ข่าว

ผบ.ตร. เผยแล้ว ปืนที่เกิดเหตุ ยิง 'จีจี้ สุพิชชา' เป็นของใคร-เก็บเสียง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ผบ.ตร. เผย ปืนที่เกิดเหตุ คดียิง 'จีจี้ สุพิชชา' มีทะเบียน เป็นของพ่อฝ่ายชาย มูลเหตุจูงใจ ความสัมพันธ์ส่วนตัว เร่งสอบ วงจรปิด

หลังเกิดข่าวช็อก วงการเน็ตไอดอล-อินฟลูเอนเซอร์ กับการเสียชีวิตของ “จีจี้ สุพิชชา” น.ส.สุพิชชา ปรีดาเจริญ เน็ตไอดอล และอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง ที่พบเป็นศพ ถูกยิง กับ นตท.ภูมิพัฒน์ ชัยวณิชยา แฟนหนุ่ม นักเรียนเตรียมทหาร ภายในคอนโดมีเนียมหรู ย่านอโศก ซึ่งล่าสุด ผบ.ตร.เผยแล้ว อาวุธปืนที่เกิดเหตุ มีทะเบียนถูกต้อง เป็นของพ่อ ของ นตท.ภูมิพัฒน์ พร้อมสั่งตรวจสอบ อาวุธปืน ที่ฝ่ายชายโพสต์ผ่านโซเชียลเป็นของใคร

 

 

 

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยความคืบหน้าด้านคดีว่า เบื้องต้นผลน่าจะยังไม่ออกมา แต่จากการดำเนินการสอบสวนพบว่า มีคนเข้าไปในที่เกิดเหตุได้เพียงแค่ 2 คน จึงเชื่อว่าน่าจะเกิดจากฝ่ายชาย ใช้อาวุธปืนยิง และมีการฆ่าตัวตาย คงไม่มีประเด็นอื่น แต่จะดูเรื่องผลพิสูจน์หลักฐาน และผลนิติวิทยาศาสตร์ให้ครบถ้วนก่อนด้วย ส่วนคราบเขม่าดินปืน จะต้องรอผลในภาพรวมอีกครั้ง จึงเป็นเพียงการสันนิษฐานเบื้องต้น

 

ตำรวจเร่งสืบคดียิง "จีจี้ สุพิชชา"

“ส่วนมูลเหตุจูงใจเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ส่วนตัว จากการตรวจสอบอาวุธปืนพบว่ามีทะเบียนถูกต้อง เป็นของบิดาฝ่ายชาย ส่วนอาวุธปืนหลายกระบอกที่มีการโพสต์ลงในโซเชียล จะต้องเข้าไปตรวจสอบว่าเป็นของใครหรือไม่ จะต้องตรวจสอบให้ครบถ้วนภายในวันนี้”

 

 

ด้าน พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า เบื้องต้นจากการที่ พิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ได้ตรวจดูทิศทางกระสุน คาดว่า ฝ่ายชายน่าจะเป็นคนก่อเหตุ แต่อย่างไรก็ตาม ก็ต้องรอทาง พฐ. สรุปวิถีกระสุนก่อน ส่วนภาพกล้องวงจรปิด อยู่ระหว่างการตรวจสอบอย่างละเอียด แต่เท่าที่ย้อนเวลากลับไปดูไทม์ไลน์ เบื้องต้นมีข้อมูลจากเพื่อนของฝ่ายหญิงว่า ทั้งคู่ได้ไปเที่ยวพัทยากันในช่วงวันสงกรานต์ ก่อนจะกลับเข้ามายังที่พัก แต่ในส่วนวันที่ 18-19 เม.ย.ที่ผ่านมานั้น ยังไล่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดอยู่

 

จีจี้ สุพิชชา

“ห้องพักที่เกิดเหตุเป็นของฝ่ายหญิง เวลาที่ฝ่ายหญิงกลับเข้าห้องพักแล้ว ส่วนใหญ่ฝ่ายหญิงจะไม่ค่อยสื่อสารกับเพื่อน เพราะเพื่อนจะไม่สนิท และไม่ค่อยลงรอยกับฝ่ายชาย จึงไม่แน่ชัดว่า ช่วงวันที่กลับเข้ามาที่ห้องพัก ทั้งคู่หรือฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ได้เข้า-ออกไปไหนกันอีกหรือไม่อย่างไร”

 

พล.ต.ท.ธิติ กล่าวว่า หลังจากเก็บหลักฐานกล้องวงจรปิด และผลสรุปของแพทย์แล้ว จะนำไปประกอบกับข้อมูลของทางนิติคอนโดฯ การติดต่อสื่อสารกับบุคคลอื่น ข้อมูลแวดล้อม โดยเฉพาะครูของฝ่ายชาย เพื่อที่จะเอามาเชื่อมโยงข้อมูลการก่อเหตุ พร้อมยืนยันว่า คดีนี้ไม่ซับซ้อน และขณะนี้ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง รวมถึงยังอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนว่า มีตัวละครเพิ่มหรือไม่  

 

จีจี้ สุพิชชา

 

“ประเด็นเรื่องปืนที่ใช้ก่อเหตุ เบื้องต้นพบว่า เป็นของฝ่ายชาย โดยจากเท่าที่ตรวจสอบ น่าจะเป็นของคนในครอบครัวของฝ่ายชาย และเป็นปืนที่ใช้ในอาชีพข้าราชการ เบื้องต้นฝ่ายชายเองก็ไม่สามารถครอบครองอาวุธปืนได้อยู่แล้ว เพราะในทางกฎหมาย ผู้ที่ครอบครองปืนได้ในวัยเท่านี้ จะต้องได้รับการรับรองอย่างถูกต้องตามกฏหมาย ว่ามีคุณสมบัติครบถ้วน ส่วนเจ้าของปืนจะมีความผิดหรือไม่ ต้องดูว่าเกี่ยวข้องในเรื่องของความประมาทหรือไม่ แต่กฎหมายยังไม่ได้ระบุ พร้อมยืนยันว่า คดีนี้ทำทุกอย่างในกรอบกฎกติกาของกฎหมาย”

 

ด้านพล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างรอผลตรวจพิสูจน์ ทั้งผลชันสูตรร่างผู้เสียชีวิตจากแพทย์นิติเวช และผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ จาก พฐ. โดยเฉพาะเรื่องคราบเขม่าดินปืน ซึ่งได้เน้นย้ำไปแล้วว่า ขอให้เร่งรัดในการดำเนินการ เพราะเป็นคดีที่สังคมสนใจ เพื่อให้ได้ความกระจ่างชัด

 

คดียิง จีจี้ สุพิชชา

 

เบื้องต้นในที่เกิดเหตุ พบหัวกระสุนตกอยู่เพียง 1 นัด ซึ่งคาดว่าเป็นกระสุนที่ยิงทะลุศีรษะของฝ่ายหญิง ส่วนหัวกระสุนที่ยิงฝ่ายชาย คาดว่าถูกฝังอยู่ในศีรษะ แต่ต้องรอความชัดเจนจากผลแพทย์อีกครั้ง

 

พล.ต.ต.อัฎธพร ระบุอีกว่า ส่วนพยานบุคคลนั้น จากการสอบถามเบื้องต้น ยังไม่พบผู้ที่ทราบเหตุการณ์ เนื่องจากห้องที่เกิดเหตุ อยู่ในตำแหน่งที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัว และเมื่อเปิดห้องเข้าไป ก็จะมีห้องโถงก่อน แล้วมีห้องนอนอยู่ชั้นในเข้าไปอีก ซึ่งจุดเกิดเหตุอยู่ภายในห้องนอน อีกทั้ง ปืนที่ใช้ก่อเหตุ คือปืน SIG SAUER (ซิก ซาวเออร์) ซึ่งเป็นปืนที่มีเสียงเบากว่าปกติ เบากว่าประทัด ทำให้ไม่มีใครได้ยินเสียงปืนขณะยิง โดยจากการสอบถามนิติบุคคลคอนโดมิเนียม ก็บอกว่าไม่ได้รู้จักลูกบ้าน สามารถให้ข้อมูลได้แค่ไฟล์กล้องวงจรปิด

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ