ตำรวจกองปราบฯ ลุยค้น 18 จุด 'เป็นต่อกรุ๊ป' รวบ คีย์แมน ตัวสำคัญ บริหารจัดการเงิน เว็บพนันออนไลน์ เครือข่าย 'สารวัตรซัว'
ตำรวจกองปราบฯ เปิดปฎิบัติการ ทลายเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ “สารวัตรซัว” ลุยค้น 18 จุด บุกทลายเครือข่ายทั่วประเทศ และยังเข้าค้นสำนักงานในเครือ “เป็นต่อกรุ๊ป” ย่านรามอินทรา หาหลักฐานเพิ่มเติม เบื้องต้นจับได้แล้ว 3 ราย โดย 1 ใน 3 เป็นคีย์แมนบริหารจัดการเงิน เว็บพนันออนไลน์ ตำรวจเตรียมแถลงรายละเอียด บ่ายวันนี้
เมื่อเวลา 06.00 น. (11 เม.ย.2566) พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รองผู้บังคับการกองปราบปราม ( ผบก.ป.) นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ กระจายกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 18 จุด ทั่วประเทศ เพื่อติดตามจับกุมผู้ต้องหาขบวนการเว็บพนันออนไลน์ของ พ.ต.ท.วสวัตติ์ มุครสกุล หรือ “สารวัตรซัว” จำนวน 9 หมายจับ
โดยเป้าหมายจุดสำคัญ อยู่ที่บ้านเลขที่ 111/278, 111/284 ตั้งอยู่ภายใน ซ.ลาซาล 32 แขวงบางนาใต้ เขตบางนา กทม. เป็นบ้านพักของ นายธนณัฐ มรกฏ หนึ่งในคีย์แมนคนสำคัญระดับแถว 2 ของ เครือข่าย “สารวัตรซัว” ที่คอยทำหน้าที่บริหาร จัดการเงินที่ได้จากการทำธุรกิจเว็บพนันออนไลน์
การตรวจค้นภายในบ้านทั้งสองหลัง ไม่พบตัวนายธนณัฐ แต่อย่างใด ขณะที่กำลังส่วนหนึ่งเข้าตรวจค้นคอนโดมีเนียมแห่งหนึ่ง ย่านศรีนครินทร์ และสามารถจับกุม นายธนณัฐได้
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังแบ่งกำลังอีกส่วน เข้าตรวจค้นสถานที่ตั้งสำนักงานบริษัทในเครือเป็นต่อกรุ๊ป ซอยรามอินทรา 5 เพื่อค้นหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งจากปฏิบัติการช่วงเช้าที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ เจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับ ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการดังกล่าวได้แล้วจำนวน 3 ราย จากผู้ต้องหาตามหมายจับกลุ่มเป้าหมาย 9 ราย ซึ่งจะมีการสรุปผลการปฏิบัติอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ในช่วงบ่ายของวันนี้ ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.)
อย่างไรก็ตาม ปฏิบัติการทลายเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ เริ่มขึ้นจากคำสั่ง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มอบ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เข้า ตรวจสอบคดี “สารวัตรซัว” อดีตตำรวจที่ถูกเปิดโปงว่า มีส่วนพัวพันเครือข่ายเว็บไซต์รับพนันออนไลน์รายใหญ่ของประเทศไทย
เชื่อมโยงบริษัทในเครือ เป็นต่อกรุ๊ป 55 บริษัท ที่มีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องการพนันออนไลน์ และฟอกเงิน หลังจากมีการเปิดโปงข้อมูล พบว่า มีนายตำรวจ เกี่ยวข้องอยู่เบื้องหน้า และหลังฉาก รับผลประโยชน์มหาศาล
ข่าวที่เกี่ยวข้อง