'แทนไท' ย่องเงียบ เข้ารับทราบ 2 ข้อกล่าวหา พร้อมให้การปฏิเสธ

เมื่อวานนี้ (7 เม.ย. 2566) ที่ ศูนย์คดียาเสพติด กรมสอบสวนคดีพิเศษ 'แทนไท' นายแทนไท ณรงค์กูล พร้อมทนายความ ได้เข้าพบ นายพงษธร อินอำนวย ผอ.ศูนย์คดียาเสพติด เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในคดีพิเศษที่ 6/2566 

ซึ่งเมื่อพนักงานสอบสวนพบผู้ต้องหาอยู่ต่อหน้าแล้ว จึงได้แจ้งข้อเท็จจริงและข้อกล่าวหาให้ทราบ โดยไม่มีการควบคุมตัว ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย

สืบเนื่องจากกรณีที่คณะพนักงานสอบสวนได้มีการประชุมร่วมกันก่อนมีมติออกหมายเรียกในฐานะผู้ต้องหา รวมทั้งสิ้น 4 ราย ประกอบด้วย 1.นายแทนไท ณรงค์กูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไททัน แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด 2.บริษัท ไททัน แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ส่วนอีก 2 รายที่เหลือเป็นผู้ร่วมให้กู้ยืมเงินแก่ นายพันธ์ธวัช (นายทุน) จำนวนหลักร้อยล้านบาท โดยกำหนดให้ นายแทนไท เข้ารับทราบ 2 ข้อกล่าวหา ได้แก่ ข้อหาร่วมกันฟอกเงิน และข้อหาร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนันเอาทรัพย์สินทางอิเล็กทรอนิกส์ (พนันออนไลน์) โดยไม่ได้รับอนุญาต ในวันที่ 10 เม.ย. 2566 เวลา 10.00 น. เนื่องจากพบพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงถึง

อย่างไรก็ตาม นายแทนไท ได้ปฏิเสธทั้งสองข้อกล่าวหา สำหรับรายละเอียดทางคดีเพิ่มเติมนั้น พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ จะจัดแถลงให้สื่อมวลชนทราบและสอบถามในหลากหลายประเด็นเพิ่มเติมในวันที่ 10 เม.ย. 2566 เวลา 13.30 น. ที่ ห้องรับรองกรมสอบสวนคดีพิเศษ ชั้น 2 อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ (อาคารเอ) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ นายแทนไท พบเป็นพยานจากกรณีที่พนักงานสอบสวนพบเส้นทางเงินจำนวน 200 ล้านบาทถูกฝากเข้าบัญชีธนาคาร นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ นอท กองสลากพลัส แบ่งเป็นสองรอบ รอบแรก 150 ล้านบาท และรอบที่สอง 50 ล้านบาท โดยเป็นจำนวนเงินที่ไม่พบในเส้นทางการเงินปกติระหว่างนายแทนไทและนายพันธ์ธวัช คล้ายลักษณะการทำนิติกรรมอำพราง จึงเป็นเหตุให้นายแทนไทเข้าให้การชี้แจงเกี่ยวกับเงินจำนวนดังกล่าวในฐานะพยานเมื่อวันที่ 27 ก.พ. ที่ผ่านมา 

ต่อมามีรายงานว่า คณะทำงานของกรมสอบสวนคดีพิเศษได้มีการออกหมายเรียกผู้ต้องหาได้แก่ นายแทนไท พร้อมพวกรวม 4 ราย และนัดให้เข้ารับทราบข้อหาในวันจันทร์ที่ 10 เม.ย. 2566 เวลา 10.00 น. แต่เจ้าตัวได้เดินทางมาเข้ารับทราบข้อหากับหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนก่อนกำหนดเวลา

ขณะที่ผู้ต้องหาที่เหลืออีก 2 ราย ซึ่งเป็นผู้ร่วมให้กู้ยืมเงินแก่ นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ นอท ในจำนวนหลักร้อยล้านบาทนั้น มีกำหนดเข้ารับทราบข้อหาในช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์