พลิกแฟ้มคดี 'ณัฐพล' ฆาตกรหื่นลักตัว'เซลล์สาว' พบประวัติก่อเหตุซ้ำซาก

การหายตัวไปของสาวเซลล์สาวขายรถยนต์คนหนึ่ง ซึ่งเพื่อนของเธอประกาศตามหาตัวเธอโดยมีการโพสต์ในโลกออนไลน์ เมื่อวันที่ 29 เม.ย. 2566 โดยระบุว่า อ้อม หายไปหลังจากที่ได้คุยเสนอขายรถกับลูกค้าภายในร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ซึ่งกล้องวงจรปิดบันทึกของอ้อม กับผู้ชายที่ถูกระบุว่าเป็นคนมาคุยกับอ้อมเรื่องซื้อรถ จากนั้นทั้งคู่ได้พากันเดินออกจากร้านและขึ้นรถกระบะ ดัดแปลงเป็นตู้ทึบ และขับออกไปมุ่งหน้าเส้นทาง แม่โจ้-แม่แฝก และไม่มีใครคาดคิดว่านั่นจะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้เห็น อ้อม เซลล์ขายรถในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ 

 

อ้อมหายออกไปจากบริษัทหลายชั่วโมงจนเพื่อนร่วมงานรู้สึกผิดสังเกตจึงไปสอบถามที่ร้านกาแฟ ที่อ้อมแจ้งกับหัวหน้างานว่าเธอจะไปพบลูกค้า ซึ่งพนักงานร้านบอกว่า อ้อม ได้ออกจากร้านไปนานแล้ว จึงได้มีการติดตามตัวอ้อมจาก GPS ซึ่งปรากฎจุดสุดท้ายอยู่ใกล้ฟาร์มเห็ดแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.แม่แฝกใหม่ อ.สันทราย ทั้งหมดจึงเดินทางไปแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเดินทางไปยังจุดที่ปรากฎใน GPS พบว่าบริเวณดังกล่าวค่อนข้างเปลี่ยว และยังพบบุคคลต้องสงสัยแอบอยู่ จึงช่วยกันจับตัวแต่ก็หลุดรอดไปได้

 

การค้นหาติดตามคนหาตัว อ้อม เซลล์ขายรถยนต์ ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่องทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อนสนิทและญาติของอ้อม ระดมกำลังในการค้นหา กระทั่งเวลาประมาณ 12.00 น.ของวันที่ 30 เม.ย. 2566 เจ้าหน้าที่รับแจ้งว่าพบรถของผู้ต้องสงสัย เป็นรถกระบะ โตโยต้า สีขาว เป็นลักษณะตู้ทึบ จอดอยู่ในลานจอดรถของวัดหนองบัวพระเจ้าหลวง ต.เชิงดอย อ.ดอยสะเก็ด ตรวจสอบสภาพรถมีร่องรอยเฉี่ยวชน ไฟหน้าด้านขวาเสียหาย ภายในรถเจ้าหน้าที่พบเอกสารการเสนอรถ ซึ่งอ้อมถือออกมาเพื่อเสนอขายกับลูกค้า วางอยู่บริเวณเบาะที่นั่งด้านข้างคนขับ

 

 

 

 

ด้วยพลังของโลกออนไลน์ ทำให้มีผู้แจ้งเบาะแสว่าพบผู้ต้องสงสัยขี่รถจักรยานยนต์ ฟิโน่ สีแดง ดำ ทะเบียน 1 ข 3380 เชียงใหม่ มีคนขับสวมเสื้อสีดำ มีเสื้อคลุมสีส้มสวมทับ สวมหมวกกันน็อกสีฟ้า ต่อมาทราบคือนายณัฐพล (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี อยู่บริเวณตลาดวโรรส แต่นายณัฐพล ถีบรถจักรยานยนต์ของพลเมืองดี และหลบหนีไป

 

 

 

 

แต่ในที่สุด นายณัฐพล คนร้ายก็ไม่สามารถหนีพ้นเงื้อมือของเจ้าหน้าที่ไปได้ หลังตำรวจพบสัญญาณโทรศัพท์ของคนร้ายที่เข้าไปจอดภายในวัดแห่งหนึ่ง และพยายามจะเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อหลบหนี แต่ก็ถูกจับกุมได้ในที่สุดก่อนนำตัวมาสอบปากคำเพื่อเค้นหาตัว อ้อม เซลล์สาวที่ถูกลักพาตัวไป จนคนร้ายสารภาพว่าฉุดอ้อมไปล่วงละเมิด และฆาตกรรมเธอก่อนนำร่างไปไว้ที่ห้องพักรายวันแห่งหนึ่ง 

 

 

 

 

เบื้องต้นตำรวจแจ้ง 4 ข้อหาหนัก ทั้งข่มขืนกระทำชำเรา , กักขังหน่วงเหนี่ยว , ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และเซ่นเร้นอำพรางศพ 

 

พลิกแฟ้มประวัติก่อเหตุซ้ำซากเข้าข่ายบุคคลอันตราย

นายณัฐพล คนร้ายรายนี้ไม่ใช่ก่อเหตุครั้งนี้เป็นครั้งแรก  แต่ย้อนไปเมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2561 นายณัฐพลก่อเหตุล่อลวงหญิงสาวผ่านเฟซบุ๊กมาแล้ว โดยมีการนัดหมายเหยื่อเป็นหญิงสาววัย 33 ปี โดยนัดพบที่ร้านสะดวกซื้อ ในพื้นที่ ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นายณัฐพลขับรถมารับหญิงสาว แล้วทำทีเป็นขับรถหลงทาง ก่อนใช้อาวุธปืนจี้บังคับหญิงสาวและยึดโทรศัพท์มือถือไว้ จากนั้นได้พาตัวหญิงสาวไปที่โรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่ง  จับมัดมือ มัดเท้า แล้วบังคับขืนใจ จากนั้นได้ขังหญิงสาวผู้เสียหายไว้ในห้องก่อนหลบหนีไป
 

 

 

 

 

ต่อมาหญิงสาวผู้เสียหายดิ้นจนเชือกหลุด จึงขอความช่วยเหลือจากพนักงานโรงแรม พามาแจ้งความกับตำรวจ สภ.ช้างเผือก ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐาน นำไปสู่การขออนุมัติศาลจังหวัดเชียงใหม่ออกหมายจับนายณัฐพล ในความผิดฐานพาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจารโดยใช้กลอุบายหลอกลวง ขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้ายฯ หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดๆ ให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และข่มขืนกระทำชำเราหญิงอื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใด โดยใช้กำลังประทุษร้าย กระทั่งแกะรอยจับกุมตัวได้หลังหลบหนีมามาเป็นหุ้นส่วนทำธุรกิจเต็นท์รถมือสอง ใน อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน 

 

 

 

 

นอกจากนี้ ตำรวจยังตรวจสอบพบว่า นายณัฐพล ยังมีหมายจับของศาลอาญาธนบุรี ในคดีชิงทรัพย์อีกหนึ่งคดี โดยนายณัฐพลจึงถูกส่งเข้าเรือนจำรับโทษที่ก่อไว้ และเพิ่งพ้นโทษออกมาเมื่อช่วงปี 2565

 

และก่อนที่จะมาก่อนเหตุกับ อ้อม เซลล์สาวเหยื่อรายล่าสุด เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2566 ที่ผ่านมา นายณัฐพล ใช้มีดจี้หญิงสาวอายุ 18 ปี ซึ่งขายของอยู่บริเวณ บริเวณสี่แยกหลุยส์ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ แล้วนำตัวบังคับขืนใจ ซึ่งต่อมา ผู้ปกครองและ น.ส.ไก่ ผู้เสียหาย เข้าแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.ดอยสะเก็ด ซึ่งนายณัฐพล ถูกจับดำเนินคดีในข้อหา ข่มขืนกระทำกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยที่ผู้นั้นอยู่ในภาวะไม่สามารถขัดขืนได้ และอีกข้อหาคือ กักขังหน่วงเหนี่ยว ซึ่งคดีนี้ ตำรวจอยู่ระหว่างรอผลแพทย์เพื่อมาประกอบสำนวนดำเนินคดี

 

ญาติเซลล์สาวอยากให้ลงโทษสถานหนัก "ประหาร"

นางกัญญา (สงวนนามสกุล)  อายุ 57 ปี แม่ของ อ้อม ผู้เสียชีวิต ได้เดินทางนำหัวหมูเครื่องเซ่นไหว้มาแก้บนที่ศาลพระพรหมด้านหน้าสถานีตำรวจภูธรสันทราย โดยนางกัญญา เปิดเผยว่าได้บนกับศาลพระพรหมเอาไว้ขอให้เจอลูกสาวโดยเร็วและขอให้เจอคนร้าย ที่ผ่านมา ลูกสาวเป็นเสาหลักของครอบครัวหาเงินเลี้ยงดูครอบครัวและเลี้ยงดูพ่อแม่ อีกทั้งยังเป็นแม่ที่ดีเลี้ยงลูกสาวที่ตอนนี้กำลังจะขึ้นชั้น ม.5 อยากให้จะให้ดำเนินคดีอย่างเร็วที่สุดคดีแบบนี้ต้องประหารชีวิต

 

 

 

 

ขณะที่ น้าสาวของอ้อม เปิดเผยว่าทางครอบครัวก็จะได้มีพิธีสูดถอนดวงวิญญาณตามแบบล้านนา ส่วนศพของผู้เสียชีวิตได้ให้สามีไปติดต่อขอรับศพที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ น่าจะนำกลับมาบำเพ็ญกุศลที่ วัดป่าบงตำบลหนองหาร อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่

 

 

 

 

ขณะที่โชว์รูมขายรถยนต์ที่ทำงานของอ้อม เซลล์สาวผู้เสียชีวิต ปิดบริการเนื่องจากเป็นวันหยุดวันแรงงาน  เช่นเดียวกับร้านกาแฟ ที่น้องอ้อมและผู้ต้องหามาใช้บริการเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะเป็นศพ บรรยากาศก็เป็นไปด้วยความเงียบเหงา ยังมีพนักงานมาทำงานตามปกติ โดยทางพนักงานได้กล่าวว่า รู้สึกตกใจมาก กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยากจะให้ลงโทษประหารชีวิตฆาตกรรายนี้ให้ตายตกไปตามกัน

 

อย่างไรก็ตามศพของ อ้อม ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการผ่าชันสูตร ของแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ก่อนที่จะมอบศพให้ญาตินำกลับไปตั้งบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป