ครอบครัวรับศพ 'ส.ต.อ.เศรษฐการ' สุดเศร้าอีก 2 เดือนกำลังจะมีงานวิวาห์

24 ก.พ.2566 พนักงานสอบสวน สภ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี คุมตัวนายกิตติรัช (สงวนนามสกุล)  ผู้ต้องหาขับรถชน ส.ต.อ.เศรษฐการ ลอยขามป้อม ผู้บังคับหมู่ สถานีตำรวจทางหลวง 2  กองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจทางหลวง (ส.ทล.2 กก.8 บก.ทล.) เสียชีวิต ไปขออำนาจศาลจังหวัดธัญบุรี ฝากขังในข้อหา เจตนาฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ โดยพนักงานสอบนวนคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีและเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง 

 

 

 

 

 

 

 

โดยระหว่างคุมตัวขึ้นรถนายกิตติรัช  ยืนยันว่าตนไม่มีเจตนาที่จะฆ่า ส.ต.อ.เศรษฐการ  ส่วนรายละเอียดว่าทำไมถึงหักชนรถตำรวจนั้นตนได้ให้การกับพนักงานสอบสวนไปหมดแล้ว และจะให้การอีกครั้งในชั้นศาล แต่ยืนยันว่า ไม่มีเจตนาที่จะขับรถชนตำรวจจนเสียชีวิต ส่วนหลังก่อเหตุ ได้ขึ้นแท็กซี่หลบหนีกลับไปโดยไม่ได้มีใครมารับหรือให้การช่วยเหลือ 

 

ขณะเดียวกัน ที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ  พ.ต.อ.วันชนะ ทิพย์อาสน์ ผกก.8 ส.ทล.2 บก.ทล.ผู้บังคับบัญชาพร้อมครอบครัวและแฟนสาวของ ส.ต.อ.เศรษฐการ เดินทางมารับศพด้วยความเศร้าโศกเสียใจ โดยครอบครัวผู้เสียชีวิต ปฏิเสธไม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน

 

 

 

 

ด้าน พ.ต.ท.ปรัชญา กัมลาศพิทักษ์ สวญ.กก.8 ส.ทล.2 บก.ทล. เปิดเผยว่าผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้กำชับเรื่องสิทธิประโยชน์ รวมถึงกองทุนช่วยเหลือและสวัสดิการต่างๆ ของหน่วยงานต้นสังกัด ทั้งกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กองบังคับการตำรวจทางหลวง เบื้องต้นรวมเป็นเงินได้ 7 แสนบาท ส่วนเงินในสหกรณ์จะแยกต่างหาก พร้อมพิจารณาเรื่องการปูนบำเหน็จแก่ผู้เสียชีวิต

 

 

 

 

พ.ต.ท.ปรัชญา เปิดเผยอีกว่า สายการทำงานของตำรวจทางหลวงจะแบ่งเป็นรถยนต์และรถจักรยานยนต์ตรวจเขต โดย ส.ต.อ.เศรษฐการ ทำหน้าที่ขี่รถจักรยานยนต์ ซึ่งจะปฏิบัติหน้าที่เพียงคนเดียว และก่อนเกิดเหตุ ส.ต.อ.เศรษฐการ ไปพบผู้ก่อเหตุจอดรถในที่ห้ามจอด จึงเข้าไปสอบถามแต่ไม่ได้รับความร่วมมือ และผู้ก่อเหตุก็ขับรถหลบหนีก่อนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ซึ่งถือเป็นกรณีที่ร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่ตนได้มาดำรงตำแหน่งที่นี่

 

 

 

 

 

พ.ต.ท.ปรัชญา กล่าวอีกว่า ตนในฐานะผู้บังคับบัญชาของ ส.ต.อ.เศรษฐการ ทราบว่าเจ้าตัวเป็นคนชุมแพ จ.ขอนแก่น สอบนักเรียนนายสิบตำรวจและบรรจุเป็นข้าราชการตำรวจครั้งแรกเมื่อปี 2557 ในสังกัดตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) ต่อมาปี 2562 สังกัดตำรวจจราจรกลาง(บก.จร.) และปี 2564 สังกัดที่หน่วยงานปัจจุบันได้ย่างเข้าปีที่ 3 โดยถือเป็นตำรวจรุ่นใหม่ที่มีอายุเพียง 33 ปี เป็นคนจิตใจดี มีอารมณ์ขัน และเป็นที่รักของเพื่อนร่วมงาน มีความขยัน คอยช่วยงานอยู่เสมอแม้ว่าจะออกเวรแล้ว มักจะอาสามาช่วยงานด้วยความกระตือรือร้น ทำให้เจ้าตัวได้รับความไว้วางใจจากผู้บังคับบัญชาระดับสูง จึงได้มาขับรถนำขบวนให้ผบ.ตร.

 

 

 

 

นอกจากนี้ ทราบจากเพื่อนสนิทของ ส.ต.อ.เศรษฐการ ว่ากำลังเตรียมจะเชิญผู้บังคับบัญชาไปร่วมพิธีมงคลสมรสในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า ก่อนหน้านี้เพิ่งจะมีงานเลี้ยงส่งตำรวจชั้นสารวัตรเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อนทุกคนของ ส.ต.อ.เศรษฐการ รู้สึกเศร้าเสียใจไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น 

 

 

 

 

สำหรับพิธีบำเพ็ญกุศล จะเริ่มตั้งสวดพระอภิธรรมศพตั้งแต่วันนี้ที่วัดตรีทศเทพวรวิหาร โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.จะไปร่วมพิธีด้วย ก่อนจัดพิธีฌาปนกิจในวันที่ 27 ก.พ.นี้