
ตร.ลุยค้นบริษัทนำเข้าสารเคมี โยง 'แอม ไซยาไนด์' หลังพบเลขผลิตตรงกัน
ตำรวจบุกค้นโกดังนำเข้า "ไซยาไนด์" ย่านลาดกระบัง โยงคดี "แอม" หลังพบเลขการผลิตตรงกับขวดหลักฐานในคดี เจ้าของแจงการสั่งซื้อปริมาณไม่เกิน 1,000 กก. ไม่ต้องมีใบอนุญาต เตรียมสอบรายชื่อบุคคลที่สั่งซื้อจากบริษัทนี้ทุกราย
2 พ.ค. 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วย กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) พร้อมตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน ตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวนนครบาล 3 นำหมายค้นศาลอาญามีนบุรี เข้าตรวจค้นห้างหุ้นส่วนจำกัดแห่งหนึ่ง ประกอบธุรกิจจำหน่ายวัสดุและอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ ตั้งอยู่บนถนนเจ้าคุณทหารลาดกระบัง แขวงลำปลาทิว เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ เพื่อหาความเชื่อมโยงกับคดีของ น.ส.สรารัตน์ หรือ แอม ผู้ต้องหา วางยาฆ่าผู้อื่นฯ ด้วยสาร ไซยาไนด์
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ข้อมูลมาจากการเก็บหลักฐานขวดไซยาไนด์ ที่พบในถุงดำที่ น.ส.สรารัตน์ หรือ แอม ว่าจ้างให้ หลานของนายแด้ นำถุงดังกล่าวไปทิ้ง โดยเมื่อตรวจสอบหมายเลขการผลิตข้างขวดไซยาไนด์ดังกล่าว พบว่าตรงกับหมายเลขการผลิตที่บริษัทนี้ได้ทำการจำหน่าย
สำหรับบริษัทนี้ ลักษณะเป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น 2 คูหา ด้านหน้าปิดประตูเหล็กเอาไว้ ส่วนด้านในมีกล่องเก็บผลิตภัณฑ์ต่างๆ จำนวนมาก ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่แสดงหมายค้น พนักงานที่ดูแลบริษัทก็ได้นำเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจค้นด้านใน แต่ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปบันทึก
นายวราวุฒิ (สงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี เจ้าของร้านฮาร์ดแวร์ ซึ่งอยู่ติดกับบริษัทที่ตำรวจเข้าตรวจค้น เปิดเผยว่า บริษัทดังกล่าวเปิดมาได้ประมาณ 3-4 ปีแล้ว เป็นโกดังเก็บสินค้าประเภทสารเคมี และอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ ตนรู้จักกับเจ้าของ แต่ไม่ได้มีการการพูดคุยกันในข้อมูลเชิงลึก
และก่อนหน้านี้ โกดังไม่ปิดประตูด้านหน้า แต่ที่ปิดเนื่องจากมีฝุ่นเยอะ เจ้าของกลัวสินค้าจะเสียหาย และพนักงาน 3-4 คน คอยดูแลแพ็คสินค้าอยู่ จะเปิดโกดังเฉพาะเวลาที่มีลูกค้ามารับของ และปิดทันที เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ตนเห็นว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง เข้ามาตรวจค้นโกดังไปแล้ว ประมาณ 2 ครั้ง
ด้าน พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย คณะทำงานชุดคลี่คลายคดี เปิดเผยว่าจากการตรวจค้นในเบื้องต้นไม่พบสารไซยาไนด์ และมีข้อมูลว่ามีการจำหน่ายจริง ซึ่งทางบริษัทให้การว่า บริษัทจะรับสารไซยาไนด์ต่อมาจากบริษัทที่นำเข้ามาอีกทีหนึ่ง แล้วนำมาจำหน่ายให้กับผู้ซื้อ ซึ่งไม่ได้มีการสต็อกสินค้า แต่จะต้องให้ผู้ซื้อสั่งสินค้าเข้ามาแล้ว จึงจะสั่งจากบริษัทนำเข้ามาแล้วส่งให้ผู้ซื้อทันที
สำหรับการซื้อขายสารไซยาไนด์ ในปริมาณไม่เกิน 1,000 กิโลกรัม หรือ 1 ตัน ไม่ต้องมีใบอนุญาต โดยยอมรับว่า จุดนี้เป็นช่องโหว่ให้บุคคลทั่วไปสามารถครอบครอง และซื้อขายสารดังกล่าวได้ โดยหลังจากนี้จะดำเนินการตรวจสอบรายชื่อบุคคลที่ซื้อสารไซยาไนด์จากบริษัทนี้ทุกราย เพื่อหาความเชื่อมโยงกับคดีของแอม เพราะยังไม่มีข้อมูลว่า แอม ซื้อสารไซยาไนด์จากบริษัทนี้โดยตรง หรือไม่ แต่เบื้องต้นพบว่าเลขการผลิตตรงกันกับขวดที่เป็นหลักฐานที่พบในคดี