ข่าว

'บิ๊กโจ๊ก' มั่นใจเอาผิด 'แอมไซยาไนด์' ได้ เชื่อต้องจำนนต่อหลักฐาน

'บิ๊กโจ๊ก' มั่นใจเอาผิด 'แอมไซยาไนด์' ได้ เชื่อต้องจำนนต่อหลักฐาน

05 พ.ค. 2566

'บิ๊กโจ๊ก' มั่นใจเอาผิด 'แอมไซยาไนด์' ได้ เตรียมเรียกกรมโรงงาน-32 รายชื่อ ผู้ซื้อสารไซยาไนด์ มาให้ข้อมูล 8 พ.ค.นี้ ลั่นแก้ระเบียบการชันสูตรพลิกศพ หากเสียชีวิตผิดธรรมชาติ ต้องไม่ปล่อยผ่าน

พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบการขยายผลคดี นางสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือ ‘แอมไซนาไนด์’ ที่สโมสรตำรวจ ว่า เมื่อวานที่เข้าไปสอบ 'แอม ' ในเรือนจำ เจ้าตัวก็ยังให้การปฏิเสธ ขอให้การในชั้นศาล ซึ่งก็เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา ที่สามารถทำได้ แต่พนักงานสอบสวน ก็มีอำนาจที่จะประสานเรือนจำ เพื่อขอเข้าไปสอบปากคำได้ตามกฎหมายเช่นเดียวกัน

 

ซึ่งตอนแรก แอม ขอคุยกับทนายความก่อน ถึงจะให้ปากคำ แต่ตนก็ได้กำชับพนักงานสอบสวนไว้แล้วว่า ตำรวจจะไม่รอ ก็ทำตามในส่วนของการรวบรวมพยานหลักฐานไป 

 

ส่วนที่มีการกล่าวอ้างถึงบุคคลที่ แอม ไว้ใจ โดยบุคคลนั้นก็คือ ทนายความของเจ้าตัว เพราะเป็นเพื่อนกันมานาน และเคยทำอะไรด้วยกันมาหลายอย่าง ทั้งเรื่องจำนอง จำนำ อะไรต่างๆมากมาย

 

เมื่อมาไล่ดูสำนวน ก็พบว่าพยานหลักฐานที่มี เพียงพอต่อการดำเนินคดีกับ แอม แล้ว ถึงแม้ว่าจะมีการโอนสำนวนไปที่กองบังคับการปราบปราม แต่ไม่ได้หมายความว่า กองปราบ ต้องทำฝ่ายเดียว เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันทำ 

 

ในส่วนคดีที่ตนเองรับผิดชอบ ถึงแม้ว่า สำนวนเป็นสำนวนเดียว แต่แยกกรรม แยกวาระ ทุกคนก็ต้องทำในส่วนของตัวเอง การรวมสำนวน จะทำให้อัยการ และศาล เห็นถึงความเชื่อมโยงของคดีได้ชัดเจนขึ้น

 

ส่วนเรื่องที่ ทนายความ ออกมาพูดก่อนหน้านี้นั้น ก็ต้องบอกว่า “ไม่มีทนายความคนไหนในโลก ที่จะบอกว่า ตัวเองสู้คดีไม่ได้ แต่อย่าลืมว่าเวลาติดคุก ทนายความไม่ได้ติดด้วยนะ”

 

ทั้งนี้ต้องบอกว่า เรื่องนี้เหมือนนิยาย คนเดียวสามารถฆ่าคนได้ถึง 14 คดีเลย ถือว่าโหดเหี้ยม แต่อย่างที่บอกว่า อาชญากรรมก็เหมือนเกม เมื่อจบเกมก็ย่อมทิ้งร่อยรอย เมื่อตนลงไปในพื้นที่ ก็ยิ่งพบข้อมูลมากขึ้น อย่างเรื่องที่ แอม บอกว่าไม่เคยไปเจอ สว.นิภา ที่องค์พระปฐมเจดีย์ แต่เมื่อสืบดีๆ กลับพบความเชื่อมโยงอีกมากมาย

 

ซึ่งคนที่แนะนำ แอม ให้การแบบนี้ต้องมีความรู้วิชาสอบสวน แต่ไม่รู้วิชาสืบสวน ยังไงก็ไม่รอดมือตำรวจไปได้ ตรงนี้ตนไม่ได้ชี้ว่าเป็นอดีตสามีของผู้ต้องหา แต่ตนแค่พูดให้ฟังว่า วิชาแบบนี้มันเป็นวิชาการสอบสวน การเลื่อมเวลาคำแนะนำต่างๆ คนที่รู้วิชานี้ และใกล้ตัวแอม คงหนีไม่พ้น ตำรวจ และทนายความ

 

ทั้งนี้การที่แอมรอดตัวมาได้ถึงทุกวันนี้ ไม่ได้เป็น เพราะกระบวนการสืบสวน สอบสวน แต่เป็นการที่ไม่ได้มีการชันสูตรพลิกศพแต่แรก

 

ซึ่งวันนี้ได้มีการสอบปากคำพยานเพิ่มอีก 2 ปาก ทั้งคู่ยังไม่ใช่ผู้เสียหาย แต่ให้การเป็นประโยชน์ ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด 

 

ส่วนเรื่องที่หลายคนเป็นห่วงเรื่องการเอาผิดอดีตสามีแอม หรือบุคคลใกล้ชิด ไม่ต้องเป็นห่วงหากพบความเชื่อมโยง ตำรวจไม่ปล่อยไว้แน่นอน ขณะที่เรื่องที่มีข่าวว่าก่อนหน้านี้ มีผู้ที่ฉีดสารแก้พิษไซยาไนด์ ตอนนี้ยังไล่ไปไม่ถึง

 

ส่วนเรื่องไซยาไนด์ ตอนนี้สังคมตั้งคำถามว่า เอามาจากไหน ตำรวจก็ต้องสืบสวนลึกลงไปถึงกรมโรงงาน เพราะไซยาไนด์ เป็นสารควบคุมที่นำเข้าโดย กระทรวงอุตสาหกรรม ไว้สำหรับใช้ในโรงงานอุตสหกรรม และงานวิจัย เมื่อก่อนไซยาไนด์ มีการขายก็จริง แต่ไม่ได้มีการขายที่แพร่หลายในโลกออนไลน์ขนาดนี้

 

ดังนั้นถึงแม้ว่าจะไม่มีกฎหมายเรื่องการซื้อขาย แต่การที่จะขายไซยาไนด์ ซึ่งเป็นสารควบคุมให้กับใคร ต้องดูวัตถุประสงค์ของผู้ซื้อด้วย ซึ่งในวันจันทร์นี้ได้เรียกกรมโรงงานเข้ามาให้ข้อมูล รวมไปถึง 32 รายชื่อที่มีประวัติการซื้อไซยาไนด์ มาให้ข้อมูลด้วย หากพบว่าคนไหน หรือเจ้าหน้าที่คนใด มีความบกพร่อง ก็ดำเนินคดีไปตามกฎหมาย

 

นอกจากเรื่องของการดำเนินคดี แอม แล้ว หลังจากนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องหารือร่วมกับกระทรวงยุติธรรม ในการแก้ระเบียบการชันสูตรพลิกศพ ต้องไม่เป็นเรื่องของดุลพินิจ หรือการที่ญาติไม่ติดใจ แต่หากพบว่า เป็นการตายผิดธรรมชาติ จะต้องมีการส่งตรวจพิสูจน์ไม่ปล่อยผ่าน

 

ในช่วงวันหยุดนี้ ตนจะระดมทีมเพื่อเก็บรายละเอียดปีกย่อยทั้งหมดในสำนวน เชื่อว่าพยานหลักฐานที่มีจะทำให้แอม จำนนต่อหลักฐาน และขอรับสารภาพ ส่วนสำนวนที่กำลังรวบรวม จะส่งอัยการทันตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดไว้