ข่าว

'บิ๊กโจ๊ก' หวด ตร.ท่องเที่ยว หลังเหยื่อกว่า 30 คน ร้องโดน บ.ทัวร์ตุ๋นดูบอล

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"บิ๊กโจ๊ก" จวกตำรวจท่องเที่ยว ทำอะไรอยู่ หลังเหยื่อบริษัททัวร์กว่า 30 ราย บุกร้องสูญเงินหลักแสน ตั๋วทิพย์เที่ยวดูฟุตบอลบิ๊กแมตช์ จี้รับผิดชอบ ไม่ควรโยนเรื่องให้ ท้องที่รับผิดชอบ

15 พ.ค. 2566 นายพัลลภ ชูเนียม ตัวแทนผู้เสียหายจากการซื้อทัวร์เพื่อชมฟุตบอลต่างประเทศ พร้อมด้วยผู้เสียหายอีกกว่าสิบราย เดินทางเข้าร้องทุกข์กับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)  เนื่องจากถูกบริษัททัวร์โกง โดยมีการเก็บเงินไปทั้งหมด แต่ไม่พาไปเที่ยวตามโปรแกรมที่ซื้อไว้  ซึ่งตนพบการโปรโมตโปรแกรมทัวร์นี้ในยูทูป ซึ่งมีการใช้ดารานักแสดงมาแอบอ้างว่า จะพาไป สร้างความน่าเชื่อถือ อย่างในกรณีของตน ก็ถูกโกงไปมูลค่า 450,000 บาท 

 

ซึ่งผู้เสียหายแต่ละรายจะถูกโกงจำนวนเงินไม่เท่ากัน ลูกทัวร์รายอื่นๆ ที่ถูกโกงขณะนี้มีประมาณ 20-30 ราย และถูกโกงในชื่อทริป “แฮปปี้ทริป-Happy Trips” ส่วนบุคคลที่โกง คือ นายสุขสันต์ (สงวนนามสกุล) อย่างไรก็ตาม เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ตน และผู้เสียหายอื่นๆได้เคยไปร้องทุกข์ที่กองบังคับการปราบปรามไปแล้ว

 

 

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล  รอง ผบ.ตร.

 

 

นายพัลลภ กล่าวว่าตนรู้จักกับนายสุขสันต์ จากโฆษณาผ่านทางยูทูปเกี่ยวกับฟุตบอล โดยเฉพาะสโมสรลิเวอร์พูล ซึ่งมีโปรแกรมการแข่งขัน ระหว่างทีมลิเวอร์พูล กับทีมอาเซนอล โดยยังอ้างโปรโมชั่น คือ หากไป 4 คน คิดราคาเพียง 3 คน แต่จะต้องชำระเงินไว้ก่อน 

 

จากนั้นเมื่อตนโอนไปในเดือนพฤศจิกายน 2565 เพื่อเตรียมเดินทางระหว่างวันที่ 6 เม.ย.2566 - 13 เม.ย.2566 นายสุขสันต์ ก็ไม่ได้มีการส่งวีซ่าให้ รวมถึงไม่คืนเงินให้ ปล่อยระยะเวลาให้รอเรื่อยๆ แม้จะมีการตอบไลน์ อ้างว่าจะคืนวันที่เท่าไร หรือยืนยันว่า คืนให้แน่นอน ขอให้ลูกค้าใจเย็น แต่ระหว่างนี้กลับไม่มีอะไรคืนกลับมา มีลักษณะการดึงเวลา ตนจึงมั่นใจว่าถูกโกงแน่นอนแล้ว 

 

กระทั่งปัจจุบันยังสามารถติดต่อกับบริษัททัวร์ทางผ่านทางไลน์ได้ แต่บริษัทก็มีความบ่ายเบี่ยง และก็ยังมีพฤติกรรมเปลี่ยนชื่อบริษัทบ่อยๆ เพื่อไปหลอกผู้เสียหายรายอื่นๆ

 

นายพัลลภ กล่าวต่อว่า เคยไปร้องทุกข์ที่ กรมการท่องเที่ยวแล้ว แต่ทางกรมฯ จะรับเรื่องร้องเรียนเฉพาะลูกค้าตรง แต่ถ้ามีเอเย่นต์ ต้องเอเย่นต์มาเป็นผู้ร้องทุกข์เอง และถึงแม้จะมีการร้องทุกข์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา รวมถึงล่าสุดมีการถอนใบอนุญาตของบริษัท แต่มันช้ามาก เพราะมีผู้เสียหายเกิดขึ้นเยอะในระหว่างนี้

 

ขณะที่ นายสัมพันธ์ โตสว่าง ตัวแทนจำหน่าย ระบุว่า ตนอยากพูดในมุมของตัวแทนจำหน่าย ซึ่งกลายเป็นเกราะกำบัง แม้ว่าทางกรมฯ จะให้ตัวเเทนไปรับ และเรื่องจบ แต่จริงๆ ไม่ยุติธรรม มองว่าควรเอาต้นตอมารับผิดชอบด้วย เพราะคนเหล่านี้จะกล้าโกงอีกเพราะมีตัวแทนมารับผิดชอบแล้วตัวเองลอยนวล และถึงแม้จะถูกถอนใบอนุญาต ก็เปลี่ยนชื่อบริษัททำต่อไปได้อีก เวลามีเรื่องร้องเรียนใดๆ ตนจึงอยากให้จัดการถึงต้นตอมากกว่า
 

 

ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวในฐานะอดีตรองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ว่าสถานการณ์ท่องเที่ยวในไทย กลับมาเป็นปกติจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้การเดินทางท่องเที่ยวมีมากขึ้น มิจฉาชีพก็จะอาศัยการเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศ เพื่อทำทัวร์ศูนย์เหรียญ ทัวร์ต่ำกว่าทุน หรือฉ้อโกง โดยการหลอกซื้อทัวร์ราคาถูก แต่เมื่อถึงเวลาเดินทางแล้วกลับไม่มีการเดินทางจริง ที่สำคัญคือเงินก้อนของผู้เสียหาย ส่วนมากเป็นเงินเก็บก้อนสุดท้าย จากการทำงานหลังเกษียณ โดยเฉพาะผู้เสียหายที่มาร้องในวันนี้ มีความเสียหายรวมกันกว่า 30 ล้านบาท 

 

จึงต้องย้อนถามกลับไปยัง กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ว่ากำลังทำอะไรอยู่ ตนในฐานะอดีตผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว คิดว่า เมื่อมีกองบัญชาการแล้วการโกงในลักษณะแบบนี้จะต้องลดลง ไม่ใช่เมื่อมีกองบัญชาการแล้ว แต่ความเดือดร้อนของประชาชนกลับมากขึ้น ตำรวจท่องเที่ยวต้องดูแลความเดือนร้อนในส่วนนี้ให้มากขึ้น

 

ส่วนของผู้เสียหายวันนี้ 30 กว่ารายนี้ ตนจะรับไปดำเนินการ และก็ได้เชิญผู้กำกับการ สภ.ท้องที่มาแล้ว สำคัญคือ แม้ว่าจะจับคนร้ายได้แล้ว แต่ผู้เสียหายก็ยังคงได้รับความเดือดร้อน เพราะเงินที่จ่ายไปยังไม่มีความแน่ชัดว่า จะได้กลับคืนมา ซึ่งหลังการอนุมัติหมายจับคนร้าย จะต้องดำเนินการติดตามเอาเงินของผู้เสียหายคืนมาให้ได้ด้วย ซึ่งก็ต้องย้อนไปถามที่ตำรวจท่องเที่ยวให้ดูแลประชาชนให้มากขึ้นด้วย

 

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า การมีตำรวจท่องเที่ยวขึ้นมามีวัตถุประสงค์ เพื่อดูแลนักท่องเที่ยวที่ได้รับความเดือดร้อนทั้งชาวไทย และต่างประเทศเป็นหลัก การดูแลนักท่องเที่ยวที่ถูกฉ้อโกงจากมิจฉาชีพ หากโยนภาระทั้งหมดไปให้ สภ.ท้องที่ดูแล แล้วจะมีตำรวจท่องเที่ยวเอาไว้ทำอะไร ตำรวจท่องเที่ยว จึงต้องทำงานในการสืบสวน และจับกุม โดยให้ตำรวจโรงพักท้องที่นั้นรับคดีสอบสวน ทั้งสองฝ่ายต้องช่วยกันไม่ใช่ผลักภาระไปให้ตำรวจท้องที่ทั้งหมด

 

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องติงตำรวจท่องเที่ยว เพราะตำรวจท่องเที่ยวมีข้อมูลอยู่แล้วว่า บริษัททัวร์มีกี่บริษัท ซึ่งตำรวจท่องเที่ยวถือเป็นมือขวาของ รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในการจับกุมมิจฉาชีพที่หลอกลวงนักท่องเที่ยว สาเหตุที่ตั้งกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวมาก็เพื่อดูแลนักท่องเที่ยวที่มากขึ้น ดังนั้น กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวต้องทำหน้าที่ให้มากขึ้น

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ