ข่าว

เชือดแล้ว 'จ่าสิบโทเขมรัตน์' กองทัพบก สั่งพักราชการ ล่าตัวทุกช่องทาง

เชือดแล้ว 'จ่าสิบโทเขมรัตน์' กองทัพบก สั่งพักราชการ ล่าตัวทุกช่องทาง

10 เม.ย. 2566

กองทัพบก สั่งพักราชการ 'จ่าสิบโทเขมรัตน์' ผู้ต้องหาคดี แฮกเกอร์ 9near สั่งหน่วยต้นสังกัด เร่งติดตามตัวทุกช่องทาง หลังตำรวจออกหมายเรียกภรรยา ให้ข้อมูล

หลังจากมีการออกหมายเรียก ภรรยา “จ่าสิบโทเขมรัตน์” หรือ จ่าสิบโท 9near ผู้ต้องหาคดีแฮกเกอร์ข้อมูลคนไทย 55 ล้านรายการ มาให้ข้อมูล ล่าสุด กองทัพบก ได้สั่งพักราชการ จ่าสิบโทเขมรัตน์ แล้ว พร้อมสั่งหน่วยงานต้นสังกัด เร่งติดตามตัวทุกช่องทาง นำตัวมารับโทษตามกฎหมาย

 

 

พลตรีหญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จ่าสิบโทเขมรัตน์ (สงวนนามสกุล) แฮกเกอร์ “9Near” ที่ตำรวจออกหมายจับ และเร่งล่าตัวในขณะนี้ กองทัพบก ได้ประสานงานกับตำรวจอย่างต่อเนื่อง เริ่มจากให้ข้อมูลสถานภาพทางทหารของผู้ต้องหา และการมอบหมายให้หน่วยต้นสังกัด เร่งติดตามตัวในทุกช่องทาง เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการสืบสวนสอบสวนและดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด

นอกจากนี้ ได้ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เพื่อให้ได้ข้อมูลสนับสนุนเจ้าหน้าที่อีกทางหนึ่ง ซึ่งจ่าสิบโทเขมรัตน์ ได้ขาดราชการตั้งแต่ 3 เม.ย. 2566 โดยเมื่อวันที่ 7 เม.ย. 2566 หน่วยต้นสังกัด ได้มีคำสั่งพักราชการ จ่าสิบโทเขมรัตน์ไว้แล้ว หลังจากที่ศาลได้ออกหมายจับ ในความผิดฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จฯ ในส่วนของภรรยาผู้ต้องหา ทางตำรวจได้ออกหมายเรียกให้ไปพบ ก็เป็นไปตามกระบวนการสอบสวนสืบสวน ทั้งนี้ คดีนี้เป็นการแสวงประโยชน์ส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวกับการปฏิบัติงานของทางราชการ โดยมีความผิด ทั้งทางวินัยและกฎหมายบ้านเมือง

 

อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่า กองทัพบกไม่นิ่งนอนใจในกรณีที่เกิดขึ้น ได้ประสานตำรวจ และยังคงเร่งติดตามตัว จ่าสิบโทเขมรัตน์ อย่างต่อเนื่อง เพราะตระหนักดีว่า เหตุการณ์นี้เป็นที่กังวลใจของประชาชน การดำเนินการใดๆ ที่จะช่วยคลี่คลายคดีได้โดยเร็ว กองทัพบกพร้อมดำเนินการและสนับสนุนในทุกด้าน

สำหรับโทษที่เกี่ยวข้องกับกรณี 9near จะมีความผิดตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ฯ โทษสูงสุด จําคุก 5 ปี และการนําข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้อย่างผิดกฎหมาย เข้าข่ายผิด พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล อาจถูก จําคุก 1 ปี หรือปรับ 1 ล้านบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ ต่อ 1 กรรม หรือต่อผู้เสียหาย 1 คนได้ ซึ่งนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดีอีเอส ระบุว่า คนร้ายอาจถูกลงโทษจําคุก เป็นร้อยปีได้ ขึ้นกับข้อเท็จจริง และข้อมูลที่นําไปใช้กระทําผิดกฎหมาย หรือเผยแพร่ทําให้ผู้อื่นเสียหาย