'อัจฉริยะ' บุกจี้ สอท. ทวงคืบหน้าตำรวจเอี่ยว 'เว็บพนันออนไลน์'

นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ เดินทางมาที่ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บช.สอท. เพื่อติดตามความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องกับ เว็บพนันออนไลน์

 

 

โดยทาง นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า วันนี้ตั้งใจเดินทางมาพบ ผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ เพื่อพูดคุยเรื่องพนันออนไลน์ 17 คดี ที่ตนที่ได้มอบข้อมูลให้ แต่กลับไม่มีความคืบหน้า ซึ่งตนเริ่มอึดอัดกับการทำงานของตำรวจที่ไม่มีการดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนายใดทั้งในและนอกราชการที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์

 

ตนจะนำป้ายรายชื่อของ ตำรวจ ที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์พนันออนไลน์ ทั้งคนที่คอยคุ้มครองดูแล และคนที่เป็นเจ้าของเว็บไปแขวนที่ด้านหน้าป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในวันจันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์นี้ เพื่อให้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รับทราบว่า ตำรวจที่เกี่ยวข้องมีใครบ้าง อีกทั้งยังประกาศให้สาธารณชนรับทราบว่า คนที่มอบหมายให้ปราบปรามคนทำผิดนั้น กลับมาคอยดูแลคนทำผิด วิ่งเต้นส่งเงิน และทำผิดเสียเอง

 

 

นายอัจฉริยะ บอกด้วยว่า จากรายชื่อตำรวจที่เกี่ยวข้องกับ เว็บพนันออนไลน์ ที่ตนมี มีตั้งแต่ระดับนายพลทั้งอดีตและปัจจุบันเป็นร้อยนาย และมีตำรวจระดับผู้บัญชาการ, ผู้บังคับการ, ผู้กำกับการ อีกเยอะมาก ส่วนที่เยอะที่สุด คือ ระดับสารวัตร ซึ่งมีชื่อของสารวัตรที่เป็นแฟนกับดาราชื่อดัง พ.พาน ด้วย 

 

 

รวมถึงรายชื่อของผู้กำกับการ บก.สอท.5 ที่เป็นเจ้าของเว็บพนันออนไลน์เอง ซึ่งจะส่งผลโดยตรงให้การทำคดี พนันออนไลน์ ของ ตำรวจไซเบอร์ ไม่คืบหน้า โดยตนมองว่าตอนนี้ บช.สอท. เป็นเหมือนซ่องโจร ที่เป็นเจ้าของ เว็บพนันออนไลน์ เอง แล้วประเทศชาติจะอยู่อย่างไร ทั้งที่มีหลักฐานครบแต่ดำเนินคดีไม่ได้เพราะตำรวจไม่ทำ

 

 

นายอัจฉริยะ ยืนยันว่า ตนมีหลักฐาน ทั้งรายชื่อการเป็นหุ้นส่วน ชื่อ เว็บไซต์ ทรัพย์สิน และเส้นทางการเงิน อยู่ที่ว่าแต่ละคนจะยอมรับหรือไม่เท่านั้น ซึ่งหากตนเปิดชื่อไปแล้วใครจะฟ้อง ก็ฟ้องได้เลย ตนไม่กลัว ทั้งนี้ ตั้งแต่ตนเปิดเผยเรื่องนี้ ตนยังไม่เคยถูกใครมาข่มขู่ แต่มีตำรวจที่ส่งหน้าม้าให้เอาเงินมาเจรจา ซึ่งถ้าตนรับจริง รวม 17 คดี ตนน่าจะได้เป็นร้อยล้าน แต่แม้แต่บาทเดียวตนก็ไม่เอา เพราะต้องการกู้ชื่อเสียงของตำรวจ

 

ขณะที่ พล.ต.ต.วิวัฒน์ คําชํานาญ รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (รองผบช.สอท.) กล่าวถึงการสืบสวนเส้นทางการเงินของกลุ่มเครือข่ายพนันออนไลน์ มาเก๊า888 ร่วมกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. เพื่อตรวจสอบความเชื่อมโยงของ นายชัยวัฒน์ ขจรบุญถาวร หรือ 'เบนซ์ เดม่อน' ผู้ต้องหาหลักในคดี กับบุคคลใกล้ชิด โดยระบุว่าจะได้ความชัดเจนในเร็วๆ นี้ ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการ 

 

 

ทั้งนี้ จากการที่ชุดทำงานได้มีการขยายผลเมื่อวานนี้ มีการเชิญตัวอินฟลูเอนเซอร์ แร็พเปอร์ และผู้ต้องหาอื่นรวม 3 คน มาให้ข้อมูล เบื้องต้น ทั้ง 3 ให้การเป็นประโยชน์ ซึ่งในส่วนผู้หญิงทั้ง 2 ราย ได้สอบปากคำไว้เป็นพยาน ส่วนแร็พเปอร์ ถ้าเจ้าหน้าที่ได้ทำการแจ้งข้อกล่าวหาชักชวนโฆษณาให้ผู้อื่นเล่นการพนันนั้น ซึ่งมีโทษจำคุก 3 เดือนสูงสุด 3 ปี และได้นำตัวส่งศาลเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา 

 

 

ขณะนี้ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างการตรวจสอบคำให้การ และข้อมูลที่ทั้ง 3 คนให้ไว้ โดยเฉพาะเรื่องผู้ว่าจ้างแต่งเพลง และให้พริ้ตตี้มาเต้นประกอบมิวสิควิดีโอเพลงมาเก๊า888 พบว่ามีการโอนเงินว่าจ้างกันชัดเจน ซึ่งได้รายงานการสืบสวนให้ฝ่ายสอบสวนพิจารณาดำเนินคดี อีกทั้งแนวทางสืบสวนพบว่าเป็นคนใกล้ชิดกับพี่น้อง 4 บ. อีกด้วย พร้อมกับขอให้เข้าพบตำรวจเพื่อให้การ ก่อนที่จะถูกออกหมายจับ 

 

 

ขณะที่ทรัพย์สินของเครือข่ายนี้ ทางตำรวจก็ได้สืบทรัพย์ไปบางส่วนแล้ว และอยู่ระหว่างการขยายผลต่อ เพื่อป้องกันการยักย้ายถ่ายเท หรือ โอนไปให้บุคคลอื่น ส่วนกลุ่มนี้เมื่อได้เงินจากการเล่น พนันออนไลน์ มาแล้ว จะนำไปเปลี่ยนแปลงเป็นทรัพย์สินอะไรบ้างนั้น ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด เพราะอยู่ในสำนวนการสอบสวน

 

 

ส่วนการที่ไปสอบข้อมูล น.ส.อริสรา ทองบริสุทธิ์ หรือ ดิว ที่ไต้หวัน ก่อนหน้านี้ และในวันที่ 16 มีนาคมนี้ ที่จะเดินทางกลับมาที่ประเทศไทย จะเข้ามาพบที่ บช.สอท. อีกครั้งเพื่อยืนยันในคำให้การในฐานะพยาน เนื่องจากการไปสอบถามข้อมูลก่อนหน้านี้ เป็นพื้นที่นอกราชอาณาจักร เป็นเพียงผู้ให้ถ้อยคำ ตำรวจ สอท. ไม่มีอำนาจการสอบสวน ซึ่งหาก 'ดิว อริสรา' มารับรองคำให้การแล้วก็จะใช้ประกอบในสำนวนคดีได้ทันที 

 

 

อย่างไรก็ตาม ส่วนข้อมูลที่ นายอัจฉริยะ นำมายื่นและติดตามในวันนี้ทราบว่าทางผู้บัญชาการ ตำรวจไซเบอร์ ได้มีการหารือเพื่อดำเนินการตรวจสอบข้อมูลที่นายอัจฉริยะมอบให้มาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้วซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการตามขั้นตอนอยู่