ประชุมชุดสอบสวนคดี อุ้มฆ่านักศึกษาสาวชาวจีน พบผู้ต้องสงสัยออกนอกประเทศ

ความคืบหน้าคดีคนร้าย อุ้มฆ่านักศึกษาสาว น.ส.จิน ซ่าน (Ms.Jin Can) อายุประมาณ 22 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 3 เอกการดนตรี กำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ชั้นปีที่ 3 ถูกฆ่ายัดถุง ลักษณะถูกพันธนาการมัดมือมัดเท้า อยู่ในร่องน้ำป่ากล้วย ติดกับถนนจงถนอม-วัดต้นเชือก หมู่ 6 ต.บางใหญ่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี

ได้มีการเรียกประชุมชุดสืบสวน  โดย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบช.น.) และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ประชุมร่วมกันเพื่อสืบสวนคลี่คลายคดี และออกติดตามเบาะแสในการติดตามกลุ่มคนร้าย ที่อุ้มฆ่านักศึกษาสาวชาวจีนแล้ว เบื้องต้นพบรถยนต์สีแดง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ซึ่งเป็นรถยนต์ต้องสงสัย ขับผ่านเข้าออกตรงจุดพบศพหลายรอบ ในช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม กลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแม่นาง ได้เชิญตัว นายสมจิตร พันธุ์มั่น คนขับรถแท็กซี่ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส สีเขียว-เหลืง หมายเลขทะเบียน 1-มข-8874 กทม. ซึ่งรับ น.ส.จิน ซ่าน มาจากมหาวิทยาลัย มาส่งที่ห้างเซ็นทรัลเวสเกต เมื่อวันที่ 28 มี.ค. เพื่อชี้จุดที่ส่งนักศึกษาชาวจีนนั่งรถโดยสาร นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังได้เชิญตัว ชาย 1 คน หญิง 3 คน ซึ่งเป็นคณะอาจารย์ที่ปรึกษาจากมหาวิทยาลัยที่นักศึกษาสาวชาวจีน ศึกษาอยู่ เดินทางเข้าพบ เพื่อให้ปากคำรายละเอียดเพิ่มเติม

โดยแนวทางการสืบสวนทราบว่า เมื่อวันที่ 31 มีนาคม เวลา 15.59 น. มีอาจารย์ที่ปรึกษานักศึกษาจีน ประจำมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ย่านธนบุรี ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.ธรรมศาลา ว่า น.ส.จิน ซ่าน อายุประมาณ 22 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 3 เอกการดนตรี ได้หายตัวไป

ซึ่งทางตัวอาจารย์ ได้รับการติดต่อจากพ่อของผู้สูญหาย ซึ่งเป็นครูสอนดนตรีที่ประเทศจีนว่า เมื่อวันที่ 29 มี.ค. ที่ผ่านมา ได้รับการติดต่อจากคนร้าย โดยใช้วีแชทของลูกสาว ส่งภาพ น.ส.จิน ซ่าน ในลักษณะถูกพันธนาการมัดมือมัดเท้ามาให้ โดยคนร้ายได้เรียกค่าไถ่เป็นเงิน 500,000 หยวน หรือราว 2,500,000 บาท ให้โอนเข้าบัญชีชาวจีนคนหนึ่ง 

แต่ผู้เป็นพ่อยังไม่แน่ใจว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น จึงไม่ได้โอนตามที่คนร้ายสั่งการ ทำให้ไม่สามารถติดต่อกับลูกสาวได้อีก เกรงว่าจะเกิดอันตราย ต่อมาเมื่อ ตำรวจ ฝ่ายสืบสวน สน.ธรรมศาลา ทำการตรวจสอบประวัติบุคคลที่สูญหายพบว่า กำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยดังกล่าว ชั้นปีที่ 3 โดยช่วงชั้นปีที่ 1 และชั้นปีที่ 2 เรียนในระบบออนไลน์ เพิ่งเข้ามาประเทศไทยเมื่อวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา เพื่อศึกษาในมหาวิทยาลัย
 

จากนั้นเมื่อลงพื้นที่ตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดในมหาวิทยาลัย ประกอบกับสอบถามพยานแวดล้อม ทราบว่า เมื่อวันที่ 28 มี.ค. ที่ผ่านมา ช่วงเย็นยังมีคนเห็น น.ส.จิน ซ่าน อยู่ในมหาวิทยาลัย จากนั้นเจ้าตัวได้นั่งรถแท็กซี่ไปที่ห้างดัง ท้องที่ จ.นนทบุรี ถึงเมื่อเวลาประมาณ 21.30 น. ของวันเดียวกัน 

ก่อนที่พ่อของ น.ส.จิน ซ่าน จะได้รับการติดต่อจากคนร้ายผ่านทางวีแชทของลูกสาว โดยส่งภาพ น.ส.จิน ซ่าน ถูกพันธนาการไปให้เพื่อเรียกค่าไถ่ และไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย ซึ่งสอดคล้องกับผลการวินิจฉัยของแพทย์ในเบื้องต้นที่พบศพว่า หญิงนิรนามที่ถูกฆ่ายัดถุงคนดังกล่าว น่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่เกิน 3 วัน ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิสูจน์อัตลักษณ์ 

พล.ต.ต.นพศิลป์ เปิดเผยก่อนประชุมว่าเบื้องต้นรับแจ้งจากสน.ธรรมศาลา ว่ามีอาจารย์มหาวิทยาลัยมาแจ้งว่านักศึกษาหายตัวไป และคนร้ายจับนักศึกษาไปเรียกค่าไถ่จำนวน 5 แสนหยวน ซึ่งวันที่ 31 มีนาคม มีพยานเห็นนักศึกษาคนดังกล่าวยังอยู่บริเวณภายในมหาวิทยาลัย ทางอาจารย์จึงเกิดความสับสนว่า นักศึกษาหายตัวไปจริงหรือไม่

จนกระทั่งวันที่ 1 เม.ย.พบศพผู้เสียชีวิตเวลา 09.00 น.ในพื้นที่สภ.บางแม่นาง และจากการตรวจสอบพบว่าเมื่อวันที่ 28 มี.ค.นักศึกษาโดยสารแท็กซี่มาที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านบางใหญ่ ซึ่งทางฝ่ายสืบสวนระดมตรวจสอบข้อมูลว่าน้องนักศึกษาคนดังกล่าวหายตัวไปวิธีใด พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบจุดพบศพ พบว่าศพถูกมัดมือเท้าตรงกับตำหนิรูปพรรณสัณฐานของผู้สูญหาย เบื้องต้นต้นตั้งคณะทำงานสืบสวนสอบสวนร่วมกัน เพื่อคลี่คลายคดีแบ่งหน้าที่กันทำงานเชื่อว่าจะได้ตัวคนร้ายเร็วๆ นี้ รองผบช.น. กล่าวว่า เบื้องต้นได้ติดตามผู้ขับขี่รถแท็กซี่ที่ส่งผู้เสียชีวิตที่ห้างดังกล่าวเพื่อมาสอบปากคำ ชี้จุดก่อนหาพยานหลักฐานมาประกอบต่อไป
มีรายงานเพิ่มเติมว่าหลังใช้เวลาประชุมนานกว่า 4 ช.ม. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. สั่งการให้ร่วมกันบูรณาการทำงานร่วมกับ บก.สส.บช.น. บก.สส.ภ.1 กก.สส.บก.น.7 กก.สส.ภ.จว.นนทบุรี บก.ตม.3 สภ.บางใหญ่ และสภ.บางแม่นาง ตรวจสอบพบว่าเมื่อวันที่ 28 มี.ค. นักศึกษาคนดังกล่าวถูกคนร้ายลักตัวไปจากมหาวิทยาลัย ต่อมาวันที่ 1 เมษายนจึงมาพบศพ จากการสืบสวนพบว่าคืนวันที่ 28 มี.ค.ต่อเนื่องวันที่ 29 มี.ค.เวลา 01.30 น. พบภาพจากกล้องวงจรปิดพบรถยนต์มาสด้าสีแดง โดยมีชายลงจากรถนำผู้เสียชีวิตมาทิ้ง   ภาพกล้องวงจรปิดยังพบชายชาวจีน 3 คนลงมาซื้อของในร้านสะดวกซื้อใกล้หมู่บ้านหรูแห่งหนึ่งย่านบางใหญ่ จากการสอบถามพยานระบุว่าชายทั้งสามคนมาซื้อของในร้านหลายครั้ง จึงสันนิษฐานว่ากลุ่มชายดังกล่าวพักอาศัยอยู่ในหมู่บ้าน จึงสืบสวนสะกดรอยจนพบบ้านที่ผู้ต้องสงสัยมาเช่าอยู่ จากการสอบถามผู้ให้เช่าให้การยืนยันว่ามาพักเช่าที่บ้านจริง โดยกลุ่มชายทั้งหมดได้ย้ายออกไปเมื่อวันที่ 29 มีนาคม ช่วงเวลา 15.00 น.รองผบช.น.กล่าวว่าตรวจสอบพบว่ารถยนต์คันต้องสงสัยเช่ามาจากเต็นท์รถแห่งหนึ่งย่านถนนเพชรบุรีตัดใหม่และถูกนำมาคืนเมื่อวันที่ 30 มี.ค.เบื้องต้นสันนิษฐานว่าน่าจะมีผู้คนจีนที่เป็นผู้ดำเนินการเช่าบ้านและรถยนต์ ทางคณะทีมสืบสวนอยู่ระหว่างติดตามตัวมาสอบปากคำ
พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่าตรวจสอบข้อมูลพบว่าผู้ต้องสงสัยทั้ง 3 คนเดินทางออกนอกประเทศไปเมื่อวันที่ 30 มี.ค. ปลายทางเฉิงตู สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งทางคณะพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเสนอศาลอนุมัติหมายจับต่อไป