เปิดผลพิสูจน์ พบเขม่าปืนในมือ 'อิคคิว' คนเดียว-เจอหัวกระสุนที่หายไป

พล.ต.ต.อัฎธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 (ผบก.น.1) ประชุมติดตามความคืบหน้าคดีการเสียชีวิต ของ “จีจี้ สุพิชชา” หรือ น.ส.สุพิชชา ปรีดาเจริญ เน็ตไอดอล และอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง เจ้าของเพจ เรื่องของจี้ ที่ถูกนาย ภูมิพัฒน์ ชัยวณิชยา หรือ อิคคิว แฟนหนุ่ม ประธานรุ่นนักเรียนเตรียมทหาร ชั้นปี 2 ก่อเหตุใช้อาวุธปืนพกแม็กกาซีน ซิกซาวเออร์ ยิง ก่อนยิงตัวเองตายตาม บนห้องพักชั้น 14 ภายใน คอนโดมิเนียมหรู ย่านอโศก ยืนยัน ตรวจพบเขม่าปืนที่มือของฝ่ายชายเพียงคนเดียว

พล.ต.ต.อัฎธพร กล่าวว่า ขณะนี้มีการตั้งคณะทำงานชุดสืบสวนเพื่อคลี่คลายคดี ทั้งที่กองพิสูจน์หลักฐาน และ โรงพยาบาลรามาธิบดี ส่วนชุดสืบสวนไปเก็บรายละเอียดเพิ่มเติมที่สถานที่เกิดเหตุ และกลับมารายงาน เบื้องต้นตรวจพบคราบเขม่าดินปืนที่มือของ “อิคคิว” เพียงคนเดียว 

ส่วนพ่อผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นนายทหารยศ พล.อ. ที่มีชื่อเป็นเจ้าของอาวุธปืน ก็จำเป็นต้องเรียกตัวมาสอบสวนเพื่อหาข้อมูลสำคัญ ซึ่งมีการติดต่อไปแล้ว แต่เจ้าตัวแจ้งว่า จะขอจัดงานศพของลูกให้แล้วเสร็จก่อน ส่วนจะมีความผิดด้วยหรือไม่นั้น ต้องรอให้มีการสอบปากคำ และ พิจารณาตามคำให้การ

พล.ต.ต.อัฎธพร กล่าวอีกว่า เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนทางสังคม ต้องขอชี้แจง ตามกฎหมาย ป.วิอาญา มาตรา 150 เกี่ยวกับการชันสูตรพลิกศพ พนักงานสอบสวนได้ทำจนครบถ้วน โดยตั้งแต่รับแจ้งเหตุ ก็ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่สายตรวจปิดกั้น พื้นที่บริเวณชั้น 14 ของคอนโดมีเนียม ซึ่งเมื่อออกจากลิฟต์มา จะมีเจ้าหน้าที่คัดกรองทุกคนที่จะเข้าออก รวมถึงพบว่า มีเพียง อิคคิว และ จีจี้ สุพิชชา เท่านั้น ที่เดินทางเข้ามา จึงทำการปิดกั้นพื้นที่ใช้เวลา 20 นาที

ซึ่งตามขั้นตอน คนที่จะเข้าที่เกิดเหตุได้เป็นคนแรก คือ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จำนวน 5 คน ที่เข้าไปเก็บหลักฐาน ต่อมาจะเป็นแพทย์โรงพยาบาลรามาธิบดี 3 คน โดยเข้าไปพร้อมกับพนักงานสอบสวน และตนเอง ซึ่งเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน จากนั้น จึงทำการชันสูตรพลิกศพ ก็จะให้เจ้าหน้าที่กู้ภัย ผู้ช่วยแพทย์ เข้าไปห่อร่าง จากนั้นจึงตามให้ครอบครัว หรือ ญาติ เข้ามาดูศพ เป็นชุดสุดท้าย ก่อนจะเคลื่อนร่างออกจากจุดเกิดเหตุ

พล.ต.ต.อัฎธพร กล่าวอีกว่า ส่วนพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ พบหัวกระสุน 1 หัว ซึ่งยังหาอีกหนึ่งนัดไม่เจอ ปรากฎว่าล่าสุดได้รับรายงานจากแพทย์ว่า พบฝังอยู่ที่ศีรษะของ “อิคคิว” รวมถึงคราบเขม่าดินปืน ก็พบที่มือของฝ่ายชายเพียงคนเดียว เบื้องต้นจึงนำหัวกระสุนดังกล่าว ส่งให้กับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เพื่อตรวจความเชื่อมโยงกับอาวุธปืนที่พบในที่เกิดเหตุ

ส่วนกรณีที่นายภูมิพัฒน์ หรือ อิคคิว ขึ้นไปบนคอนโดฯ ของ น.ส.สุพิชชา ได้อย่างไรนั้น พล.ต.ต.อัฎธพร กล่าวว่า มีพยานหลักฐานหลายส่วน และตรวจสอบทั้งการเข้าออกของคีย์การ์ด และกล้องวงจรปิดด้านหน้าทางเข้า ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ทำการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด พบว่า น.ส.สุพิชชา เป็นคนพานายภูมิพัฒน์ ขึ้นคอนโดฯ ช่วงเวลา 04.00 น. ของวันที่ 18 เม.ย. จนถึง 13.30 น. วันที่ 19 เม.ย. ก็ยังไม่มีใครผ่านเข้าออกแต่อย่างใด จนกระทั่งแม่ และเพื่อนสาวของ น.ส.สุพิชชา เดินทางมาพบศพทั้งคู่อยู่ในห้อง ซึ่งจากรายงานทราบว่า ผู้พบศพคนแรกคือเพื่อนของ น.ส.สุพิชชา ที่พักในคอนโดฯเดียวกัน จึงทำให้ทราบรหัสประตูเข้าห้อง

พล.ต.ต.อัฎธพร กล่าวอีกว่า คอนโดมีเนียมแห่งนี้ มีความทันสมัย และมีความเป็นส่วนตัวสูง รวมถึงระบบความปลอดภัย กล้องวงจรปิดมีให้เห็นได้ชัด หลายองค์ประกอบ จากนี้ จะขอความร่วมมือผู้พักอาศัยห้องข้างเคียง มาให้ข้อมูลกับตำรวจ และเนื่องจากสภาพห้องพักเป็นห้องขนาดใหญ่ ที่มีห้องพักอยู่ภายในอีกห้อง และมีการแบ่งกั้นด้วยห้องน้ำ จึงเป็นไปได้ว่าขณะเกิดเหตุ จะไม่มีใครได้ยินเสียงปืน