบต.บ้านแป้ง ม.1 ต.บ้านแป้ง อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เกิดทรุดตัว และได้รับความเสียหาย ซึ่งมีระยะทางยาวกว่า 30 เมตร ทำให้การสัญจรไปมาของชาวบ้านในพื้นที่ได้รับอันตราย เจ้าหน้าที่ของ อบต.บ้านแป้ง พร้อมด้วยกำนันและผู้ใหญ่ ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและปิดการจราจร ห้ามรถยนต์ทุกชนิดผ่านเข้า-ออก บริเวณดังกล่าว พร้อมปิดป้ายแจ้งเตือน และให้คำแนะนำกับผู้ใช้รถใช้ถนน เพื่อให้ใช้เส้นทางเลี่ยง
จากการตรวจสอบ พบว่า ถนนลาดยางแอสฟัลท์ หรือ ยางมะตอย ขนาดความกว้าง 8 เมตร เมตร พื้นผิวของถนนทรุดตัวเป็นระยะทางยาวประมาณ 30 เมตร โดยระยะทางความเสียหายไปจนถึงสะพานข้ามคลองชลประทาน จุดที่ถนนทรุดตัวมีความลึกประมาณ 3-5 เมตร จนมองเห็นชั้นดินด้านใน นอกจากนี้ภายในคลองเลียบกับถนนที่ทรุดตัว พบว่าน้ำในคลองแห้งเหือดจนสามารถมองเห็นชั้นดิน และมีดินโคลนดันนูนสูงขึ้นมา
นายสมหวัง จันทรมิตตรี นายก อบต.บ้านแป้ง อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ถนนเริ่มเกิดรอยร้าว ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ค. 2566 ที่ผ่านมา จากนัั้นถนนก็เริ่มทรุดตัว และเกิดการแยกตัวหนักมากขึ้น จนถึงวันนี้ ถนนได้เริ่มทรุดตัวเพิ่มมากขึ้น อีกประมาณ 2 เมตร จึงได้ทำการปิดถนนผ่านเส้นทางภายในหมู่บ้าน
ส่วนสาเหตุของถนนทรุดตัวเกิดจากหลายสาเหตุซึ่งถนนเส้นดังกล่าว มีรถบรรทุกวิ่งผ่าน และในช่วงภัยแล้ง คลองเลียบกับถนนบริเวณที่เกิดเหตุน้ำแห้ง ส่งผลให้ไม่มีแรงดันด้านข้างของถนน อีกทั้งยังมีเรื่องของการก่อสร้างถนน ที่ผ่านมาประมาณ 2 ปี มีการก่อสร้างสะพานข้ามคลองชลประทาน โดยกรมชลประทาน และทำพื้นผิวถนนจากสะพานฝั่งละ100 เมตร วัดจากกลางสะพาน โดยช่วงเมื่อต้นปี 2566 อดีต ส.ส.รายหนึ่ง ได้ผลักดันงบประมาณ มาทำการปรับปรุงพื้นผิวถนน ที่ถูกน้ำท่วม น้ำกัดเซาะถนน จนได้รับความเสียหาย โดยมีการตอกเสาเข็ม พร้อมทั้งเสริมความแข็งแรงของถนน ทั้งเส้นระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร แต่จะเว้นช่วงก่อนถึงสะพานประมาณ100 เมตร เพราะเป็นของกรมชลประทาน สัญญาว่างจ้างทับซ้อนกันอยู่ จึงไม่ได้มีการปรับปรุง และไม่ต่อเนื่อง
นายก อบต. ยังกล่าวอีกว่า จากที่ติดตามดูการก่อสร้างถนน พบว่าการบดอัดคุณภาพไม่เหมือนกัน จุดที่ทรุดตัวพื้นผิวถนนจะบางมากต่างกับถนนก่อนถึงจุดที่ถนนทรุดตัวที่มีการบดอัดสองชั้นใช้ผงปูนเสริมความแข็งแรง และมีความหนากว่า
ถนนเส้นนี้จะมีสะพานข้ามคลองชลประทานของกรมชลประทานอยู่ 2 จุด ตัวสะพานวัดจากสะพานมาที่ถนนระยะทางประมาณ 100 เมตร จะเป็นความรับผิชอบของกรมชลประทาน โดยขณะนี้ได้ประสานนายช่างของกรมชลประทาน และนายช่างของกรมทางหลวงชนบท จะเข้ามาดำเนินการปรับพื้นผิวถนนให้ใช้งานได้ชั่วคราว แต่ต้องการให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเร่งทำการซ่อมแซมถนนและเสริมความแข็งแรง
สุทธิพร กองสุทธิผล จ.พระนครศรีอยุธยา
จากนั้นวันที่ 2 มิ.ย. 2566 นายสุรินทร์ ขักขะโร ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงชนบทพระนครศรีอยุธยา ส่งอีเมลล์ชี้แจงข้อเท็จจริงมายังกองบก.คมชัดลึกระบุว่า ตามที่สื่อมวลชนได้เสนอข่าว ความว่า "ถนนทางหลวงชนบทหมายเลข อย.3020 บ้านรุน - บ้านพลับ ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 6 ทรุดตัวเสียหายรถยนต์ไม่สามารถสัญจรได้ เร่งทำการปิดถนนห้ามรถยนต์ทุกชนิดผ่าน พร้อมกับปิดป้ายแจ้งเตือน..." นั้น
แขวงทางหลวงชนบทพระนครศรีอยุธยา ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงขอเรียนชี้แจงว่า ถนนสายที่ปรากฏในข่าวคือ ทางหลวงชนบทสาย อย.3020 แยกทางหลวงหมายเลข 347 (กม.ที่ 21+700) - บ้านรุน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เกิดการทรุดตัวบริเวณ กม.ที่ 6+000 เป็นทางยาวประมาณ 100 เมตร
สาเหตุความเสียหายเนื่องจากถนนสายดังกล่าวเป็นคันกั้นน้ำ ในช่วงที่ผ่านมาระดับน้ำในคลองลดลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ดินเกิดการสไลด์ ผิวจราจรทรุดตัว โดยบริเวณดังกล่าวเป็นถนนเชิงลาดสะพานในความรับผิดชอบของกรมชลประทานอยู่ในระหว่างค้ำประกันสัญญา ซึ่งเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2566 แขวงทางหลวงชนบทพระนครศรีอยุธยา ได้ลงพื้นที่ร่วมกับกรมชลประทาน นำเครื่องจักรเข้าดำเนินการรื้อผิวทางที่ชำรุดเสียหายบดอัดชั้นทางที่ทรุดตัว และติดตั้งป้ายเตือน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนสามารถสัญจรผ่านได้ชั่วคราวก่อน พร้อมทั้งมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจ เฝ้าระวังถนนในโครงข่ายทางหลวงชนบทอย่างใกล้ชิด